“โก๋ป๊ะคะ” แฟรนไชส์ปาท่องโก๋มาแรง !! โกยยอดขายวันละหมื่น ทำได้จริง

ก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 กับการบุกเบิกและปลุกปั้นสร้างแบรนด์ “โก๋ป๊ะคะ” แฟรนไชส์ร้านปาท่องโก๋ ที่ฉีกกฎความอร่อยของปาท่องโก๋ในรูปแบบเดิม ๆ  จากวันแรกของการเริ่มต้นเปิดร้านแรกขายที่เกาะสมุย จนกระทั่งต่อยอด และขยายกิจการแฟรนไชส์มาเรื่อย ๆ จนถึงวันนี้ครอบครัวแฟรนไชส์ “โก๋ป๊ะคะ”  มีสาขามากกว่า 200 แห่งทั่วประเทศแล้ว


คลิกดูข้อมูลธุรกิจ "โก๋ป๊ะคะ"
>> https://www.taokaecafe.com/franchise-detail.asp?f=213  <<

 

           
Kho Pa Ka หรือ “โก๋ป๊ะคะ”  แฟรนไชส์ปาท่องโก๋รูปแบบใหม่ หนึ่งเดียวในไทยที่ทำตลาดมาร่วม 1 ทศวรรษ บริหารโดยพี่น้องในครอบครัวทั้งหมด 7 คน โดยหัวเรือใหญ่หรือผู้ที่ขับเคลื่อนและบุกเบิกสร้างแฟรนไชส์จนกิจการเติบโตมาถึงวันนี้ คือ คุณปู-นัยนา เจริญศรี และ คุณดวง-ดวงบุหลัน แซ่ฮั่น

จุดเริ่มต้นของ “โก๋ป๊ะคะ”  ถ้าเป็นรูปแบบแฟรนไชส์นั้น ดำเนินธุรกิจขึ้นสู่ปีที่ 9 แต่หากย้อนกลับไปสำหรับการเปิดร้านขายปาท่องโก๋ของครอบครัวคุณปูและคุณดวง พร้อมกับพี่น้องคนอื่น ๆ นั้น เริ่มทำกันมาร่วม 20 ปีมาแล้ว โดยจุดเริ่มต้น คือ ที่เกาะสมุยซึ่งถือเป็นร้านต้นแบบและสาขาแรกของ ‘โก๋ป๊ะคะ’
 
คุณดวง กล่าวว่า เมื่อก่อนทำงานประจำอยู่บริษัทประกันชั้นนำระดับประเทศในกรุงเทพฯ เป็นระดับผู้บริหาร แต่ก็มีโอกาสได้เดินทางไปที่เกาะสมุย เพราะน้องสาวมีครอบครัวและทำธุรกิจเปิดร้านจำหน่ายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่นั่น และเปิดร้านขายปาท่องโก๋ควบคู่ไปด้วย

ซึ่งเราก็ได้ไปเห็นว่า น้องขายดีมาก ๆ ยอดขายทั้งหมดต่อเดือนถึงหลักแสนบาท ซึ่งตอนนั้นก็คุยกับน้อง ๆ ว่า น่าจะทำตลาดอย่างจริงจัง โดยเปิดร้านรูปแบบแฟรนไชส์ จึงได้ข้อสรุป ว่า ต้องสร้างแบรนด์ สร้างหน้าร้าน พัฒนาสินค้าอย่างต่อเนื่อง และยกระดับ ปาท่องโก๋ สู่รูปแบบแฟรนไชส์ที่ได้คุณภาพมาตรฐานให้ได้

“เรากับพี่ปู ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่ เพราะตั้งใจไว้แล้วว่า จะช่วยกันปลุกปั้นสร้างแบรนด์ปาท่องโก๋ร่วมกับน้อง ๆ ให้กิจการเติบโต ให้คนได้รู้จักปาท่องโก๋ในแบบฉบับและเป็นสูตรของเราให้มากขึ้น โดยเริ่มต้นขยับขยายร้านในพื้นที่เกาะสมุย จาก 1 สาขาเป็น 3 สาขา คือ เรากระจายกันเปิดร้านขาย เรียกว่า ยึดพื้นที่คนละหาดในเกาะสมุยเลยก็ว่าได้ ซึ่งยอดขายดีทุกสาขา ยอดขายต่อวันต่อสาขาไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท แป้งทำปาท่องโก๋หมดไปหลายสิบกิโลกรัมต่อวันต่อสาขา โดยฐานลูกค้าก็คือ ชาวบ้านในพื้นที่และนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมาก

