ท้าให้ลอง! คอคนรักเนื้อ @เสือต้มเนื้อ ตำรับเนื้อต้มบ้านสิงห์

ว่าด้วยเรื่องราวใน จ.ราชบุรี ถ้าพูดถึงของเด่นของดัง หลายคนต้องนึกถึง ‘โอ่ง’ แต่ถ้าพูดถึงอาหารกินก็มีของเด่นประจำจังหวัดอยู่ไม่น้อย อาทิ สับปะรดบ้านคา, เต้าหู้โพธาราม หรือ เมนูหมูหัน ที่รสชาติเข้มข้น กรอบอร่อยก็มีอยู่หลายสถานที่  
           
และอีกเมนูขึ้นชื่อ โดยเฉพาะ ‘สายเนื้อ’ ผ่านไปราชบุรีไม่ควรพลาด คือ ‘เนื้อต้มบ้านสิงห์’ ตำนานความแซ่บของก๋วยเตี๋ยวเนื้อและเมนูอื่น ๆ ที่ทำจากเนื้อต้มรสเลิศ ซึ่งใครก็รู้ว่า มีต้นกำเนิดมาจาก จ.ราชบุรี
 

           
แต่สำหรับคนที่อยากกิน ‘เนื้อต้มบ้านสิงห์’ ตอนนี้ไม่ต้องขับไปถึงราชบุรีแล้ว เพราะคุณสามารถมา Check In ความอร่อยของ เนื้อต้มบ้านสิงห์ ต้นตำรับราชบุรี ได้แล้วที่ร้าน “เสื้อต้มเนื้อ” (Zaap Tiger) ตั้งอยู่ในซอยชินเขต 1 (งามวงศ์วาน 43) ซึ่งตกแต่งและเปิดเป็น ‘ร้านสไตล์ CAFÉ ก๋วยเตี๋ยวของคนชอบทานเนื้อ’ (เมนูหมูก็มีนะจ๊ะ)
           
โดยซิกเนเจอร์ บุกถ้ำเสือ! มาแล้วต้องจัด! แน่นอน คือ เกาเหลาต้มบ้านสิงห์, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้มบ้านสิงห์, ลวกจิ้ม (เนื้อรวมบ้านสิงห์) และเสือหม้อไฟ (หม้อไฟเนื้อรวมบ้านสิงห์)

             

เสือต้มเนื้อ (Zaap Tiger) คาเฟ่สำหรับคนชอบทานเนื้อ & หมู โดยเฉพาะเนื้อต้มตำรับบ้านสิงห์ ก่อตั้งแบรนด์และบริหารโดย คุณธาวิน ธารากุลทิพย์ (คุณตี๋) อดีตหนุ่มพนักงานออฟฟิศ ที่คร่ำหวอดอยู่ในแวดวงสายงาน Creative และผู้จัดงานอีเว้นท์ ทำงานในบริษัทชั้นนำระดับประเทศมาอย่างยาวนาน โดยเคยได้รับเงินเดือนหลักแสนบาท แต่เนื่องจากวิกฤต COVID-19 บริษัทที่ทำอยู่จำเป็นต้องลดภาระค่าใช้จ่าย นั่นคือ การปลดพนักงานบางส่วนออก
             
คุณธาวิน แม้ว่า ไม่ได้มีชื่อติดโผในการถูก Lay-Off แต่ก็มีเหตุผลส่วนตัว และมองว่า เป็นจังหวะเวลาที่เหมาะสม ควรจะเริ่มต้นทำในสิ่งที่ฝันและทำอะไรสักอย่างที่ตัวเองได้วางแผนเอาไว้ จึงตัดสินใจเดินออกจาก Comfort Zone และออกมาสร้างโปรเจ็คใหม่ของตนเอง และนั่นคือ จุดเริ่มต้นของ เสือต้มเนื้อ (Zaap Tiger)

 



