เปิดตัว “เลอ-มง ราเมง” ราเมงสตรีทฟู้ดสุดพรีเมียม เป็นเจ้าของร้านทันที จ่ายแค่หลักหมื่น !!

เชื่อได้ว่า มีคนไทยที่รู้จักและชื่นชอบอาหารญี่ปุ่นอยู่เป็นจำนวนมาก และหากใครที่เคยมีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น และได้สัมผัสกับรสชาติของอาหารต้นตำรับแดนปลาดิบ เชื่อได้ว่า ร้อยทั้งร้อยเสียง บอกตรงกันว่า ไม่ว่าจะกินอะไรที่ญี่ปุ่นก็อร่อยไปหมดทุกอย่างเลย
           
และ 1 ในเมนูอาหารยอดฮิตต้นตำรับญี่ปุ่น ต้องมี ราเมง-Ramen เมนูเส้นสไตล์ญี่ปุ่นติดอันดับต้น ๆ อยู่ด้วยอย่างแน่นอน แต่พอมองย้อนกลับมาที่บ้านเราในเมืองไทยนั้น เวลาจะหาทานราเมงรสชาติต้นตำรับญี่ปุ่น ก็ต้อง walk in เข้าไปทานในห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารระดับ Restaurant ในราคาที่สูงหลักหลายร้อยบาทขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่เป็นแบบนั้น
           
ด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้ประกอบการที่เล็งเห็นโอกาส การหยิบยกราเมงรสชาติอร่อยได้คุณภาพต้นตำรับญี่ปุ่นขนานแท้ มาเสิร์ฟให้กับทุกกลุ่มผู้บริโภคคนไทยได้เข้าถึงง่าย ในราคาที่จับต้องได้จริง ๆ ภายใต้รูปแบบร้านราเมงสตรีทฟู้ด บวกกับเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจที่ฝันอยากเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นเล็ก ๆ ร่วมลงทุนได้ในรูปแบบแฟรนไชส์อาหารญี่ปุ่นในราคาเพียงแค่หลักหมื่น !! เท่านั้น
           

นั่นคือ LE MONG เลอ-มง ราเมง ซึ่งเป็นธุรกิจแฟรนไชส์ราเมงสตรีทฟู้ด แต่รสชาติพรีเมียมที่กล่าวถึงนั่นเอง บริหารโดย คุณปรมะ ห่อทองพูน (Managing Director)
           
โดย LE MONG เลอ-มง ราเมง ถือเป็นแฟรนไชส์น้องใหม่ที่เพิ่งคลอดสด ๆ ร้อน ๆ ในช่วงวิกฤต COVID-19 เข้าสู่เมืองไทยครั้งแรกเมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา และได้รับเสียงตอบรับ มีผู้สนใจอย่างต่อเนื่อง
           
ด้วยจุดแข็งของ LE MONG เลอ-มง ราเมง  เป็นธุรกิจอาหารที่ลงทุนไม่แพง เป็นอาหารที่ขายได้ทุกกลุ่มผู้บริโภค เข้าถึงง่าย การบริหารจัดการ การปรุงเมนูในร้านไม่ได้ยุ่งยาก เปิดขายได้ทุกที่ทุกทำเล และผู้ลงทุนสามารถผูกกับแอปพลิเคชันสั่งอาหารออนไลน์ เพิ่มช่องทางสร้างยอดขายหน้าร้านของท่านได้อีกด้วย
           
แต่ประเด็นสำคัญ คือ ความต้องการแตกไลน์ต่อยอดสร้างคุณค่า และเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ที่บริษัทผลิตและจำหน่ายอยู่ คือ การเป็นโรงงานผู้ผลิตและจำหน่ายเส้นสดราเมงเกรดพรีเมียมมากว่า 90 ปีแล้ว ภายใต้ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย บริษัท พี.เอ็ม.เค นู้ดเดิ้ล แฟมิลี่ จำกัด (P.M.K.NOODLE FAMILY CO.,LTD.)


คุณปรมะ กล่าวว่า ที่มาของการทำแฟรนไชส์ LE MONG เลอ-มง ราเมง เริ่มต้นจากที่เราเป็นโรงงานทำเส้นมาก่อนกว่า 90 ปีแล้ว ตั้งแต่สมัยรุ่นอากง ที่ย้ายถิ่นฐานมาจากเมืองจีน มาเมืองไทยเริ่มต้นจากทำตลาด ขายเองในชุมชน แล้วพอมาสมัยคุณพ่อ ธุรกิจก็ค่อย ๆ เติบโตตามลำดับ โดยมุ่งเน้นเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเส้นให้กับร้านสุกี้ชื่อดัง (OEM) และร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์ดัง ๆ ทั่วประเทศ
           
