THE M CAFE หอศิลป์ฟิกเกอร์ ดื่มด่ำกาแฟ.. แลโมเดลของสะสม
‘แรงบันดาลใจ’ อยู่รอบตัวเรา และหาได้จากทุกที่ แม้แต่ร้านกาแฟ เชื่อสิ..
ใช่แล้วล่ะ คุณไม่ต้องไปท่องเที่ยวในที่ไกล ๆ ก็ได้ แค่มานั่งชิลร้านกาแฟ ก็ถือเป็นการชาร์จพลังกาย จิต และความคิดให้ตัวเองรูปแบบหนึ่ง แถมยังได้ดื่มด่ำกับรสชาติของกาแฟแก้วโปรดของคุณกับร้านประจำของคุณตลอดทั้งวันได้อย่าง ‘Slow Life’ ง่าย ๆ จนใคร ๆ ต้องอิจฉา
แต่ถ้ายังไม่มีคาเฟ่ร้านโปรดในดวงใจ งั้น.. ‘เถ้าแก่คาเฟ่’ ขอแนะนำให้คุณลองมานั่งชิล พร้อมดื่มด่ำกับกาแฟ ที่ THE M CAFE (เดอะเอ็มคาเฟ่) ร้านกาแฟที่เป็นมากกว่า.. ร้านกาแฟ
สำหรับ ‘คอกาแฟ’ เชื่อว่า แต่ละคนต้องมีร้านโปรดในดวงใจ หรือนักดื่มหลายคน ที่ชื่นชอบที่จะตระเวนเดินทางท่องเที่ยวไปเช็คอิน ร้านกาแฟเก๋ ๆ ตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่ง THE M CAFE ตอบโจทย์พวกคุณเลยล่ะ
ต้องบอกว่า ที่นี่เป็นร้านกาแฟในตำนานอีกร้านที่ไม่ควรพลาด! ซึ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ (คนกรุงเทพฯ และปริมณฑล เดินทางมาได้สะดวกสบาย) เพราะนอกจากจะได้ดื่มด่ำกับกาแฟรสเข้มข้นกลมกล่อม และเบเกอรี่หอมกรุ่นสดใหม่อร่อยได้คุณภาพที่ทางร้านพร้อมต้อนรับทุกท่านแล้วนั้น
กำไรที่คุณจะได้รับเพิ่มเมื่อสัมผัสแรกที่ก้าวเข้ามาในร้าน คือ บรรยากาศการตกแต่งร้านสไตล์ Temporary Classic หรือที่ใครหลายคนเรียกว่า แนวลอฟท์ (LOFT) บอกได้เลยว่า น่านั่งโคตร ๆ ! โอ้.. สวรรค์ของคอกาแฟที่แท้ทรู!
ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะจุดเด่นที่เป็นสุดยอด Signature เกิดเป็นกระแสบอกต่อกันในโลกออนไลน์ คือ ที่นี่เป็น “คลังแสง Figure” หรืออาณาจักรของสะสมคอลเลคชั่นโมเดลการ์ตูน ซุปเปอร์ฮีโร่ และตัวละครหลายเรื่อง รวมไปถึงบุคคลดังระดับโลกที่มีชื่อเสียงแขนงต่าง ๆ ซึ่งถูกรวบรวมอยู่ที่ร้านกาแฟแห่งนี้ อารมณ์เหมือน.. คุณได้เข้ามาดื่มด่ำกาแฟ แล้วยังได้เดินเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ฟิกเกอร์อย่างไรอย่างนั้น
ทีมงาน ‘เว็บไซต์เถ้าแก่คาเฟ่’ อดใจไม่ไหวจริง ๆ ต้องมาตามกระแส Viral โดยอยากมาชิมกาแฟ-เบเกอรี่ด้วย และอยากที่จะมา (ส่อง) ชื่นชมเหล่าบรรดาฟิกเกอร์ให้เห็นกับตาตัวเองด้วย ซึ่งถือว่า โชคดีมากและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่เราได้มีโอกาสพบและพูดคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้พบ คือ คุณเก้ง-วรภัทร ฉัตรวชิระกุล บิ๊กบอส THE M CAFE แห่งนี้ (เจ้าของตัวจริงคือภรรยา) ซึ่ง ‘คุณเก้ง’ บอกเราว่ามีติดธุระกะทันหัน แต่ก็ยังยินดีสละเวลามาพูดคุยกับเราก่อน น่ารักจริง ๆ และขอขอบคุณ คุณเก้ง มากครับ
ไม่ช้า.. เราก็คว้าตัว คุณเก้ง เข้ามานั่งสนทนาในมุมหนึ่งของร้านทันที พร้อมกับยิงคำถามแรกที่อัดอั้นมานาน..