Q : กินหรูอยู่สบาย.. แล้วทำไม ? จึงออกมาทำธุรกิจสวนวิกฤตเช่นนี้

A : คือ ต้องบอกก่อนว่า เราไม่ได้อินดี้นะ แต่ส่วนตัวทำงานในบริษัทเกี่ยวกับอีเว้นท์ระดับประเทศมานาน แต่พอโควิดฯ เข้ามาเมืองไทยปุ๊บ ทุกอย่างหยุดชะงัก และคนในวงการนี้จะรู้เลยว่า สัญญาณเตือนมาแล้ว เพราะงานอีเว้นท์ คือ การต้อง Road Show ออกไปจัดกิจกรรม ออกบูธไปจัดแสดงสินค้าต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งโควิดฯ กระทบกับสายงานนี้เรียกว่าเกือบ 100%

ซึ่งตอนนั้นเป็นช่วงกลางปี 2563 พอดี ที่คนไทยทุกคนก็ต่างวิตกกังวลและเฝ้าดูสถานการณ์ในประเทศอย่างใกล้ชิด โดยส่วนตัวเหตุผลจริง ๆ ที่ลาออก คือ การเดินทางไปทำงานที่บริษัทค่อนข้างระยะทางไกลพอสมควร คือ ผมพักอยู่แถว ๆ รังสิต แต่ออฟฟิศอยู่แถวบางนา

แต่ถ้าจะให้ตอบแบบเท่ ๆ (555+) ก็รู้สึกอิ่มตัวเหมือนกัน พอเกิดวิกฤตโควิดฯ นี้ขึ้นมา เราจึงมองว่า ต้องการแสวงหาความท้าทายให้ตัวเอง แล้วก็เพราะว่า ตัวเองอายุมากแล้วด้วย เพราะฉะนั้น การเริ่มต้นทำสิ่งใหม่ ๆ ให้กับตัวเองในช่วงเวลานี้ น่าจะเหมาะสมที่สุด

ซึ่งในหัวผมคิดทำหลายอย่าง เช่น ทำแบรนด์เสื้อผ้า ทำแบรนด์อาหารเสริม เพราะส่วนตัวก็มี Connection อยู่บ้าง แต่ก็มองว่า ด้วยวิกฤตโควิดฯ , สภาพเศรษฐกิจ ปัจจัยหลายอย่าง บวกกับการทำอาหารเสริมใช้เงินลงทุนสูง

สุดท้ายมาตอบโจทย์ที่ว่า ตัวเองเป็นคนราชบุรี และชอบกินเนื้อต้มบ้านสิงห์ ซึ่งทุกครั้งที่ขับรถกลับบ้าน ผมจะมีร้านประจำอยู่ใน ต.บ้านสิงห์ แวะกินประจำ และมองว่า ของอร่อย ๆ ที่บ้านเกิด หากสามารถหากินได้ในกรุงเทพฯ ก็คงจะดี

นั่นจึงจุดประกายให้มีความต้องการที่จะเปิดร้านต้มเนื้อบ้านสิงห์ โดยคนกรุงเทพฯ ไม่ต้องไปไกลถึง จ.ราชบุรี ก็แวะมากินได้ รสชาติเหมือนต้นตำรับแน่นอน
 

  Q : แล้วสูตรและคอนเซ็ปต์ตกแต่งร้านได้มาจากไหน

A : ต้องบอกว่า ผมอาศัย ‘ลูกตื๊อ’ กับเจ้าของสูตรเนื้อต้มบ้านสิงห์ที่ผมชื่นชอบทาน ซึ่งเป็นแม่เฒ่าคนหนึ่ง เพื่อขอเรียนรู้สูตรจากท่าน สุดท้ายท่านก็ใจอ่อนยอมถ่ายทอดสูตรให้กับเรา แต่มันเป็นแค่สูตรคร่าว ๆ ซึ่งผมก็ต้องเอามาพัฒนาต่อยอด ทดลองทำด้วยตัวเอง

ส่วนตัวก็ถามจากเพื่อน ๆ ด้วย แล้วก็ศึกษาจาก Google และ Youtube ด้วยเช่นกัน จนกระทั่งคิดว่าได้รสชาติที่ใช่และลงตัวที่สุด ทำให้ครอบครัว, ญาติพี่น้อง และเพื่อนฝูงได้ชิมและติชมกัน ซึ่งก็ได้รับ Feedback ในทิศทางที่ดี ทำให้เรามั่นใจและพร้อมนำของดีราชบุรีมาขายในกรุงเทพฯ  

