“สุกี้นายพัน” ต้นแบบเถ้าแก่สู้ชีวิต ชีวิตสู้กลับ แต่ไม่หวั่น !! ลุยเปิดแฟรนไชส์ สวนกระแสพิษเศรษฐกิจ-โควิด

แรงบันดาลใจ สามารถสร้างได้และมองหามันเจอได้ทุกที่ เริ่มต้นง่าย ๆ จากการเรียนรู้หรือได้พูดคุยกับคนที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจหรือสายอาชีพนั้น ๆ ที่ได้มาแชร์บอกเล่าประสบการณ์การฝ่าฟันปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ทั้งการดำเนินชีวิต และการสร้างธุรกิจขึ้นมากว่าจะสมดังเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ ซึ่งเรื่องราวของบุคคลที่สำเร็จเหล่านี้ สามารถจุดพลังไฟในตัวคุณให้ลุกโชนขึ้นมาได้อยู่เสมอ
 

เช่นเดียวกับครั้งนี้ ที่ทีมงานเถ้าแก่คาเฟ่ ได้มีโอกาสแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนทักทายกับเจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่งย่าน ม.หอการค้าไทย (ในซอยวิภาวดีรังสิต แยก 6) หลังจากที่เกิดวิกฤตโควิด-19 ระบาดมาอย่างยาวนานร่วม 2-3 ปีในประเทศไทย แต่ครั้งนี้ ถึงเวลาต้องแวะมาทักทายกันสักหน่อยจริง ๆ แล้วล่ะ นั่นคือร้าน “สุกี้นายพัน”

“สุกี้นายพัน” เจ้าของคือ คุณอำพัน พงศ์พันธ์ (เฮียพัน) ที่เปิดร้านมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ผ่านวิกฤตมาแล้วทุกยุคทุกสมัย รวมถึงสภาพเศรษฐกิจและโควิด-19 ในปัจจุบันนี้ด้วยเช่นกัน
 
ซึ่งร้านก็ยังเปิดให้บริการมาโดยตลอด ซึ่งมีร้านต้นแบบอยู่ตรงข้าม ม.หอการค้าไทย (ซ.วิภาวดีรังสิต 2 ตรงข้ามกับทางเข้ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ 10400) 

ที่บอกว่า เป็นร้านต้นแบบ เพราะปัจจุบัน เมื่อเข้าสู่ปี 2022 มานี้ (พ.ศ.2565) เฮียพัน ได้ขยายธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์สุกี้นายพัน เปิดไปแล้วร่วม 10 สาขาแฟรนไชส์ ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัด สวนกระแสวิกฤตเศรษฐกิจและโควิด-19 ที่ยังทรง ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้นสักเท่าไหร่


สนใจแฟรนไชส์ คลิกลงทะเบียน https://www.taokaecafe.com/franchise-detail/824


   
ยำ 12 บาท สุกี้หน้ามอ เด็กหอการค้า เขารู้กัน !! 

สำหรับหลายคนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงธุรกิจ SME หรือแฟรนไชส์ ก็คงจะไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตาสักเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณได้มีโอกาสผ่านไปย่านห้วยขวาง หรือละแวก ม.หอการค้าไทย เพื่ออยากชิมเมนูสุกี้ของเฮียพันแล้วล่ะก็ ให้คุณลองสอบถามนักศึกษา หรือพี่วินมอเตอร์ไซค์รับจ้างแถวนั้นว่า ร้านสุกี้ หรือร้านยำ/ส้มตำนายพัน ไปทางไหน รู้จักไหม ? เชื่อได้ว่า หลายคนต้องบอกว่า รู้จักและชี้นิ้วบอกทางไปร้านนายพันให้คุณได้อย่างแน่นอน

จริง ๆ แล้ว คุณพัน หรือ เฮียพัน เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางมานานแล้ว โด่งดังจากการได้ถูกเชื้อเชิญและสัมภาษณ์ตามสื่อต่าง ๆ ทั้งรายการโทรทัศน์ สื่อท้องถิ่น สื่อนิตยสาร สื่อออฟไลน์และสื่อออนไลน์หลายค่ายหลายสำนัก อาทิ โพสต์ทูเดย์ , เดลินิวส์ , รายการตลาดสดสนามเป้า , SME ชี้ช่องรวย , เถ้าแก่คาเฟ่ ฯลฯ เป็นเครื่องการันตีได้ว่า มาตรฐานและความอร่อยของ ‘สุกี้นายพัน’ นั้นของจริง !!
  ลูกเล่นหรือจุดเด่น ที่สร้างชื่อให้ เฮียพัน อีกอย่าง คือ การริเริ่มขายเมนูยำ/ส้มตำ เสิร์ฟใส่จานเล็ก ๆ พอดีคำ แล้วขายแค่ 12 บาทเท่านั้น ด้วยรสชาติน้ำยำที่แซ่บ !! เกินปริมาณและราคา ทำให้ถูกปากถูกใจผู้บริโภคจำนวนมาก

โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน นักศึกษา หนุ่มสาววัยทำงาน ต่างเข้ามาอุดหนุนกันเป็นประจำ และบอกกันปากต่อปาก หรือโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้ ยำ และ สุกี้นายพัน เป็นที่รู้จักเป็นวงกว้าง

ในอดีตเฮียพัน ก็มีเส้นทางชีวิตเหมือนคนทั่วไป ครอบครัวฐานะทางบ้านปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง หรือเกิดมาแล้วมีพร้อม ไม่ได้มีมรดกเก่าแก่จากบรรพบุรุษไว้คอยอุ้มชูหนุนนำ เพียงแต่มีแค่แรงกายและแรงใจ มันสมองและสองมือของตัวเองเท่านั้น เพื่อสร้างชีวิตให้ดีขึ้นและเดินตามความฝันให้เป็นจริงให้ได้
 
สมัยวัยรุ่นหนุ่มเฟี้ยว ! คุณพัน ก็เคยทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทเอกชน ในสมัยนั้นต้องย้อนกลับไปกว่า 20-30 ปี ทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือน พเนจรเดินทางไปต่างจังหวัดบ้าง เข้ากรุงเทพฯ บ้าง โดยเคยทำงานอยู่แถว จ.ชลบุรี แล้วต้องกลับเข้ากรุงเทพฯ ในวันเดียวกัน เพราะคำสั่งของหัวหน้า ภายใต้ความรับผิดชอบเรื่องงานอยู่บ่อยครั้ง 

ซึ่งด้วยสายงานที่ได้ทำ คุณพัน จึงต้องเดินสายชีพจรลงเท้าเป็นเช่นนี้อยู่บ่อย ๆ แต่ก็ไม่เคยหยุดฝันที่อยากจะเป็นเถ้าแก่ อยากมีร้านอาหารเล็ก ๆ เป็นของตนเอง

จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นในการพาตัวเอง เมื่อมีเวลาว่างหลังเลิกงานหรือวันหยุด ก็จะฝึกฝนฝีมือการทำอาหารแต่ละเมนู ทั้งเมนูข้าวแบบง่าย ๆ เมนูเส้น หรือฝึกทำขนมต่าง ๆ  อาหารอีสาน ฯลฯ ซึ่งเฮียพันทำได้หมด คงเพราะส่วนตัวก็ชอบเข้าครัวทำอาหารอยู่แล้ว
 
จนกระทั่งมาลงเอยที่ สุกี้ ที่คุณพัน มองว่า ตนเองทำได้อร่อยมากที่สุด เพราะมีโอกาสทำให้เพื่อน ๆ หรือคนรู้จักทานอยู่บ่อย ๆ และทุกคนก็ออกปากชม ทำให้คุณพัน ใช้คำติชมนี้เป็นแรงผลักดันในการพัฒนาตัวเอง ฝึกฝนฝีมือการทำสุกี้ให้หาตัวจับยากมากที่สุด และเก็บหอมรอมริบเงินจากการทำงานประจำ จนกระทั่งสามารถตระเวนหาพื้นที่เช่าเพื่อเปิดร้านขายสุกี้ขนาดเล็ก ๆ ร้านแรกของคุณพันได้ในที่สุด

คุณพัน ทำงานประจำและเปิดร้านขายสุกี้ช่วงเย็นหลังเลิกงาน ควบคู่กันไป โดยบริหารชีวิตอย่างดีที่สุด งานประจำไม่เสีย งานเสริมยังไปต่อได้ด้วยดี แต่ยอมรับว่า เหนื่อย และใช้ความอดทนเป็นอย่างสูง แต่พอเห็นเงินแล้วก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง 
 
จนกระทั่งผ่านไปร่วมปี ร้านสุกี้นายพัน เริ่มอยู่ตัว ประกอบกับมาถึงจุดเปลี่ยนของชีวิต คุณพัน อีกครั้ง ที่เริ่มอิ่มตัวกับงานประจำ บวกกับต้องการเดินตามฝันเพื่อขยับขยายร้านสุกี้ ซึ่งขณะนั้นกิจการค่อย ๆ เติบโตมาด้วยดี ซึ่งคุณพัน อยากหาทำเลเปิดในกรุงเทพฯ เพราะจะได้กลับมาใช้ชีวิตในเมืองหลวงอีกครั้ง

ด้วยความที่เป็นศิษย์เก่า ม.หอการค้าไทย จึงเสาะแสวงหาทำเลที่เหมาะสมที่ตนเองเคยศึกษาอยู่ที่นี่และรู้ Location ในพื้นที่ค่อนข้างดี จนกระทั่งได้ทำเลเปิดร้านที่คิดว่า เหมาะสมและคิดว่าจะลงหลักปักฐานกับที่แห่งนี้ ซึ่งก็คือ ร้านสุกี้นายพัน ในซอยวิภาวดีรังสิต 2 แยก 6 ตรงข้ามทางเข้า ม.หอการค้าไทย ในปัจจุบันนี้นั่นเอง

