ว่าว.. ให้สนุกปาก “ไก่ว่าว” สตรีทฟู้ดมาแรง !! แซงทุกแฟรนไชส์
ของอร่อย ๆ รอบรั้วมหาวิทยาลัย เชื่อว่ามีอยู่ทุกสถานที่ และบางที่ได้กลายเป็นตำนานเล่าขานจากศิษย์เก่ารุ่นสู่รุ่น และได้รับการพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นแบรนด์อาหารที่มีชื่อเสียงระดับประเทศได้
เช่นเดียวกับแบรนด์ Gaiiwow - ไก่ว่าว ธุรกิจอาหารน้องใหม่ที่มาแรงแบบสุด ๆ แม้แต่วิกฤตโควิดฯ ก็ยังฉุดไม่อยู่ เพราะปัจจุบันมีออร์เดอร์ออนไลน์สั่งแบบถล่มทลายสุด ๆ มากแม่ !!
Gaiiwow – ไก่ว่าว ธุรกิจอาหารรูปแบบไก่ปิ้งเสียบไม้ สตรีทฟู้ดของทานเล่น ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี ดูภายนอกก็แสนจะธรรมดา จนหลายคนคิดว่า จะอะไรกันนักกันหนา ก็แค่ไก่ปิ้งเสียบไม้ แค่นั้น..!?
จริง ๆ แล้วก็คงไม่ผิดที่ว่า ไก่ปิ้งเสียบไม้แค่นั้น แต่หากเพื่อน ๆ ได้รู้จักแบรนด์ Gaiiwow – ไก่ว่าว ตลอดจนได้รู้จักกับผู้บริหารและวิสัยทัศน์ของการก่อตั้งแบรนด์ไก่ว่าวจริง ๆ แล้วก็จะรู้ได้เลยว่า ทำไม ? ไก่ว่าว ถึงเล่นใหญ่ !! และไม่ใช่ไก่ปิ้งเสียบไม้ทั่ว ๆ ไปอย่างแน่นอน
ไก่ว่าว ปัจจุบันเป็นเมนูอาหารฮอตฮิตติดเทรนด์ เสิร์ฟความอร่อยอยู่บนโลกออนไลน์ ในทุก ๆ แอปพลิเคชันรับ / ส่งอาหารชั้นนำของประเทศ ซึ่งบริหารโดย คุณเพิร์ธ-พชร วุฑฒิชาติ CEO of Gaiiwow Domestic และ คุณเบนซ์-พัสกร มงคลยศวัฒน์ Founder of Gaiiwow Domestic
รวมถึงทีมงานคุณภาพซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ต้องการยกระดับอาหารสตรีทฟู้ดไทยให้พรีเมียม ทั้งในเรื่องของรสชาติ แพ็กเกจจิ้ง รวมถึงมาตรฐานกระบวนการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย ได้คุณภาพ ซึ่งต้องคุ้มค่าสำหรับผู้บริโภค ในราคาที่คนกินทุกกลุ่มเข้าถึงและจับต้องได้อย่างแท้จริงด้วย
อย่างที่เกริ่นเอาไว้ว่า ไก่ว่าว เป็นอาหารสตรีทฟู้ดในตำนานริมรั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งบอกได้เลยว่า ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ คงไม่มีใครไม่รู้จัก โดยที่ถือกำเนิดมาจาก ร้านป้าขายไก่ปิ้งริมรั้ว ม.ธรรมศาสตร์ วิทยาเขตรังสิต บนถนนเชียงราก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นเพียงร้านเล็ก ๆ มีป้ากับลุงขายเสียบไม้ปกติทั่วไป โดยจะมาตั้งร้านแต่เช้ามืด เสียบไก่และปิ้งขายให้กับกลุ่มนักศึกษาตั้งแต่เช้ามืดจนถึงช่วงสาย ๆ หมดเกลี้ยง ! ทุกวัน ใครมาช้าคือหมดสิทธิ์ ต้องรอกินในเช้าวันถัดไป