ส่วนคอนเซ็ปต์ร้านเกิดจากที่ผมอยากทำร้านที่ตอบโจทย์กลุ่มคนทำงานเป็นหลัก และกลุ่มคนที่ชื่นชอบทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อหรือต้มเนื้อแซ่บ ๆ ในร้านติดแอร์ เหมือนกับนั่งคาเฟ่แบบชิล ๆ สบาย ๆ ไม่ต้องร้อน

เพราะเราสังเกตว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวส่วนใหญ่มักไม่ติดแอร์ และคนที่นั่งทานส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนทำงาน คือ ทำงานมาเหนื่อย ๆ แต่ก็ต้องมานั่งร้อน ๆ ทานก๋วยเตี๋ยวอีก ซึ่งผมอยากให้ลูกค้าได้มานั่งทานแบบชิล ๆ แต่รสชาติแซ่บถึงใจในบรรยากาศที่เย็นสบาย

ในส่วนทำเล ผมได้รับคำแนะนำจากเพื่อน ๆ ว่า ชินเขต 1 เป็นซอยที่มีชุมชนคนพลุกพล่าน มีคอนโดฯ , หอพัก, อพาร์ทเม้นท์ รวมถึงความเจริญเกิดขึ้นมาก

อีกทั้ง อยู่ใกล้สถานที่สำคัญ ได้แก่ ม.ธุรกิจบัณฑิต, นอร์ธปาร์ค หลักสี่, เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ซึ่งผมได้ลงพื้นที่มาสำรวจด้วยตัวเอง ซึ่งส่วนตัวก็ชอบเหมือนกัน จึงมองหา location ในซอยนี้ จนกระทั่งได้ที่ปัจจุบัน และ Built สร้างเป็นร้านเสือต้มเนื้อ โดยเปิดร้านวันแรก 9 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา
 
 
Q : เมนูที่ร้านรสชาติแซ่บตำรับบ้านสิงห์ เกิดจากสูตรและการคัดสรรวัตถุดิบด้วยไหม

A : ต้องบอกว่า ทุกเมนู ทุกชาม เราให้ความสำคัญในทุกกระบวนการปรุง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ นั่นคือ การเสิร์ฟถึงผู้บริโภคหรือลูกค้าที่เข้ามาทานที่ร้านให้เกิดความประทับใจและให้เข้าถึงรสชาติเนื้อต้มตำรับบ้านสิงห์อย่างดีที่สุด

ทั้งนี้ ต้องขอบคุณและให้เครดิต ‘ซัพพลายเออร์’ ที่เป็น partner ของเราที่ดีด้วย  ตัวอย่างเช่น เนื้อ เราคัดสรรจาก เนื้อโคขุนโพนยางคำของดีจาก จ.สกลนคร

ส่วนผัก เราคัดสรรจากฟาร์มออร์แกนิคอย่างดี ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี (แอร์วาฟาร์ม) เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และ ‘กะเพราแดง’ ที่หอมเป็นพิเศษ และ ‘พริกขี้หนูสวน’  ที่ปรุงทุกเมนูแซ่บอย่างแน่นอน และการันตี อร่อย สะอาด ปลอดภัย ทุกเมนูทุกชาม
 
 

เมนู (เด่น) ร้านเสือต้มเนื้อ (Zaap Tiger)

เสือเกาเหลา
• เกาเหลาเนื้อต้มบ้านสิงห์
• เกาเหลาเนื้อ
• เสือบ้านสิงห์ อาริง กิง กิ๊ง กับท่านขุนแดนอีสาน (เกาเหลาเนื้อโพนยางคำต้มบ้านสิงห์)

เสือก๋วยเตี๋ยว (เส้นเล็ก / หมี่ขาว / บะหมี่  / มาม่า)
• ก๋วยเตี๋ยวเนื้อต้มบ้านสิงห์
• ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ
• ก๋วยเตี๋ยวเนื้อโพนยางคำบ้านสิงห์

เสือลวกจิ้ม
• เนื้อรวมบ้านสิงห์
• เนื้อล้วนบ้านสิงห์
• เนื้อโพนยางคำล้วนบ้านสิงห์
• ลูกชิ้นเนื้อลวกเจ้าดังราชบุรี