Q : เอาฟิกเกอร์มากมายขนาดนี้มาจากไหน?
A จริง ๆ คือมันก็เป็นของสะสมของผมนั่นล่ะ โดยก็ซื้อมาจากต่างประเทศบ้าง และสั่งซื้อมาจากหลาย ๆ ที่ ๆ เขาผลิต แต่ด้วยความที่สะสมมานาน พอวันเวลาผ่านไป ของทุกอย่างมันก็เพิ่มมูลค่าของมันเอง คือ นอกเหนือจากราคา After Market ที่มันเพิ่มขึ้น ซึ่งในส่วนราคาซื้อขายมันก็ขยับสูงขึ้นตามไปด้วยตามยุคสมัย ลองคิดดูว่า ของสะสมเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กับราคาซื้อขายตอนนี้ก็ค่อนข้างต่างกับ 10 ปีที่แล้วพอสมควรนะครับ
Q : สะสมเพราะส่วนตัวชอบอยู่แล้วหรือเปล่า?
Aเราก็เริ่มต้นเหมือนเด็กผู้ชายทั่วไป ชอบอ่านการ์ตูน ชอบดูหนัง ชื่นชอบหุ่นยนต์ ซุปเปอร์ฮีโร่ เราก็อยากที่จะได้เอากลับมาเล่นหรือดูที่บ้าน ก็เริ่มจากสะสมชิ้นเล็ก ๆ พอนานวันเข้าก็เริ่มลามไปเป็นของสะสมชิ้นใหญ่ขึ้น และมีราคาสูงขึ้น
ส่วนพ่อแม่ แรก ๆ ที่เราเก็บสะสมตัวเล็ก ๆ ก็ไม่ค่อยมีปัญหา แต่พอเริ่มเยอะขึ้น เริ่มชิ้นใหญ่ขึ้น พอถึงจุดหนึ่งท่านก็มองว่า มันเป็นของสิ้นเปลือง แต่สุดท้ายพอท่านเห็นว่า เรายังชอบเก็บสะสมอยู่เรื่อย ๆ ท่านก็เข้าใจแหละว่า เป็นความชอบของเราจริง ๆ
กอปรกับ พอเราโตขึ้นมา เราก็ทำงาน มีรายได้ของตัวเอง ก็ซื้อของพวกนี้โดยที่ไม่เดือดร้อนพวกท่านอีกแล้ว มันก็ไม่ค่อยมีปัญหาตรงนี้สักเท่าไหร่ แต่ปัญหาช่วงหลัง ๆ ส่วนใหญ่ คือ สถานที่เก็บ..เสียมากกว่า เพราะผมเริ่มเอาไปฝากไว้บ้านญาติพี่น้องบ้าง ซึ่งพวกเขาก็เริ่มจะบ่น ๆ แล้วล่ะ (555+)
Q : แล้วการทำร้านกาแฟ กับ ของสะสมซึ่งเกิดจากความชอบส่วนตัว มันมาบรรจบกันได้อย่างไร?