ซึ่งเราเปิดขายอยู่อย่างนั้นประมาณ 6 เดือน จนกระทั่งเริ่มมีเสียงเรียกร้องจากลูกค้า และคนรู้จักสนใจ ติดต่อขอซื้อสูตรแป้ง หรือบางรายติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ไปขายบ้างก็มี ทำให้เป้าหมายการขยายแฟรนไชส์ของเราเริ่มเป็นรูปธรรมมากขึ้น และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว” คุณดวงกล่าว
 
เมื่อแผนการยึดหาดในพื้นที่บนเกาะสมุยตกเป็นของ “โก๋ป๊ะคะ” เป็นที่เรียบร้อย พร้อมกับได้คลอดบริการนวดแป้งสดเพื่อขายและจัดส่งให้กับลูกค้าแฟรนไชส์ในพื้นที่ นำไปทอดปาท่องโก๋ขายสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น หลังจากนั้นไม่นาน คุณปูและคุณดวง กลับเข้าสู่กรุงเทพฯ อีกครั้งเพื่อหวังจะเปิดตัวโก๋ป๊ะคะ ในเมืองหลวงให้ฮอตฮิตติดลมบนเหมือนที่เกาะสมุย

โดยได้เช่าพื้นที่ขายย่านอโศก บริเวณใกล้ ๆ กับ รพ.จักษุ รัตนิน เมื่อประมาณ ปี พ.ศ.2556 โดยค่าเช่าพื้นที่ 50,000 บาท/เดือน ซึ่งขณะนั้นก็เปิดขายดี มีฐานลูกค้าประจำแล้ว แต่ในระยะยาวผ่านไปหลายเดือนกับค่าเช่าที่ที่สูงเกินไป บวกกับระยะทางเดินทางมาเปิดร้านที่อโศก ซึ่งสำนักงานและบ้านของคุณปูและคุณดวง ตั้งอยู่ย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี  ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญ สุดท้าย ทั้งคู่ตัดสินใจยกเลิกพื้นที่อโศก แล้วกลับมาตั้งหลักใหม่อีกครั้ง

คุณปู กล่าวเสริมว่า เราคิดเสมอว่า ก่อนจะขายแฟรนไชส์ให้คนอื่น เราจะต้องมีหน้าร้านของเราเองเสียก่อน เพื่อสร้างตัวตนและความเชื่อมั่นให้กับบุคคลทั่วไป จึงเฟ้นหาทำเลที่ใช่ที่สุดและตอบโจทย์ธุรกิจโก๋ป๊ะคะ จนมาได้ location ในซอยชุมชนแห่งหนึ่งย่านบางใหญ่ไม่ไกลจากที่พักของคุณปูและคุณดวง เพื่อตั้งร้านขายให้กับลูกค้าในพื้นที่ในทุก ๆ เช้า ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับดี ขายดีทุกวัน และฐานลูกค้าขยายเป็นวงกว้าง

นอกจากนี้ ทั้งสองท่าน ยังได้สานต่อแนวคิดการสร้างแบรนด์ด้วยการเปิด Work Shop อบรมสอนทำปาท่องโก๋ สำหรับผู้ที่สนใจได้มาทดลองเรียนรู้ทั้งทฤษฎีและปฏิบัติทุกขั้นตอน ตั้งแต่นวดแป้ง-ตัด-ทอด สอนทำสังขยา (ดิปปิ้งซอส) ฯลฯ ก่อนที่จะตัดสินใจจะลงทุนจริง ๆ

โดยคุณปูและคุณดวงสอนเอง ที่สำคัญคือ เรียนฟรี !! ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับอย่างท่วมท้นอีกเช่นกัน ซึ่งผู้ที่มาเรียน Work Shop ทำปาท่องโก๋ จำนวนไม่น้อย ที่ต่อมากลายเป็นลูกค้าแฟรนไชส์ (Franchisee : แฟรนไชส์ซี) ของโก๊ป๊ะคะ ลงทุนเปิดขายในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ


“ข้อดีของการได้ Work Shop คือ แต่ละคนจะได้รู้จักตัวเอง ประเมินศักยภาพของตัวเองว่า ตัวเองจะทำได้ไหม ยกตัวอย่าง เราสอนทั้งหมดของการเปิดร้านขายปาท่องโก๋ สอนให้ทำสังขยา ให้นวดแป้ง ให้ทอดจริง ๆ ให้ชิมผลงานของตัวเองจริง ๆ ซึ่งคนเรียนจะคิดภาพออกเลยว่า ตัวเองจะทำไหวมั้ย ถ้าคิดว่าตัวเองทำไหว ก็ลงทุนแฟรนไชส์ได้เลย

เราบอกทุกคนเสมอว่า ทุกคนไม่ได้เกิดมาเพื่อมาขายปาท่องโก๋ เพราะฉะนั้น ถ้าคุณคิดว่า ขายปาท่องโก๋ แล้วมันไม่ใช่ตัวเอง มันก็ไม่ผิดอะไร แต่เราแค่อยากให้มาทดลอง Work Shop ดูก่อน เพื่อให้ประเมินตัวเองและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น”
 
สำหรับ Product ของ “โก๋ป๊ะคะ” ปัจจุบันหลัก ๆ มี 6 รสชาติ ที่เป็นตัวชูโรง ได้แก่

ปาท่องโก๋รสดั้งเดิม กรอบนอกนุ่มในไม่อมน้ำมัน
ปาท่องโก๋แบบเกลียว ผลิตจากแป้งซาลาเปากลม ๆ นี่แหละ แต่ทำเป็นเกลียว เพราะดูสวยและน่าซื้อทาน
ปาท่องโก๋ใส่ใบเตย มีส่วนผสมของน้ำใบเตย อร่อยและหอมมาก
ปาท่องโก๋โฮลวีต แนวธัญพืชเพื่อกลุ่มคนรักสุขภาพ เพราะร้านใส่พวกลูกเกด, งาดำ ฯลฯ เป็นส่วนผสมด้วย
ปาท่องโก๋กล้วยหอม เกิดจากการพัฒนาต่อยอด อร่อยบอกเลย ต้องลอง !
ปาท่องโก๋ชินนามอน คลุกกับไอซิงชินนามอน เกิดจากการพัฒนาต่อยอด หอมหวาน ทานแล้วอารมณ์ดี
  ซึ่งราคาขายหน้าร้านจะลงตัวที่ขาย 6 ชิ้น ราคา 20 บาท จริง ๆ ตอนนี้ ทางร้านมีปาท่องโก๋รสชาติ ‘ชาโคล’ ด้วยซึ่งเกิดจากการพัฒนาต่อยอดทดลองทำเรื่อย ๆ เพราะเราพัฒนารสชาติไม่หยุดนิ่ง และทุกรสชาติขายดีหมดเกลี้ยงไม่มีเหลือ
 
ในส่วนรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ “โก๋ป๊ะคะ” ปัจจุบันมี 2 รูปแบบการลงทุน ได้แก่

• ชุดรถเข็น 70,000 บาท เหมาะกับเคลื่อนที่ เคลื่อนย้ายได้สะดวก

• ชุดโต๊ะพับ 59,000 บาท  เหมาะกับทำเลการขายที่ตายตัว แต่ก็สามารถเคลื่อนย้ายได้


โดยทั้ง 2 รูปแบบการลงทุนนี้ คุณปูและคุณดวง บอกว่า เป็นเครื่องมือใช้สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ใช้ทำมาหากินได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับงบประมาณของผู้ลงทุน และทำเลที่คุณอยากจะนำไปเปิดร้านขาย


ในส่วนอุปกรณ์และวัตถุดิบ จะได้รับทุกสิ่งทุกอย่างพร้อมเปิดร้าน กว่า 40 รายการ ยกตัวอย่างเช่น