คุณเบนซ์-พัสกร กล่าวถึงจุดเริ่มต้นแบรนด์ ‘ไก่ว่าว’ ว่า มันเริ่มต้นจากความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องและเพื่อน ๆ ที่รู้จักกันในนามของศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ โดยผมเชื่อว่า นักศึกษาทุกคนและทุกรุ่นต้องเคยกินไก่ปิ้งเสียบไม้ ไก่หมักเนื้อนุ่ม น้ำจิ้มรสเด็ด บริเวณริมรั้ว ม.ธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต) ฝั่งถนนเชียงราก ซึ่งไม่รู้ทำไม แต่มันอร่อยมากจริง ๆ
ส่วนธุรกิจไก่ว่าว เกิดจากวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งทั้งประเทศ ‘ชัตดาวน์’ ซึ่งผม (คุณเบนซ์) และ คุณเพิร์ธ เราต่างก็มีธุรกิจร้านอาหาร-ผับบาร์ ซึ่งได้รับผลกระทบเต็ม ๆ จึงคิดหาวิธีสร้างช่องทางหาเงินให้ได้ เพราะยังมีพนักงานอีกหลายร้อยชีวิตที่ต้องดูแลพวกเขา
กระทั่งมาย้อนนึกถึง ไก่ปิ้งเสียบไม้ ของอร่อยในตำนานของเด็กธรรมศาสตร์ ซึ่งพวกเราสนิทกับป้าและลุงเจ้าของร้านอยู่แล้ว สมัยเรียนเพราะซื้อกินทุกเช้า และยังเคยช่วยป้ากับลุงปิ้งไก่และทอนตังค์ให้กับลูกค้าคนอื่น ๆ ด้วย พวกเรามองว่า ต่อให้เกิดวิกฤตโควิดฯ แค่ไหน แต่คนก็ยังต้องกิน และไก่ปิ้ง รวมทั้งพวกหมูปิ้ง ก็เป็นอาหารรองท้องยอดนิยมที่คนไทยคุ้นเคยและซื้อง่ายขายคล่องที่สุด
“ผมขับรถจากบ้านที่ผมพักแถวพระราม 2 เพื่อไปตามจีบขอสูตรไก่ปิ้งของป้าทุกวันที่ ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ตื๊อป้าแกอยู่ร่วมเดือน จนกระทั่งป้ากับลุงคงเห็นความตั้งใจของเราที่อยากขอสูตรเพื่อไปทำขายบ้างจริง ๆ จนป้าใจอ่อนยอมบอกสูตร แต่ก็เป็นเพียงสูตรคร่าว ๆ ซึ่งเราต้องนำมาทดลองทำ เช่น หมักและเสียบไม้ปิ้ง คือ ลองผิดลองถูกกันเอง
โดยผมกลับมาและง่วนอยู่กับการทดลองหมักไก่และทดลองปิ้ง แทบจะไม่ออกไปไหนเลย ใช้เวลาร่วมเดือน จนได้สูตรที่ลงตัว ปิ้งออกมาทดสอบชิมดูแล้วรสชาติอร่อยเหมือนกับป้าเป๊ะ ๆ โดยผมนำไก่ปิ้งที่คิดค้นสูตรได้มา ทดลองนำไปแจกจ่ายให้เพื่อน ๆ รุ่นพี่รุ่นน้อง คนรู้จักได้ชิม ซึ่งทุกคนต่างบอกว่า อร่อย และรสชาติเหมือนป้าต้นตำรับที่ธรรมศาสตร์ และหลายคนบอกว่า ให้ลุยทำขายได้เลย ซึ่งนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นการขายไก่ว่าว ผ่านทางสื่อออนไลน์ สู้วิกฤตโควิด-19” คุณเบนซ์ กล่าว
ด้านการตลาด คุณเพิร์ธ กล่าวเสริมว่า พวกเราศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ รักใคร่กลมเกลียว ทำให้มีเพื่อนฝูงเยอะ และเราจะมี “กลุ่มพี่น้องธรรมศาสตร์ฝากร้าน” บนสื่อโซเชียลฯ เอาไว้ประชาสัมพันธ์ขายของ ซึ่งศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ทั้งหมดและแต่ละคนจะรู้ว่า ไก่ว่าว คืออะไร