Aแนวคิดก็คงเหมือนคนที่อยากทำร้านกาแฟทั่ว ๆ ไป บวกกับภรรยาของผมเรียนและประกอบอาชีพมาด้านทำเบเกอรี่, ขนมเค้กโดยตรง ซึ่งภรรยาผมก็อยากจะทำร้านกาแฟอยู่แล้ว ส่วนตัวผมก็อยากได้ร้านกาแฟที่มีธีมประมาณนี้ด้วย คือ เอาความชอบของภรรยาและของผมมารวมกัน เหมือนเจอกันครึ่งทาง จึงกลายเป็น Signature ของ THE M CAFE
สมมติว่า ถ้าเราไม่ทำร้านกาแฟ ของสะสมพวกนี้มักไม่ค่อยจะมีที่ไป หรือการจะทำดิสเพลย์ เอาของพวกนี้ไปตั้งโชว์ในบ้านก็ค่อนข้างจะสูญเปล่า คือ เราอยากแชร์ให้คนอื่นได้ดูด้วย เหมือนกับว่าอารมณ์ของสะสมของใคร ๆ ก็อยากอวดจริงไหม ซึ่งเรามีของดี ก็อยากจะปล่อยออกมาให้คนอื่นได้เห็นด้วย จริง ๆ ผมเชื่อว่า มีอีกหลายคนที่สะสมของพวกนี้มากกว่าผมอีกเยอะมาก เพียงแต่ผมมีโอกาสที่ได้นำออกมาจัดโชว์เป็นดิสเพลย์ในร้านกาแฟแบบเนียน ๆ ให้ลูกค้าหรือคนทั่วไปได้เข้ามาเดินดูได้แบบชิล ๆ
Q : มีความรู้เรื่องบริหารร้านและทำกาแฟมาก่อนไหม?
Aต้องบอกก่อนว่า THE M CAFE ปัจจุบัน (พ.ศ.2563) เข้าสู่ปีที่ 4 แล้ว ส่วนเรื่องทำร้านกาแฟ เอาจริง ๆ ผมเป็นแค่คนเสพหรือคนดื่มเหมือนกับหลาย ๆ คนแค่นั้นเอง โดยไม่เคยมีความรู้ด้านกาแฟมาก่อนเลย จะเริ่มมาศึกษาและทดลองฝึกทำก็ตอนก่อนจะเปิดร้าน ซึ่งเราได้ไปดิวซ์กับซัพพลายเออร์ โดยเราซื้อเครื่องและอุปกรณ์ชง และบริษัทก็เปิดคอร์สสอนกาแฟ ผม, ภรรยา รวมถึงพนักงานที่ร้านจึงไปเรียนกันครบทุกคน คือ ความรู้ในเรื่องกาแฟ ส่วนตัวจะมีเยอะในมุมของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ความรู้ในส่วนของคนขาย, คนทำกาแฟ ผมเริ่มจากศูนย์
“ผมคิดง่าย ๆ คือ ตอนแรกเราพยายามคิดแค่ว่า เราชอบอะไร เราก็จะพยายามนำพาตัวเองให้ไปอยู่ในจุด ๆ นั้นให้ได้”
Q : ทำไม? ถึงเลือกทำเลนี้
Aจุดเริ่มต้นที่อยากทำร้าน คือ เราเคยมองหาทำเลในเมืองย่านพระราม 9 แต่ด้วย Traffic ซึ่งแออัดมาก และผมมองว่า พระราม 9 ขยับขยายไปต่อไม่ได้แล้ว เราจึงหันมามองพื้นที่รอบนอกเมือง บวกกับของสะสมของเรา ซึ่งก็มีจำนวนไม่ใช่น้อย ๆ ซึ่งถ้าไปอยู่ในเมือง พื้นที่ทำร้านเราน่าจะไม่พอแน่ ๆ เพราะทุกอย่างจะถูกยัดไปอยู่ในตู้ ซึ่งมันอาจไม่ใช่ดิสเพลย์ที่เราต้องการ
เพราะภาพในหัวของผม คือ ต้องการพื้นที่ร้านที่กว้างพอสมควร ก็เลยตัดสินใจหาทำเลนอกเมืองดีกว่า และเพื่อมาหากลุ่มลูกค้าใหม่เลยด้วย จึงได้พื้นที่นี้ที่เราต้องการ และใกล้เคียงกับภาพในหัวเรามากที่สุด
Q : ช่วงแรกของการเปิดร้าน หาลูกค้าอย่างไร?