• คีออสก์ โก๋ป๊ะคะ หรือ โต๊ะพับสแตนเลสอย่างดี จำนวน 1 ตัว
• ชุดป้ายร้าน (ป้ายโลโก้ด้านบน, ป้ายเมนูด้านล่าง ฯลฯ)
• ชุดหลอดไฟ ครบชุด
• ชุดเตาแก๊ส (เตา KB5 + สาย + หัวปรับ) ครบชุด
• ชุดอุปกรณ์ทอด เช่น กระทะ, กระชอนห่าง, ที่คีบสำหรับทอด, น้ำมันปาล์ม ฯลฯ ครบชุด
• ชุดอุปกรณ์สำหรับนวดแป้ง และตัดแป้งครบชุด
• อุปกรณ์จัดวางและตกแต่งหน้าร้านครบชุด เช่น ถาดสแตนเลส, ถุงหิ้ว-ถุงกระดาษ, กล่องใส่ปาท่องโก๋ (โก๋ป๊ะคะ) ฯลฯ
• วัตถุดิบสำคัญ ใช้ทำ โก๋ป๊ะคะ ได้ทุกรสชาติ (6 รสชาติ) จำนวนรสชาติละ 2 กก. , ผงสังขยา 20 ถ้วย, ไอซ์ซิ่งชินมอน 0.5 กก.
• อุปกรณ์อื่น ๆ พร้อมเปิดร้าน
• อุปกรณ์ + วัตถุดิบจัดส่งถึงที่ + เจ้าของแฟรนไชส์เดินทางไปช่วยเปิดร้านถึงที่ และช่วยขายให้กับลูกค้าแฟรนไชส์ พร้อมจับมือ จูงมือเดินตลาดแนะนำแหล่งซื้อวัตถุดิบให้อีกด้วยใน 3 วันแรก !!
 

พิเศษ !! แถมแป้ง 40 กก. ให้กับลูกค้าแฟรนไชส์รายใหม่ ที่เพิ่งเปิดร้าน สามารถใช้ในการทำขายได้จำนวน 3 วัน แถมให้ไปเลย
 

ในส่วนทำเลที่ประสบความสำเร็จยอดขายดี ยอดขายปัง !! ที่โก๋ป๊ะคะ แนะนำ ได้แก่  ใกล้บ้านผู้ลงทุนที่สุด และไม่ควรเกิน 5 กม. เพราะถ้าไกลจะมีต้นทุนหลายอย่างที่เพิ่มขึ้น , และไม่จำเป็นต้องอยู่ในตลาดก็ได้ ขอเพียงอยู่ในซอยที่คนพลุกพล่านก็ขายได้ , หรือควรตั้งอยู่ริมถนน ที่คนเห็นได้ง่าย ถนนมี 2 เลน (Lane) เพื่อที่คนจะได้จอดรถแวะซื้อได้สะดวก ไม่ได้ขับเลยไป , และควรอยู่ขาออก ที่คนกำลังออกจากบ้านไปทำงาน เขาจะแวะซื้อมากกว่า ซื้อกลับบ้าน ฯลฯ

เมื่อถามถึงเป้าหมายของแบรนด์ “โก๋ป๊ะคะ”โดย คุณปูและคุณดวง เปิดเผยว่า ตั้งเป้าปี 2564 นี้ขยายให้ได้อีก 25 สาขาแฟรนไชส์ ส่วนการทำตลาดจริง ๆ ไม่เน้นขยายแฟรนไชส์ แต่อยากให้สาขาแฟรนไชส์ หรือ แฟรนไชส์ซี ขายได้ดีทุกสาขา ให้กลุ่มผู้บริโภคได้รู้จักสาขาแฟรนไชส์ให้มากขึ้น  ให้รับรู้ หรือมีโอกาสได้ทดลองไปกินใกล้บ้านคุณ เพราะเราอยากให้ลูกค้าแฟรนไชส์ของเราที่เปิดขาย มียอดขายแบบปัง ๆ ทุกวัน !!