“เรานำสินค้าไปแชร์ใน Page Facebook กลุ่มธรรมศาสตร์ แล้วก็จะมีรุ่นน้องรุ่นพี่ที่ออร์เดอร์สั่งอุดหนุนกันเยอะมาก ๆ ซึ่งเราบอกว่า เป็นสูตรเดียวกันและอร่อยเหมือนกับป้าไก่ว่าว ซึ่งทุกคนก็จะรู้กันและ inbox มาสั่งกันแบบรัว ๆ ทำให้บุคคลทั่วไปเริ่มเห็นและสนใจ จนมีคนสั่งมาเรื่อย ๆ มันเหมือนกับ ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ที่กระจัดกระจาย ต่างคนต่างทำงาน แล้วได้มีโอกาสสั่งไก่ว่าวแบบออนไลน์ เหมือนได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง โดยรู้กันว่า ไก่ว่าว สำหรับเด็ก มธ. มันอร่อยแค่ไหนคงไม่ต้องอธิบายอะไรกันเยอะ”
จุดเด่นของไก่ว่าว โดย คุณเบนซ์ บอกว่า เราต้องการที่จะยกระดับอาหารสตรีทฟู้ดของไทยให้พรีเมียมมากยิ่งขึ้น และให้ดูดีมีมาตรฐาน ยกตัวอย่างง่าย ๆ เคยเห็นไก่ปิ้งใส่กล่องแพ็กเกจจิ้งดูดีแบบที่เราทำไหม ? ดังนั้น เราต้องดูดีทั้งภาพลักษณ์ , Branding , กระบวนการผลิต และ แพ็กเกจจิ้ง ด้วย
ปัจจัยที่จะทำให้ ไก่ว่าว เป็นสตรีทฟู้ดพรีเมียมได้ คือ เราต้องทำให้มันเป็นมาตรฐานจริง ๆ ทั้งในเรื่องของความสะอาด หรือ Ingredient (ส่วนผสม) ที่เราใช้หมัก โดยเราไม่ได้หมักกันเอง แต่เรามีโรงงานผลิตทั้งหมักและเสียบไม้ เป็นอุตสาหกรรมการผลิตอย่างจริงจัง ซึ่งเรามีโรงงานผลิตตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP.
โดยเราคัดเนื้อไก่คุณภาพอย่างดี ทุกชิ้นที่เสียบไม้ เนื้อและน้ำหนักต้องให้เหมือนกัน ได้มาตรฐานตรงกัน ทุก ๆ ไม้ที่แพ็กฯ เตรียมจำหน่ายต้องพรีเมียมจริง ๆ เพราะเราเชื่อว่า ไม่มีร้านไก่ปิ้งริมทางที่ไหน ที่จะมาจริงจังในกระบวนการผลิตขนาดนี้ ซึ่งถ้าคนรู้ Background การผลิตของเราจริง ๆ แต่ขายในราคาสตรีทฟู้ด ในราคาเพียงไม้ละ 12 บาท ทุกคนก็จะเข้าใจเราอย่างแน่นอน
“ทุกวันนี้เราเน้นช่องทางออนไลน์ ขายแบบ Delivery ผูกกับทุกแอปฯ ชั้นนำเป็นหลัก และขายราคาที่ผู้บริโภคจับต้องได้ แต่เราไม่เคยทิ้งมาตรฐานในเรื่องรสชาติและความสะอาด รวมทั้งเราคุยกันในทีมว่า เราจะไม่หยุดแค่นี้ เราต้องการพัฒนาและพาไก่ว่าวไปในระดับส่งออกต่างประเทศให้ได้ในอนาคต โดยเรามองว่า สตรีทฟู้ดไทยไประดับโลกได้ ไม่ใช่เรื่องฝัน แต่คุณต้องมีมาตรฐานและคุณต้องจริงจังกับมัน
ปัจจุบัน ไก่ว่าว ยื่นเรื่องจดแจ้ง อย. และเครื่องหมาย HALAL (จดในส่วนของ Product ซึ่งผู้บริโภคมุสลิมทานได้แน่นอน) ส่วนโรงงานหมักและเสียบไก่ เราได้มาตรฐาน GMP. เพราะเราวางแผนให้ผลิตภัณฑ์ไก่ว่าวไปได้ไกล ไม่ได้มองแค่ Short Term และเราอยากให้ทุกคนรู้ว่า ไก่ว่าว ของเราไม่ได้ทำขายกันเล่น ๆ ซึ่งคนส่วนมากจะมองว่า ทำไม ? ไก่ว่าวเล่นใหญ่จังวะ !? ซึ่งเรามีคำตอบให้แบบนี้ และเราตั้งใจไว้แบบนั้นจริง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่เคยลืมว่า สูตรนี้มาจากป้ากับลุงต้นกำเนิดไก่ว่าวของพวกเรา”