Aบอกตรง ๆ ว่า ผมแทบไม่ได้ทำการตลาดประชาสัมพันธ์อะไรเลย เพียงแต่ว่าตอนดำเนินการก่อสร้างร้าน ผมไม่ได้ล้อมรั้ว ซึ่งคนใช้รถที่สัญจรผ่านไปมา เขาก็คงเห็นว่า คือตึกอะไร ซึ่งพอค่อย ๆ ก่อสร้างร้าน ทำให้เป็นจุดสังเกต หลายคนขับรถผ่านในซอยก็สงสัย มีหลายคนที่อดใจไม่ไหว และเป็น ‘ผู้กล้า’ ขับรถเลี้ยวเข้ามาดู ว่ามันคือสถานที่อะไร พอรู้ว่าเป็นร้านกาแฟ ก็เริ่มมีการบอกต่อ และเริ่มมีคนเข้ามาทดลองใช้บริการ
นอกจากนี้ เท่าที่ผมได้พูดคุยกับลูกค้าซึ่งเป็นขาประจำของร้าน เขาบอกว่า เกิดการบอกปากต่อปากจาก LINE ของหมู่บ้านซึ่งแถวนี้หมู่บ้านจัดสรรมีจำนวนมากพอสมควร ทำให้ร้านของเราเป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว เป็นความโชคดีที่ลูกค้าช่วย Marketing ให้ผม โดยที่ผมไม่ต้องทำอะไรเลยจริง ๆ แต่ก็เป็นข้อเสียของผมอย่างหนึ่ง คือ ทำให้เราไม่ค่อยขยับตัวไปทำในเรื่อง Marketing ทั้งออฟไลน์และออนไลน์สักเท่าไหร่
Q : ยอดขายในแต่ละวันเป็นอย่างไร?
Aจริง ๆ ก็เกี่ยวโยงกับการหาทำเลในตอนแรกด้วย คือ เราอยู่นอกเมือง ไม่ใช่ในเมืองที่ Traffic แน่นมาก มันก็จะมีความเสี่ยง ที่เราคิดว่า แล้วคนจะตามมากินมั้ย แต่โชคดี ทำเลที่เราเลือกอยู่ปากทางเข้าจากถนนเส้นหลัก ส่วนข้างในซอยก็เป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรรซึ่งมีจำนวนค่อนข้างมาก ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่คิดว่า คนจะพลุกพล่านขนาดนี้ โชคดีคือเราทำร้านไป แล้วความเจริญในพื้นที่ก็ค่อย ๆ เติบโตไปพร้อมกัน
เราจึงได้ทั้งลูกค้าขาจร ซึ่งกลายมาเป็นลูกค้าประจำของร้านเราด้วย โดยกลุ่มลูกค้าก็จะมีทั้งมาเป็นครอบครัว, หรือนักศึกษามาติวเวลาใกล้สอบ เพราะร้านเราอยู่ใกล้กับ ม.บางมด (ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี) โดยเราพร้อมเป็น ‘คลับเฮ้าส์’ ของคนที่พักอาศัยในหมู่บ้านจัดสรรแถวนี้
THE M CAFE เป็นร้านกาแฟแบบบ้าน ๆ ในชุมชน แต่ก็แอบเล่นใหญ่ ในส่วนการบริหารร้าน ผมและภรรยาจะลงมาเปิดร้านเองทุกวัน (ถ้าไม่ติดธุระ) แฟนผมจะจัดเตรียมทำขนมทุกเช้า โดยร้านเราเปิดทุกวัน (ปิดวันพุธ) ตั้งแต่ 08.30 - 19.00 น. โดยเราจ้างพนักงานกะเดียว เราบริหารเวลาได้ ให้พนักงานเข้าสายและเน้นปิดร้าน
บริการร้านของเรา ปัจจุบันก็จะเป็นกลุ่มกาแฟสด, เครื่องดื่มต่าง ๆ, ขนม และเบเกอรี่ ซึ่งจะยังไม่มีอาหาร แต่อนาคตก็แพลนเอาไว้ว่าจะขยายทำเป็นครัวหลักเพื่อทำอาหารขายให้กับลูกค้า
ส่วนเรื่องราคาขายกาแฟ ผมเน้นขายลูกค้ากลุ่มกว้าง เฉลี่ยกาแฟ และเครื่องดื่มเริ่มต้นแก้วละ 50 บาท ด้วยโซนชานเมือง คนไม่ได้เสพกาแฟราคาพรีเมียมจำนวนเยอะเหมือนในเมืองโซนสุขุมวิท, พระราม 9 ฯลฯ ขนาดนั้น เราจึงเลือก Quality วัตถุดิบกาแฟที่เหมาะสมที่เราจะนำมาทำขายลูกค้าที่สามารถจับจ่ายได้ในราคาเอื้อมถึง แต่คุณภาพวัตถุดิบเทียบเท่าระดับพรีเมียม
Q : วัตถุดิบทางร้านใช้ของดีมีคุณภาพอย่างไรบ้าง?