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่จะขายปาท่องโก๋ได้ อย่างที่คุณปู-คุณดวง ได้บอกเอาไว้ โดยสำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามโดยตรงกับทั้งสองท่านก่อนได้ หรือหากปฏิบัติตามขั้นตอนได้ดังต่อไปนี้ ถือว่า คุณพร้อมเป็นสมาชิกใหม่ และเป็นครอบครัวเดียวกันกับ “โก๋ป๊ะคะ” ได้แล้ว

 
“จะขายโก๋ป๊ะคะ คุณต้องลาออกจากประจำ มาทำอย่างจริงจัง คือ ต้องเลือก และคิดให้ขาด เราไม่ให้ทำเสริม เพราะส่วนใหญ่ ทำเสริมจะไม่รอด !! เพราะฉะนั้น ถ้ายังรักสบาย หรือมีงานที่มั่นคงอยู่แล้ว ยังไม่ถึงเวลา ให้ทำงานประจำไปเถอะ มันไม่ผิดอะไร”

 
คุณสมบัติผู้ลงทุนแฟรนไชส์

• โก๋ป๊ะคะ ไม่แนะนำให้ลงทุนทำเป็นอาชีพเสริม เพราะส่วนใหญ่จะไปไม่รอด ดังนั้น คุณต้องออกมาบริหารร้านและพร้อมลุยเต็มที่กับธุรกิจนี้

• ผู้ลงทุนต้องมีทำเลในใจ และส่งมาให้เจ้าของแฟรนไชส์ ซึ่งจะวิเคราะห์ทำเลให้ โดยใช้ประสบการณ์ในการวิเคราะห์ ซึ่งหากทำเลไม่ดี เราไม่ให้เปิด (ผู้ลงทุนต้องหาทำเลใหม่)

• แต่ละสาขา ต้องมี 3 คน ช่วยกัน (เจ้าของสาขา + พนักงานอีก 2 คน) ทำหน้าที่หลัก ๆ เช่น นวดแป้ง ตัดแป้ง และลงทอด ฯลฯ

• ต้องตื่นตี 4 หรือตี 5 และขายถึงประมาณ 9 โมงเช้า ถ้าต้องตื่นทุกวัน ไหวมั้ย !?  ถามใจเธอดู



สำหรับจุดคุ้มทุน และผลตอบแทนของการเปิดร้านโก๋ป๊ะคะ ด้วยประสบการณ์ของเจ้าของธุรกิจ และทำเลที่เปิดมาอย่างโชกโชน พร้อมกับการจดบันทึกข้อมูลทุกอย่างอย่างละเอียด ซึ่งได้ข้อสรุปที่ว่า

ทำเลที่สอบผ่าน คือ ทำเลที่เฉลี่ยแล้วต้องมีลูกค้าเข้ามาซื้อไม่ต่ำกว่า ชั่วโมงละ 25 คน ถ้ามีคนมาซื้อได้ตามนี้ เราทำขาย 4 ชั่วโมง ให้กับ ลูกค้า 100 คน ซึ่งแป้งเราจะให้ทุกสาขาแฟรนไชส์เตรียมไปประมาณรสชาติละ 2 กก. ซึ่งมีแป้ง 6 แบบ  (6 รสชาตินั่นเอง) รวมทั้งหมด 12 กก.  ซึ่งแป้งจะหมดเกลี้ยงเป๊ะ ๆ !! และคุณจะมียอดขาย 4,000 บาท / วันอย่างแน่นอน * แต่ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายทั้งหมด

โดยตัวเลข 4,000 บาท มาจาก ค่าเฉลี่ยของแต่ละคน ที่จะซื้อปาท่องโก๋ คนละ 40 บาท (ตัวเลขนี้ได้มาจากการเก็บสถิติยอดขายและจำนวนลูกค้าของเจ้าของธุรกิจมาเกือบ 10 ปี)

ยอดขาย 4,000 บาท  หักต้นทุนทุกอย่างครึ่งหนึ่ง (ค่าเช่าที่ ไม่ควรเกินวันละ 100 บาท , ค่าจ้างลูกน้อง 2 คน ๆ ละ 200 บาท จ้าง 2 คน ก็คือ 400 บาท เพราะเปิดร้านแค่ 4-5 ชม.) , ส่วนต้นทุนวัตถุดิบจะแปรผัน เช่น ค่าแป้ง, ค่างา, ค่าถุง, ค่าน้ำมัน, ค่าแก๊ส, ค่าใบเตย ฯลฯ จะอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท (ในขอบเขตแป้ง 12 กก.) ส่วนที่เหลืออีก 2,000 บาท เป็นกำไรล้วน ๆ เข้ากระเป๋าคุณ