 
ท้อแต่ไม่ถอย ปั้น สุกี้นายพัน สู่แฟรนไชส์ให้คนมีอาชีพ

โดยผ่านมากว่า 15 ปี สำหรับ ร้านสุกี้นายพัน ยังคงเปิดให้บริการทุกวัน (จะหยุดก็มีตามเทศกาลบ้าง เช่น ปีใหม่ , สงกรานต์)

อย่างไรก็ตาม แม้ 2-3 ปีมานี้ จะต้องเผชิญพิษเศรษฐกิจและโควิด-19 ก็ตาม ซึ่งก็เป็นเหมือนกันหมดทุกคน แต่ ร้านสุกี้นายพัน ก็ยังคงมีออร์เดอร์ และมีลูกค้าเข้าร้านอย่างสม่ำเสมอ แม้ลูกค้าจะจำนวนไม่ได้เยอะ เหมือนกับสมัยก่อนที่ยังไม่เคยเกิดโรคระบาด แต่เฮียพันก็ยังคงบริหารร้านและเปิดให้บริการตามปกติ

เคล็ด (ไม่) ลับ ที่ทำให้ เฮียพัน อยู่รอดมาทุกยุคสมัยคือ การพาตัวเองและธุรกิจเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ คือผูกกับ Application Food Delivery แม้เรท GP. ค่าธรรมเนียมในแอปฯ ต่าง ๆ จะค่อนข้างสูง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เป็นทางรอดสำหรับร้านอาหารยุคนี้ 
 
เคล็ดไม่ลับ อีกอย่างคือ การรักษาคุณภาพมาตรฐาน ของรสชาติอาหาร และราคาที่ขายให้กับผู้บริโภค ที่ยังคงเดิม ไม่ขึ้นราคาตามกระแสวัตถุดิบ เนื้อสัตว์ ของทะเล ผัก ที่ขึ้นลงเป็น Yoyo !! ทำให้สามาถรักษาฐานลูกค้าเก่าได้อย่างเหนียวแน่น พร้อมกับสร้างลูกค้ารายใหม่ได้เรื่อย ๆ

คุณพัน (เฮียพัน) ได้กล่าวฝากถึงคนที่กำลังประสบปัญหาต่าง ๆ ในขณะนี้ รวมไปถึงกล่าวฝากแบรนด์ ‘สุกี้นายพัน’ สำหรับคนที่กำลังมองหาอาชีพทั้งทำเป็นรายได้หลักหรือทำเสริมอีกด้วยว่า การดำเนินชีวิตและการทำธุรกิจ เหมือนกัน คือย่อมมีสุข ทุกข์ ปัญหาอุปสรรค ปะปนกัน เป็นเรื่องธรรมดา

สิ่งสำคัญคือ มองหากำลังใจจากคนใกล้ตัว นำมาเป็นพลังกายและใจในการขับเคลื่อนชีวิต เช่น พ่อแม่ คนในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือแม้แต่ Partner ในการทำธุรกิจ โดยคอยแนะนำ เติมกำลังใจให้แก่กันในช่วงเวลาที่เกิดปัญหา คอยชี้แนะแนวทางในการใช้ชีวิตและการประกอบสัมมาอาชีพให้แก่กัน คนเรามักมีพลังแฝง มีก๊อก 2 ก๊อก 3 ซ่อนอยู่ และเชื่อว่า คุณจะผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากนั้นไปได้อย่างแน่นอน


เปิดตัว แฟรนไชส์สุกี้นายพัน มีโปรฯ พิเศษ ! คลิก https://www.taokaecafe.com/franchise-intrend-detail/1045 


 
“ สำหรับแฟรนไชส์สุกี้นายพัน เป็นธุรกิจและอาชีพที่ขายได้จริง เลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้แน่นอน โดยผมจะถ่ายทอดความรู้ให้ทั้งหมด สอนจากประสบการณ์จริงกว่า 15 ปีที่ทำธุรกิจนี้มา เพราะเราผ่านมาทุกอย่างและทุกยุคแล้ว รับรองเลยว่า สุกี้และยำขายคู่กันได้ และช่วยเพิ่มยอดขายให้ดีอีกด้วย

นอกจากขายหน้าร้าน ก็ยังขายออนไลน์ผ่านแอปฯ รับส่งอาหาร Delivery ได้อีก ยอดขายครึ่งหมื่นต่อวันไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน เพราะอาหารถึงอย่างไรก็ขายได้ แล้วก็สุกี้, ยำ, กุ้งอบวุ้นเส้น, ไก่ทอดซอสเกาหลี เราคัดมาแล้วว่า คนไทยชอบกิน ขายดี ขายได้ทุกกลุ่ม ขายได้ทุกวัน 

ผมกล้ารับรองได้ว่า หากได้ทำเลที่เหมาะสม เช่น ศูนย์อาหารในสำนักงาน บริษัท , หรือที่คนพลุกพล่านจริง ๆ  และถ้าทำทุกอย่างอย่างที่ผมได้แนะนำไป รับรองว่า 3-4 เดือนก็คืนทุนแล้ว และที่เหลือ คือ กำไรเข้ากระเป๋าคุณอย่างเดียวแล้วครับ ”