Aทุกวัตถุดิบเราคัดสรรให้กับลูกค้าแน่นอนอยู่แล้ว อย่างเช่น เมล็ดกาแฟใช้ ‘กาแฟไทยพรีเมี่ยม’ ของไทย มาจาก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เป็นพันธุ์อาราบิก้า 100% (Arabica Coffee) เราเสาะหาซัพพลายเออร์ที่ได้คุณภาพ คัดสรรเมล็ดกาแฟให้ และเราดิวซ์กับซัพพลายเออร์ที่เขาส่งเสริมชาวบ้านให้เพาะปลูกกาแฟซึ่งมีโรงคั่วของตัวเอง ตลอดจนในเรื่องการผลิตเราสามารถดิวซ์กับซัพพลายเออร์ ในเรื่องกำหนดสเปคเมล็ดกาแฟได้โดยตรง
วัตถุดิบสำคัญ อื่น ๆ เช่น ‘นมสด’ ก็เช่นกัน เราดิวซ์ตรงกับบริษัทที่เป็นเจ้าของฟาร์มนมโคคุณภาพ ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี จัดส่งนมคุณภาพเกรดพรีเมี่ยมให้กับร้าน นำมาใช้ชงเครื่องดื่มให้กับลูกค้า เป็นต้น
ขอให้ลูกค้ามั่นใจว่า THE M CAFE ใช้วัตถุดิบคุณภาพมาโดยตลอด เพื่อให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุด ในส่วนเรื่องของรสชาติ มันขึ้นอยู่กับรสนิยม เป็นเรื่องของความชอบแต่ละบุคคล เพราะเรื่องรสชาติเป็นเรื่องนามธรรม ที่เราไม่สามารถจับต้องได้เลย ทว่า รสชาติมันปรับกันได้ เช่น ลูกค้าสามารถเติมน้ำตาลเพิ่มความหวานได้เอง หรือสั่งกับทางร้านขอเพิ่ม / ลดหวานได้ แต่สิ่งที่จับต้องได้ และพิสูจน์ให้คนทั่วไปรู้ คือ เราใช้วัตถุดิบที่ดี
“เราไม่ได้นำวัตถุดิบเกรดถูกมาทำขายให้ลูกค้าในราคาแพง แต่เราเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ มาทำขายให้ลูกค้าในราคาสมเหตุสมผล นั่นคือสิ่งที่ผมคิดว่า ลูกค้ารู้”
สำหรับ ‘เบเกอรี่’ ของทางร้าน จะมีทั้งสัดส่วนที่ภรรยาผมทำเอง กับที่สั่งจากซัพพลายเออร์ให้มาส่งเป็นประจำ ซึ่งเราทำการคัดเลือกและทดสอบชิมดูก่อนจนมั่นใจในรสชาติ ไม่ต้องอร่อยเวอร์ แต่คือรสชาติใช้ได้ คิดว่าถูกปากลูกค้าโดยส่วนใหญ่ จึงรับเข้ามาขายหน้าร้าน
ในส่วนเบเกอรี่ ซึ่งที่ร้านจำหน่าย สัดส่วนทำเอง และรับจากซัพพลายเออร์ 50 : 50 โดยจะแบ่งเป็นหมวด ๆ เช่น เค้ก ขนมปัง และ ครัวซองต์ (Croissant) ตัวอย่างเช่น ภรรยาผมจะทำครัวซองต์เอง โดยวัตถุดิบคุณภาพสูง เลือกใช้ ‘เนยสด’ นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศส เป็นครัวซองต์ที่ทำจากเนยสดฝรั่งเศสจริง ๆ ไม่ใช่ทำจากมาการีน