สำหรับแผนการทำตลาดในปี 2564 นี้ โดย 2 ผู้บริหาร เผยว่า มุ่งเน้นการสร้าง ‘แฟรนไชส์’ โดย ไก่ว่าว จะต้องมีหน้าร้านหรือร้านต้นแบบเพื่อให้นักลงทุนหรือผู้ที่กำลังมองหาอาชีพได้รู้จักและเห็นภาพการบริหารจัดการร้านในรูปแบบแฟรนไชส์ที่มีมาตรฐาน แต่การบริหารจัดการง่าย โดย ลูกค้าแฟรนไชส์ (Franchisee : แฟรนไชส์ซี) จะได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานใหญ่ในทุก ๆ เรื่องเพื่อให้สาขาแฟรนไชส์ขายดีมีกำไรและประสบความสำเร็จ
สำหรับรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ โดย ไก่ว่าว จะลุยตลาดรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์ชุดคีออสก์ (KIOSK) ตามห้างฯ ตามตลาดนัด ตามฟู้ดคอร์ท ฯลฯ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างมองหาทำเลเปิดร้านต้นแบบ ซึ่งคาดว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2564 เร็ว ๆ นี้ (โซนใจกลางเมืองย่าน สยาม หรือ สามย่านมิตรทาวน์)
สำหรับรูปแบบแฟรนไชส์ลงทุนไก่ว่าว ประกอบด้วยกัน 3 แพ็กเกจการลงทุน ดังนี้
• แพ็กเกจ ไซส์ S ราคา 25,900 บาท
• แพ็กเกจ ไซส์ M ราคา 59,900 บาท
• แพ็กเกจ ไซส์ L ราคา 79,900 บาท
สิ่งที่ได้รับและแตกต่างกัน เช่น ขนาดของคีออสก์, อุปกรณ์และวัตถุดิบที่จะได้รับ และขอบเขตพื้นที่การเปิดร้านขาย ซึ่งบริษัทฯ จะกันไว้ให้เพื่อให้สิทธิ์การขายกับลูกค้าแฟรนไชส์ที่ลงทุนเจ้าแรกก่อนในพื้นที่เขต / อำเภอ หรือจังหวัดนั้น ๆ เป็นต้น (หมายเหตุ : มีเก็บค่า Royalty Fees และ Marketing Fee โปรดติดต่อสอบถามรายละเอียดการลงทุนแฟรนไชส์กับสำนักงานใหญ่ได้โดยตรง)
ในส่วนสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ที่ผู้ลงทุนแฟรนไชส์จะได้รับ ยกตัวอย่างเช่น
• วัตถุดิบ เราจัดส่งผ่านรถขนส่ง(รถห้องเย็น) ทั่วไทย
• มี Operation Manual (คู่มือการใช้งาน) ให้ผู้ลงทุนแฟรนไชส์ (แฟรนไชส์ซี) ได้ศึกษาด้วยเพื่อให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
• ช่วยวิเคราะห์ทำเล ซึ่งถ้าไม่ขายออนไลน์ ถ้าเป็นออฟไลน์ ทำเลแนะนำ ที่ขายดีจริง ๆ เช่น หน้าร้านเหล้า ขายตอนร้านเหล้ากำลังเลิก คือ ทำเลที่ดีที่สุด หรืออาจจะขายช่วงเช้า หน้าโรงเรียน, ศูนย์ราชการจังหวัด ฯลฯ ก็ขายได้ ซึ่งการันตีขายหมดเกลี้ยง จำนวนกว่า 100 ไม้ขึ้นไป ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
คุณสมบัติหลักของผู้ลงทุนแฟรนไชส์
• มีความตั้งใจ ลงทุนทำอย่างจริงจัง