จึงได้ต่อยอด ตัวผลิตภัณฑ์ คือ เส้นราเมง ของเรา ที่สามารถนำไปทำเมนูราเมงอร่อย ๆ คุณภาพสู้ร้านขึ้นห้างฯ ได้สบาย ๆ  อีกทั้งผลิตภัณฑ์มีมาตรฐาน และมี Potential อยู่แล้ว นำมาปรุงเป็นราเมงรสชาติต้นตำรับญี่ปุ่นในแบบฉบับของทางร้าน พร้อมเสิร์ฟให้กับกลุ่มผู้บริโภคทุกเพศทุกวันทานได้ในราคาเริ่มต้นไม่ถึงร้อยบาท นอกจากนี้ มองว่า ช่องทางตลาดในเมืองไทย ราเมงคุณภาพแต่จำหน่ายในราคาถูกยังไม่ค่อยมี
           
“จุดแข็งของเรา คือ เราเป็นโรงงานที่ผลิตหรือทำเส้นเอง เราจึงรู้และสามารถควบคุมการผลิตและจำหน่ายวัตถุดิบได้ตั้งต้นน้ำถึงปลายน้ำ
         
โดยเราเริ่มต้นการทดลอง ด้วยการนำเอาเส้นราเมงที่โรงงานผลิตแล้วนำมาลวก เข้ากับสูตรซอส และ น้ำซุปที่เราคิดค้นขึ้นเอง ต้นทุนก็ไม่ได้สูง และรสชาติอร่อยไม่แพ้ราเมงเจ้าดังขึ้นห้างฯ  ประกอบกับช่วง COVID-19 ที่คนตกงานเยอะ เราจึงอยากจะนำเสนอ เลอ-มง ราเมง ให้เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่สนใจลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ร้านอาหาร ลงทุนแค่หลักหมื่นเท่านั้น”
           
จริง ๆ แล้วราเมงเราสามารถ Merge หรือทำร่วมกับธุรกิจร้านขายเครื่องดื่มอื่น ๆ ก็ได้ ผมมองว่า มันเหมาะสมกับคนที่กำลังมองหาอาชีพในช่วงนี้ ซึ่งถึงอย่างไร คนก็ยังต้องกินอยู่ดี แต่ลงทุนได้ในราคาที่ไม่แพง คุณภาพของเมนูอาหารก็คุ้มค่าคุ้มราคา ทุกกลุ่มผู้บริโภคจับต้องได้ โดยเราขายเริ่มต้นแค่เมนูละ 55 บาท เปิดตัว 3 เมนูได้แก่ ราเมงซุปกระดูกหมู (ตัวพระเอก), ราเมงซุปต้มยำ, ราเมงโชยุ
             


คุณปรมะ กล่าวต่อว่า ภาพลักษณ์ของราเมงขึ้นห้างฯ ราคาแพงจะหายไป เมื่อเราได้ยกหน้าร้านราเมงคุณภาพระดับ Restaurant มาขายในรูปแบบ Kiosk สตรีทฟู้ด ด้วยจุดเด่นเรื่องเส้น + น้ำซุป ที่รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม  อร่อยอย่างลงตัว ถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน

       
“เป้าหมายของเรา คือ การเป็น Ramen Number 1 ในรูปแบบแฟรนไชส์สตรีทฟู้ดให้ได้”
 
           

อย่างที่กล่าวไปว่า LE MONG เลอ-มง ราเมง จุดเด่นคือเรื่องของ ‘เส้น’ ต้องบอกว่า เราส่งให้กับร้านสุกี้ และราเมงเจ้าดังหลายเจ้า และเราก็พัฒนาผลิตภัณฑ์อยู่ตลอดเวลา เราผลิตและมีตัวสินค้า Tester เพื่อให้ลูกค้าและผู้บริโภคได้ทดลองได้ตลอด

ซึ่งในบางแบรนด์ที่เปิดขายราเมง เขานำเข้าเส้นมาจากต่างประเทศ ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบของเขาแพง จึงต้องขายแพง แต่เราผลิตเส้นได้เองจึงขายได้ถูกกว่า แต่คุณภาพและรสชาติเทียบเท่าแบรนด์ดังขึ้นห้างฯ แน่นอน
           
เส้นราเมงของเรา บอกเลยว่า นุ่มมาก ๆ เวลาสูดเข้าปาก จะได้อรรถรส ได้รสชาติอร่อย คล่องคอและนุ่มมาก ๆ ซึ่งเวลาเราจะพัฒนาสินค้า เราจะมีการทดสอบในการชิมทุกครั้ง เพื่อนำกลับไปปรับปรุง

และจากประสบการณ์และการทำ Research จะพบว่า สิ่งที่จะดึงดูดให้ผู้บริโภคเลือกทานราเมงก่อนเรื่องอื่น คือ เส้น + น้ำซุป มาเป็นอันดับหนึ่งควบคู่กัน ส่วนผักและเนื้อสัตว์ เป็นองค์ประกอบรองลงมา
           
นั่นจึงเป็นที่มาของการ เปิดตัว 3 เมนูได้แก่ ราเมงซุปกระดูกหมู (ตัวพระเอก), ราเมงซุปต้มยำ, ราเมงโชยุ
           