Q : ช่วงเวลาใด? ที่ร้านคนเยอะสุด
Aจะเป็นช่วงวันเสาร์ - อาทิตย์ ของต้นเดือน คือ เหมือนคนเงินเดือนออก เรียกว่า ผมกับภรรยาห้ามมีธุระเด็ดขาด! เพราะไปไหนไม่ได้จริง ๆ ลูกค้าจะแน่นร้านตั้งแต่ช่วงเช้า ผมจะช่วยทำกาแฟ เช็ดโต๊ะ รับลูกค้ากับพนักงานตลอดทั้งวันจนปิดร้าน บางครั้ง ที่นั่งไม่พอ ลูกค้าต้องยืนรอก็มี แต่เรามีสเปซให้ลูกค้าได้เดินเล่น ดูฟิกเกอร์ มีมุมให้ Relax ลูกค้ารอได้ ซึ่งเราก็ขอขอบคุณที่ลูกค้ารอเรา
ผมมองว่า ลูกค้าก็ไม่มายด์ ว่าต้องมานั่งดื่มกาแฟที่ร้าน คือถ้าโต๊ะเต็ม ลูกค้าก็ซื้อ TO GO กลับบ้าน หรือก็เดินเล่นในร้านได้ชิล ๆ ดูฟิกเกอร์ได้อย่างอิสระ สำหรับกลุ่มลูกค้าเรียกว่าทุกเพศทุกวัย ทั้งคนทำงานออฟฟิศ, วัยเกษียณ, มาแบบครอบครัว คือ พ่อแม่แวะมานั่งเล่นเพื่อรอรับลูกเลิกเรียน, นักศึกษารวมตัวติวหนังสือก่อนสอบ, ฟรีแลนซ์เข้ามานั่งเปิดโน้ตบุ๊กทำงาน ฯลฯ
Q : แล้วมีบริการอื่น ๆ ที่น่าสนใจอะไรบ้าง ไว้คอยบริการลูกค้า?
ATHE M CAFE จะมีสเปซห้องว่างที่ชั้น 2 ที่เราใช้เป็นสถานที่ประชุม, สัมมนา, ทำกิจกรรม, เวิร์คช็อปต่าง ๆ ก็มีกลุ่มลูกค้าหรือคนที่สนใจติดต่อมาเพื่อใช้สถานที่ของเราเหมือนกัน ซึ่งเราก็ยินดี และมีการจัด Workshop ไปแล้วหลายกิจกรรม ตัวอย่างเช่น กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครองรวมตัวพาบุตรหลานมาทำกิจกรรม วาดภาพระบายสี, สอนปั้นโมเดลการ์ตูนสำหรับเด็ก ๆ เป็นต้น
ซึ่งห้องว่างของเราไม่ใช่ห้องใหญ่โตอะไร ก็คล้ายร้านกาแฟอื่น ๆ ที่มีห้องว่างไว้รับรองกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนเยอะพอสมควร เช่น 10-20 ท่าน ก็มีสิทธิ์เข้าไปใช้ห้องประชุมของเราได้ เหมือนเป็นห้อง Private, เป็น Co-Working Space และเป็นห้องจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปต่าง ๆ หรือ ลูกค้าที่สนใจอยากจะทำเวิร์คช็อปเกี่ยวกับอะไร และอยากใช้ห้องของทางร้าน ก็สามารถโทรศัพท์ติดต่อ หรือ Inbox ใน Facebook มาสอบถามกับทางร้านเราก่อนได้ครับ
อย่างที่บอกไป คือ เราก็พยายามจะมีส่วนร่วมกับชุมชนอย่างสร้างสรรค์ และเราก็ยินดีที่จะ Provide สถานที่เพื่ออำนวยความสะดวกให้สำหรับทุกท่าน
Q : ช่วงโควิด-19 กระทบกับร้านอย่างไรบ้าง?