• ไม่จำเป็นต้องมี Business Plan ขอแค่มีใจ มาแต่ตัวและมาคุยกับเราได้เลย
สำหรับตลาดในประเทศ ปัจจุบันเรามี Dealer ภาคใต้รายใหญ่ที่ จ.ภูเก็ต (มีจำนวน 8 ดีลเลอร์) ที่สั่งไก่เสียบไม้กับเรา 6 หลัก / เดือน เพื่อนำไปกระจายขายส่งให้กับลูกค้ารายย่อยในพื้นที่ภาคใต้อีกทอดหนึ่ง เช่น ร้านส้มตำ , ร้านอาหาร เป็นต้น
และสำหรับเป้าหมายอีกข้อ คือ การตลาดต่างประเทศ โดย คุณเบนซ์ บอกด้วยว่า ตอนนี้ที่มีติดต่อกับ Dealer ที่มีศักยภาพต้องการนำผลิตภัณฑ์ไก่ว่าวไปเปิดตลาดจำหน่ายในแต่ละประเทศอาเซียน เช่น สปป.ลาว, เมียนมาร์, เวียดนาม ซึ่งเขาก็ต้องการเป็น Distributor (ตัวแทนจำหน่าย) โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจาพูดคุย
ในตอนท้าย สองผู้บริหารคนรุ่นใหม่ คือ คุณเพิร์ธ และ คุณเบนซ์ ได้ร่วมกันกล่าวฝากความน่าสนใจของ ไก่ว่าว เอาไว้ด้วยว่า
ต้องบอกตรง ๆ ว่า เราไม่มีประสบการณ์ แต่เราอาศัยการศึกษาหาข้อมูล เรียนรู้ด้วยตัวเอง ปรึกษาสอบถามจากผู้รู้ และ Google ช่วยคุณได้ โดยพวกเราคิดตลอด ไม่หยุดนิ่ง และตั้งโจทย์ คือ ต้องทำอย่างไรให้สินค้าเป็นมาตรฐาน ต้องจดเครื่องหมายการค้าอันนั้น ต้องผ่านมาตรฐานอันนี้ และเรายังขาดอะไร และเราจะต้องมีอะไร หลังบ้านเราต้องบริหารจัดการระบบอย่างไร จะต้องมีระบบ POS เพื่อเช็คสินค้า , ตัดสต็อก , การขายเราต้องมี Delivery ด้วย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ คือ คุณต้องลงมาทำเองจริง ๆ ถึงจะรู้
ดังนั้นถ้าไก่ว่าวจะเล่นใหญ่ ระบบรากฐานของแบรนด์นั้นจึงมีความสำคัญมาก ถ้าเราวางระบบเข้มแข็งแล้วทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน เราจึงกล้าทำ Marketing ที่ใหญ่ได้อย่างที่ทุกคนเห็น
เพราะเราจะไประดับโลกให้ได้ เรื่องพวกนี้พวกเราจึงต้องทำ มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ และทั้งหมดนี้ คือ คำตอบที่ทุกคนถามว่า แค่ไก่ปิ้งเสียบไม้ ทำไม ? เล่นใหญ่ขนาดนี้
ผมมองว่า ในการทำธุรกิจ หรือแม้แต่การประกอบอาชีพเล็ก ๆ อะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ยากที่สุด คือ “การเริ่มต้น” จากนั้นสิ่งที่คุณต้องเจอ คือ ทำอย่างไรให้ธุรกิจที่คุณทำนั้นประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเราไม่เริ่ม มันก็จะยังไม่เกิดสักที
การเริ่มต้น ว่ายากแล้ว แต่ระหว่างทางผมบอกตามตรงเลยว่า แม่งโคตรยากกว่า ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดหมาย แต่ผมเชื่อว่า หลายคนจะมีคำดังก้องในหัวว่า “กูมาขนาดนี้ กูถอยไม่ได้แล้ว” ดังนั้นคุณก็ต้องเชื่อมั่นตัวเองว่าต้องทำได้ และก็ต้องเชื่อมั่นกับทีมงานที่เรามี ซึ่งต้องทำจริง ไม่เหลาะแหละ