เสือหม้อไฟ
• หม้อไฟเนื้อรวมบ้านสิงห์ (เนื้อสด + เนื้อตุ๋น + ลูกชิ้นเนื้อ + เครื่องใน)
• หม้อไฟเนื้อล้วนบ้านสิงห์ (เนื้อสด + เนื้อตุ๋น + ลูกชิ้นเนื้อ)

เสือกินเล่น
• ลูกชิ้นเนื้อปิ้งเจ้าดังราชบุรี
• โคขุนโพนยางคำปิ้งสะดิ้ง (ดั้งเดิม / พริกไทยดำ / หม่าล่า)

หมายเหตุ : ยังมีเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย และทุกเมนูเนื้อที่มีในร้าน จะมี “หมู” ซึ่งทำเสิร์ฟลูกค้าได้เช่นเดียวกัน
 



Q : กลยุทธ์การทำตลาด / การสร้างแบรนด์

A : ผมมองว่า การที่เราออกจากงานประจำมาทำร้านของตัวเอง ก็เหมือนเราออกมาทำโปรเจ็คส่วนตัว เพราะฉะนั้น เราต้องลงมือทำเองทั้งหมด เพื่อที่จะได้รู้ปัญหาและหาแนวทางแก้ไขได้

ยกตัวอย่างเช่น ระบบร้านเราบริหารจัดการโดยใช้ระบบ POS (Point of Sale System) ทันสมัย สะดวกรวดเร็ว และจัดการง่าย เพราะฉะนั้น เราจึงรู้ว่า Fixed Course แต่ละวันเราเท่าไหร่ ต้องขายให้ได้เท่าไหร่ กำไรเหลือเท่าไหร่ และต้องหักค่าเช่าที่ ค่าพนักงาน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าวัตถุดิบสั่งของต่าง ๆ ฯลฯ คงเหลือกำไรเท่าไหร่บ้าง

ซึ่งช่วงเริ่มต้นแน่นอนว่า คงไม่ได้กำไรแน่นอน แต่ขอให้ไม่ขาดทุนก็พอแล้ว และถ้าพอเริ่มมีลูกค้า มันจะค่อย ๆ ดีขึ้น และเราจะเห็นผลประกอบการที่จับต้องได้เอง
 

 
Q : การตลาดแบบเสือ..?

A : ตอนนี้ เราลุยทำการตลาดผ่านทุกช่องทางที่ทำได้ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และเราผูกร้านกับแอพฯ บริการรับ / ส่งอาหารแบรนด์ชั้นนำของประเทศเกือบทั้งหมด เพื่อบริการทำและจัดส่ง Delivery ให้กับลูกค้าทุกท่าน นอกจากนี้ เสือต้มเนื้อ ยังได้เข้าร่วม ‘โครงการคนละครึ่ง’ อีกด้วย


 
“สำหรับแผนการโปรโมทร้านในระยะสั้น เร็ว ๆ นี้ รูปแบบออฟไลน์ ยกตัวอย่างเช่น การแจกใบปลิวตามคอนโดฯ หอพัก แหล่งออฟฟิศในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อสร้างการรับรู้ให้กลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ  หรือหน้าร้านก็มีการจัดทำโปรโมชั่น เช่น หากลูกค้าท่านใดประสงค์สั่งกลับบ้าน มูลค่า 200 บาทขึ้นไป เราจัดส่งฟรี! เป็นต้น

ส่วนการตลาดออนไลน์ ยกตัวอย่างเช่น  Boots Post เฟซบุ๊ก เจาะรัศมีประมาณ 15-20 กม. นอกจากนี้ยังมีการโปรโมทผ่าน Page Facebook และใช้บริการ Influencer เจ้าดังต่าง ๆ เป็นต้น โดยเราทำควบคู่กันไป แล้ววิเคราะห์ ประเมิน เพื่อวางแผนการตลาดในปี 2564 และในระยะต่อไป”
 

 
Q : เป้าหมายของ เสือต้มเนื้อ

A : จริง ๆ  มีหลายคนที่เริ่มรู้จักร้านเสือต้มเนื้อ สอบถามกันมาว่า ขายแฟรนไชส์มั้ย ซึ่งตอนนี้ เราคงยังไม่พร้อมในเรื่องการสร้างระบบแฟรนไชส์ แต่มันคือเรือธงที่เราตั้งเป้าไว้อยากจะไปให้ถึงเหมือนกัน