Aช่วงล็อคดาวน์ เราก็ปิดร้านไปเต็ม ๆ 2 เดือน ไม่มีขายออนไลน์ด้วย ก็กระทบพอสมควรเลย ซึ่งเราก็มีแจ้งลูกค้า และพูดคุยกับพนักงานในร้านว่า เราจะแบกรับและดูแลทุกคน แต่ถ้าเกินกว่า 2-3 เดือนในช่วงนั้น เราอาจจะต้องมีการขยับอะไรสักอย่างเหมือนกัน แต่พอผ่าน 2 เดือน ก็ประจวบเหมาะที่ภาครัฐประกาศค่อย ๆ ผ่อนคลายล็อคฯ เราก็กลับมาเปิดร้าน แล้วก็ทำตามกฎระเบียบ คือ จัดร้านหลวม ๆ เว้นระยะ ฯลฯ พอเปิดร้าน ลูกค้าก็ค่อย ๆ กลับเข้ามาใช้บริการเรื่อย ๆ ไม่ได้ตูมตามมาก แต่ก็ค่อย ๆ กลับคืนสู่ปกติ อาจจะเงียบบ้าง แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่เราบริหารร้านต่อไปได้ แต่ก็ถือว่า วิกฤตโควิด-19 หนักสุดแล้ว แต่เราก็ผ่านมาได้
ซึ่งจากวิกฤตโควิดฯ ถึงตอนนี้ เราก็พยายามอัปเดตข่าวสาร และจัดโปรโมชั่น ผ่าน Page Facebook ร้านเรามากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา ผมยอมรับว่า ร้านกาแฟเราค่อนข้างขายบรรยากาศมากกว่ารสชาติ ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เราจึงไม่ได้เน้นช่องทางออนไลน์มากนัก แต่ก็ไม่ได้ทิ้ง เพราะยุคนี้คือ Digital Marketing จริง ๆ
Q : ความยากง่ายในการทำธุรกิจร้านกาแฟ คืออะไร?
Aขอบอกผ่านประสบการณ์ตรงละกันว่า คนที่อยากเปิดร้านกาแฟ ต้องรู้ก่อนว่า จำนวนร้านกาแฟมีมากมายในประเทศไทย และยังผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดรายวัน ไม่ว่าจะขนาดเล็ก กลาง ใหญ่ แบรนด์อินดี้ แบรนด์ดังระดับพรีเมี่ยม ก็มีมากมายในแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด มันเยอะมากจริง ๆ คือ คุณกำลังกระโดดเข้ามาต่อสู้กับธุรกิจที่แข่งขันกันฟาดฟันกันสูงมาก ซึ่งผมมองว่า ร้านกาแฟเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่กลุ่มคนที่ดื่มกาแฟ ไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกับร้านนะครับ
เพราะฉะนั้น คุณต้องมองเห็นกลุ่มลูกค้าของร้านที่คุณจะทำ ให้เห็นภาพในหัวก่อนว่า กลุ่มลูกค้าของคุณคือกลุ่มไหน เพราะหากว่า คุณจะเปิดร้านกาแฟก่อน แล้วค่อยมาคาดหวังกลุ่มลูกค้าเข้าร้าน ซึ่งมันไม่ถูกต้องและเสี่ยงมาก อย่างเช่นที่ผมบอกตอนต้นว่า ผมพิจารณาทำเลแถวพระราม 9 ซึ่งกลุ่มลูกค้าและกำลังซื้อคนละเรื่อง กับที่ถนนพุทธบูชานี้เลยนะ
พื้นที่แถวซอยพุทธบูชา ผมมองว่า มันยังเติบโตต่อไปได้อีก แม้ว่าปัจจุบันในพื้นที่จะเริ่มมีร้านกาแฟเกิดขึ้นบ้างแล้วก็ตาม แต่เราก็ยังมั่นใจว่า เราก็มีกลุ่มลูกค้าของเรา ผมเริ่มทำธุรกิจแบบมวยวัด ไม่มีการเริ่มต้นวางแผนและการตลาดที่ชัดเจน โดยอาจจะใช้ความรู้สึกและความมั่นใจในตัวเองพอสมควร และกล้าที่จะวัดผลไปกับมัน ซึ่งมันคือข้อเสียของผม ไม่ควรทำตามครับ
ผมเป็นสาย Feeling และสายอิโมชั่นที่ชัดเจน แต่ว่า ผมมั่นใจว่า ผมเข้าใจในบริบทของพื้นที่ชุมชนนี้พอสมควร ไม่ใช่ทำมั่ว ๆ โดยมีการ Research ในแบบของตัวเอง และปรึกษาภรรยาและครอบครัว จนกระทั่งเห็นพ้องต้องกันว่า มันน่าจะไปได้ ผมจึงมั่นใจและลุยเต็มร้อย! จนกลายเป็น THE M CAFE เช่นทุกวันนี้
ผมมองว่า ผมโชคดีและรู้สึกขอบคุณลูกค้า ที่ยังจงรักภักดีกับแบรนด์ของเรา ซึ่งถ้าไม่มีเหตุผลให้เปลี่ยนร้านดื่ม ลูกค้าก็ยังเข้ามาใช้บริการร้านเราเหมือนเดิม เหตุเพราะความสะดวกของร้านที่เรามีให้ลูกค้าหลาย ๆ อย่าง นอกจากบรรยากาศ เช่น มีที่จอดรถเพียงพอ, เครื่องดื่ม และ เบเกอรี่ราคาไม่แพง ซึ่งทุกคนสามารถจับจ่ายซื้อรับประทานทุกวันได้อย่างสบาย
Q : เป้าหมายหรือสิ่งที่อยากจะทำเพิ่มมีอะไรบ้าง?