คนสมัยนี้อยากมีธุรกิจของตัวเองไว ๆ และเบื่อง่าย พอท้อหรือไม่ชอบก็จะล้มเลิก แสดงว่า คุณไม่ได้คิดจะทำแต่แรกจริง ๆ แค่อยากทำตามกระแส ทำตามเพื่อนแนะนำ ซึ่งจริง ๆ มันไม่ได้ผิดนะ แต่ผลลัพธ์มันจะไม่สำเร็จ จึงอยากฝากวัยรุ่นยุคใหม่ว่า อยากทำอะไรนั้นไม่ผิด แต่ต้องคิดให้ตกตะกอนจริง ๆ อย่าปุ๊บปั๊บทำ และต้องจริงจังกับมัน อย่าถอดใจง่าย ๆ
และสำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพเสริม หรือทำเป็นรายได้หลักก็ได้ โดยสนใจแฟรนไชส์ ‘ไก่ว่าว’ สามารถติดต่อสอบถามได้โดยตรง ในเรื่องการลงทุน เราไม่ตั้งข้อจำกัดของนักลงทุน ด้วยความที่เราเข้าใจดีว่า วิกฤตโควิดและเศรษฐกิจ ทำให้หลายคนเกิดอาการถึงทางตัน ซึ่งเราอยากให้ธุรกิจนี้ เป็นธุรกิจทางเลือก ที่คนอาจจะไม่มีเงินทุนอะไรมากมายแต่ก็อยากลงทุนเพื่อเป็นอาชีพ
เป้าหมายของพวกเรา คือ การอยากช่วยคนที่มีรายได้น้อย ซึ่งพวกเราชอบคนขยัน, คนสู้ชีวิต ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่ทำอะไรทำจริง ขายเอง ปิ้งเอง และกำไรก็เข้ากระเป๋าเองทั้งหมด แบบนี้ คือ คนที่เราต้องการจะสนับสนุน
แต่ไม่ได้ ต่อว่า คนที่มีเงินแล้วอยากลงทุนจ้างพนักงานขายนะ เพียงแต่กำไรเขาก็จะได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย และเขาก็จะไม่รู้ปัญหาจริง ๆ เหมือนกับคนที่ขายเอง ซึ่งจะรู้ปัญหาหน้างานและอาจจะแนะนำเราให้ปรับปรุงได้อีกด้วย และเราพร้อมที่จะสนับสนุนคนกลุ่มนี้เต็มที่
ในส่วนอนาคต เราจะผลักดันลูกค้าแฟรนไชส์เหล่านี้ หรืออาจจะเป็นหุ้นส่วนเพื่อให้ แฟรนไชส์ซี เติบโตมากยิ่งขึ้นด้วย เพราะคุณจะปิ้งไก่ไปตลอดไม่ได้ และเราพร้อมผลักดันให้คุณเติบโตไปพร้อมกับเราอย่างแน่นอน
ฝากถึงผู้บริโภคทุกคนนะครับ จริง ๆ ไก่ของผมก็ไม่ได้อร่อยเว่อร์อะไรขนาดนั้น เพียงแต่ มีแต่คนบอกว่า อร่อย !! แต่ผมก็อยากให้คนที่ยังไม่เคยได้สัมผัส ได้พิสูจน์ด้วยตัวคุณเองละกัน เพราะเราคงไม่ยัดเยียดหรือเคลมว่า ไก่ของเราอร่อย ซึ่งตัวคุณเริ่มต้นง่าย ๆ ก็ลองสั่ง Delivery ผ่านแอปฯ จัดส่งอาหารได้ทุกแอปฯ ลองชิมกันดูนะครับ
สำหรับ คนที่อยู่ต่างจังหวัด แล้วคิดไม่ออกว่า อยากทดลองสั่งไก่ว่าวกินที่ไหนดี ให้ท่านแอด LINE ของเราที่เป็น Official ของบริษัทมาก่อน โดยจะมีทีมแอดมิน ให้คำแนะนำตลอด 24 ชม. ให้คุณสั่งไก่ว่าว ที่ใกล้ที่สุดที่คุณพักอาศัยอยู่
สนใจธุรกิจแฟรนไชส์ Gaiiwow – ไก่ว่าว
Tel : 082 874 4747
Facebook : gaiiwow
Email : Gaiiwowhq@gmail.com
Id LINE : @Gaiiwow
8,753 คน
แฟรนไชส์แนะนำอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
©2024 TaokaeCafe.com