“ผู้ลงทุนที่ไม่มีประสบการณ์ ไม่ต้องกังวล เราลงไปช่วยคุณอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ เราช่วยสอนทำบัญชี และแนะนำการซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ ในพื้นที่ให้ด้วย  ซึ่ง โก๋ป๊ะคะ ไม่มีเอกสารสัญญาการทำแฟรนไชส์ แต่เป็นข้อตกลงร่วมกัน ซื่อสัตย์และจริงใจต่อกัน ถ้ามีปัญหาขอให้ปรึกษาได้ทุกเรื่อง ติดขัดอะไร เราช่วยดูแลและสนับสนุน ไม่ทอดทิ้งแฟรนไชส์แน่นอน”
 
เมื่อถามถึง ความยากของการทำธุรกิจหรือทำอาชีพนี้ คุณปูและคุณดวง กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจว่า คือ ความอดทน และความตั้งใจ เพราะสมัยนี้คนรุ่นใหม่โดยส่วนใหญ่มีความอดทนต่ำ อยากจะสำเร็จภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว มองแต่ปลายทาง แต่ไม่ได้มองระหว่างทาง อยากจะรวยชั่วข้ามคืน ซึ่งความจริงมันไม่ได้ง่ายแบบนั้น มันต้องใช้เวลา และความสม่ำเสมอในการลงมือทำ และใช้ความอดทนด้วย

ปาท่องโก๋ มันเป็นอาชีพค้าขาย แค่เราตื่นมาขาย เราก็ได้ตังค์แล้ว แต่ละวันเมื่อเราขายหมด เราก็กลับบ้าน ไม่ต้องเก็บอะไรมาคิดให้รกสมอง วันนี้ขายได้ก็ยิ้ม พรุ่งนี้ขายไม่ดี ก็เป็นเรื่องปกติ แต่ก็ต้องบริหารการเงิน แยกเงิน ทำบัญชีเอาไว้ด้วย ในทางกลับกัน ถ้าขายของดีทุกวัน ทุกคนก็คงร่ำรวยกันหมดแล้ว

ข้อสำคัญ คือ เราอย่ามองยอดขายทีละวัน ขอให้มองสรุปไปที่สิ้นเดือนทีเดียว แล้วคุณจะมองเห็นยอดเงินทั้งหมดจากน้ำพักน้ำแรงของคุณ อย่าท้อแท้ไปเสียก่อนแค่นั้นเอง


เทคนิคการขาย ง่าย ๆ ในการเรียกลูกค้า คือ การพูดเชิญชวนแนะนำสินค้า หน้าไม่งอ คอไม่หัก เทคนิคง่าย ๆ แค่นี้เอง คือ ให้เราพูดแนะนำสินค้า เช่น 6 ชิ้น 20 บาท ,  9 ชิ้น 30 บาท จ้า..


เรามีนมข้น สังขยาด้วยจ้า..  พูดให้ชัดเจน เวลาจะทอนเงินก็ให้ขอบคุณลูกค้า เพียงเท่านี้ลูกค้าก็ติดแล้ว และทำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน ซึ่งของพวกนี้มันเรียนรู้ได้ ไม่ต้องใช้พรสวรรค์


   “ชีวิตเรา เริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน วันนี้เราล้ม พรุ่งนี้ก็แค่เริ่มต้นใหม่ และถ้าคิดอยากจะทำอะไร ให้ทำเลย บนพื้นฐานของการวางแผนเอาไว้แล้ว เพราะชีวิตคนเรามันสั้น ถ้ามัวแต่รีรอ คงเสียดายแย่ถ้าไม่ได้ทำ เพราะถ้าได้ทำแล้วมันไม่ดี จะได้ไม่ต้องทำ ไม่ต้องเสียเวลากับสิ่งนั้นต่อ แล้วเราจะได้ไปทำอย่างอื่นต่อไป”
 


ติดต่อ แฟรนไชส์ โก๋ป๊ะคะ  Kho Pa Ka

Tel : 086 331 1021
Facebook : khopaka
Line : @bulunza