Aที่คิดไว้ คือ อนาคต อยากจะเพิ่มเติมในส่วนของอาหารและคาเฟ่เต็มรูปแบบ คือ เราเห็นช่องทางที่มันสามารถพัฒนาต่อได้ แต่ขณะนี้เรายังขาดในเรื่องของบุคลากร และในส่วนของการออกแบบหรือ Renovate หรือจัดสร้างครัวหนัก ซึ่งใช้ทำอาหาร ซึ่งตอนนี้เรามีแค่ครัวเบา รองรับการทำเบเกอรี่เพียงอย่างเดียว
ส่วนตัวผมมองว่า ร้านอาหารมันเป็นสเกล ซึ่งถ้าเราไม่พร้อม ก็ยังไม่ควรกระโดดลงไปทำ ซึ่งเราควรจะต้องศึกษาให้มากพอจนมั่นใจเสียก่อน รวมไปถึงพื้นที่ของร้านในส่วนที่ไม่ทำเงิน เราอาจจะมีการปรับเปลี่ยนให้เกิดรายได้บ้าง เช่น อาจจะทำห้องสปา เป็นต้น หรืออะไรที่ไปได้กับร้านกาแฟ หรือไปได้กับลูกค้าทุกกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการ Service สมาชิกในครอบครัวได้ทุกคน เช่น คุณพ่ออยากมานั่งดื่มกาแฟ, คุณแม่อาจจะเข้ามานวดหรือทำเล็บ ส่วนคุณลูกเข้ามา workshop หรืออยากดูของสะสมในร้าน อะไรแบบนี้ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า THE M CAFE ผูกพันกับชุมชนนี้ไปแล้ว หรือตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ปัจจุบัน เราก็รับฝากขายผลิตภัณฑ์แฮนด์เมด เช่น กระเป๋าผ้าเย็บทำมือ, ขนม, เครื่องดื่มสุขภาพ ฯลฯ ซึ่งคนที่ทำ คือ กลุ่มคนด้อยโอกาส หรือเด็กพิเศษ เป็นต้น เพื่อเป็นสื่อกลางและช่องทางจำหน่ายสร้างรายได้ให้กับพวกเขา แต่เราก็คัดเลือกในการรับฝากขายหน้าร้านด้วย อันไหนที่มีคอนเซ็ปต์ มีเหตุมีผล มีจุดขาย มีเรื่องราว เราก็ยินดีช่วยรับฝากขายหน้าร้านให้ได้ครับ
ขอเชิญชวน วันหยุดนี้ สำหรับคอกาแฟ ที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ ดื่มด่ำกาแฟ และเบเกอรี่หอมกรุ่นสดใหม่ทุกวัน ในราคาสบายกระเป๋า พร้อมเสพบรรยากาศร้านสุดชิค กับ Gallery ฟิกเกอร์อัดแน่นเต็มร้าน พาคุณย้อนวันวานไปในสมัยวัยเด็ก จนคุณต้องฟินและอมยิ้มอย่างแน่นอน ที่นี่ที่เดียว THE M CAFE
Tel : 061 676 3232
Facebook : Mcafegallery
วันเวลาทำการ : 08.00 - 19.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)