ตอนนี้ ขอโฟกัสเรื่องการควบคุมคุณภาพสินค้าและเน้นเรื่องการสร้างแบรนด์ และสร้างฐานลูกค้าให้นิ่งเสียก่อน โดย Next Step ที่จะทำจริง ๆ คือ การขอดิวซ์ออกร้านขึ้นห้างสรรพสินค้า เช่น เดอะมอลล์ และ เซ็นทรัล คือ เราต้องเอาตัวเราไปออกตามอีเว้นท์ หรืองานเทศกาลออกบูธร้านอาหาร เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคและเราจะได้ฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น จากนั้นถ้าเราเดินตามแผนแล้วทุกอย่างไปได้สวย เราค่อยขยับขยายทำแฟรนไชส์

 

Q : ให้ฝากข้อคิดดี ๆ ถึงเพื่อนผู้ประกอบการธุรกิจให้ฝ่าฟันอุปสรรคและบริหารธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จในสภาวะวิกฤตต่าง ๆ เช่นนี้

A : ผมมองว่า อุปสรรคหลัก ๆ มีอยู่ 2 ข้อ คือ 1.เรื่องปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจ โควิดฯ และอื่น ๆ ซึ่งข้อนี้ ทุกคนคงได้รับผลกระทบไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ ก็ขอให้บริหารธุรกิจอย่างมีสติ และควรมีแผนสำรองหรือคิดวางแผนหาแนวทางรับมือกับปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นเสมอ

ส่วนอุปสรรคข้อที่ 2. คือ ‘ตัวเราเอง’ ซึ่งผมมองว่า ข้อนี้ สำคัญ เพราะทุกคนมีต้นทุนชีวิตและความคิดที่แตกต่างกัน มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ และบริบทครอบครัว, การทำธุรกิจไม่เหมือนกัน เปรียบเทียบกันยาก

แต่หากคุณรู้สึกเครียด หรือท้อแท้เมื่อไหร่ ผมแนะนำให้ขอกำลังใจและขอคำปรึกษาจากคนข้าง ๆ  เพราะผมเจอกับตัวเองเหมือนกัน อารมณ์ความรู้สึกเคย Down มาก ๆ แต่ก็กลับมาได้เพราะคนข้าง ๆ

การที่เราจะทำอะไรก็ตาม จะต้องมีคนข้าง ๆ เสมอ เพื่อเป็นกำลังใจ เป็นที่ปรึกษาให้กับคุณ เมื่อเกิดปัญหา แล้วแก้ไขด้วยตัวคนเดียวไม่ได้ ให้มองคนใกล้ตัวก่อน เช่น ครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง หรือคู่ค้าซึ่งเป็น partner กับเรา ซึ่งคุณสามารถขอคำปรึกษาจากพวกเขาเหล่านี้ , ช่วยแชร์ความคิด / ประสบการณ์ , ช่วยสนับสนุนธุรกิจของคุณได้

เพราะฉะนั้น ถ้าเจอปัญหาหรือท้อแท้ ให้ลองมองหาคนข้าง ๆ เขาอาจจะช่วยให้คำตอบและเป็นกำลังใจที่ดีให้คุณสามารถฝ่าฟันผ่านพ้นอุปสรรคทุกอย่างไปได้อย่างราบรื่น

 
          “ผมเน้นสร้างคุณค่าให้ตัวสินค้า ก่อนที่จะคำนึงถึงเรื่องของราคา ผมคิดว่า คนเราก็เหมือนแบรนด์ ต้องสร้าง Value ให้ตัวเองก่อน เปรียบเหมือนกับเราทำงานบริษัท ถ้าเราไม่สร้างผลงาน ไม่สร้างคุณค่าเพื่อทำประโยชน์ให้องค์กร แล้วใครจะมาเล็งเห็นหรือชื่นชมคุณ แต่ถ้าคุณสร้างตัวตนให้มีคุณค่า แล้วคุณจะมีราคาเอง และเป็น THE MUST สำหรับองค์กรอย่างแน่นอน”
 

ช่องทางติดต่อ เสือต้มเนื้อ (Zaap Tiger)
Tel : 061 865 9888
Facebook : เสือต้มเนื้อ
Email : thawin.tha@gmail.com