ยกตัวอย่างเช่น ราเมงซุปกระดูกหมู ซึ่งหลายคนชื่นชอบ  โดยเฉพาะเด็ก ๆ ชอบทานมาก ๆ รสชาติกลมกล่อมลงตัว ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มอีกแล้ว
           
ส่วน ราเมงซุปต้มยำ ก็จะได้รสชาติเปรี้ยวและแซ่บกำลังดี  รสชาติถูกปากและเข้าถึงคนไทยจริง ๆ 
           
และตัวสุดท้าย คือ  ราเมงโชยุ ก็เป็นตัวต้นตำรับที่ต้องมีเสิร์ฟในร้านด้วยอย่างแน่นอน ถือได้ว่าเป็นรส ‘อูมามิ’ ตามหลักต้นตำรับของราเมงญี่ปุ่นอยู่แล้ว 
           

สำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ เลอ-มง ราเมง  คุณปรมะ กล่าวว่า เราได้ย่นย่อการบริหารจัดการให้ผู้ลงทุนสามารถเปิดร้านรูปแบบสตรีทฟู้ดได้ในราคาไม่แพง เริ่มต้น 55,555 บาท
           
ภายใต้การบริหารจัดการร้านที่ง่ายมาก ๆ เพียงแค่รับวัตถุดิบของบริษัทฯ ที่จัดส่งให้ ไปปรุงร้อน ตามสูตรและส่วนผสมของเรา (walk in มาเรียนได้ที่โรงงาน หรือ สำหรับผู้ไม่สะดวก เรามีคู่มือ Video สอนออนไลน์จัดส่งให้กับผู้ลงทุนที่อยู่ไกลหรืออยู่ตามต่างจังหวัด) ซึ่งด้วยรูปแบบร้านเช่นนี้ คนเดียวก็เปิดร้านขายได้ แม้ไม่มีประสบการณ์ทำธุรกิจนี้ได้ และจุดคุ้มทุน กำไรต่อชาม ไม่ต่ำกว่า 45-50% อีกด้วย  
           
ปัจจุบัน (ปี 2564) มีเปิดตัวแฟรนไชส์ไปแล้ว 9 สาขา ส่วนใหญ่ คือ ผู้ที่สนใจติดต่อขอไปเปิดขายที่ต่างจังหวัด โดยปัจจุบันเราทำการตลาดออนไลน์ โดยยิงแอดโฆษณา Facebook ด้วย ซึ่งได้ผลดีกับผู้ที่สนใจลงทุนที่อยู่ต่างจังหวัด 
           
ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะว่า ราเมงในต่างจังหวัด ค่อนข้างหาทานยาก แต่กลุ่มผู้บริโภคที่ชื่นชอบทานราเมงมีจำนวนอยู่ไม่น้อย และมีกำลังจับจ่ายสูง พร้อมที่จะซื้อทาน หากมีสาขาหน้าร้านเปิดให้บริการในพื้นที่ของพวกเขานั่นเอง
           
สำหรับการลงทุนกับแฟรนไชส์ เลอ-มง ราเมง ขณะนี้ เราเน้นตัวแพ็กเกจลงทุน 55,555 บาท เพราะเหมาะสมกับช่วงเวลานี้ที่สุด ส่วนสิทธิประโยชน์ที่ผู้ลงทุนแฟรนไชส์จะได้รับ ได้แก่

• ได้รับอุปกรณ์ & วัตถุดิบพร้อมเปิดร้านได้ทันที

• ลูกค้า จัดเตรียมแค่ถังแก๊สเท่านั้น

• ไม่มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า, ไม่มีเก็บ Royalty Fee, จ่ายครั้งเดียวจบ ไม่มีเก็บเพิ่ม

• เรามีโปรโมชั่นในช่วงนี้ โดยผู้ที่สนใจลงทุนแฟรนไชส์ช่วงนี้ เราแถมวัตถุดิบทำราเมงขายเพิ่มอีก 100 ชาม

• วัตถุดิบ อย่างเช่น เส้นสดราเมง บริษัทฯ เป็นผู้จัดส่งให้ผู้ลงทุน นำไปลวกตามสูตรของเรา โดยเรามีวีดีโอสอน หรือสะดวกเข้ามาเรียนที่โรงงานก็ได้ เราสอนแค่ 2-3 ชม.ก็ทำเป็นแล้ว (หมูชาชู เราสไลด์ให้หมดแล้ว)

• สอนการบริหารจัดการร้าน, สอนจัดร้าน , เตรียมของตั้งแต่เปิดร้านขาย อย่างมืออาชีพ

• วัตถุดิบสำคัญที่ต้องสั่งจากโรงงาน ได้แก่ เส้น, ซอส, หมูชาชู ส่วนผักสามารถหาซื้อได้ในพื้นที่ บริการจัดส่งผ่านขนส่งเอกชน
 
           
ในส่วนเรื่องของ จุดคุ้มทุน โดยเราให้แฟรนไชส์ซี ขายชามละ 55 บาทอยู่แล้ว เพราะราคาต้นทุนที่หักแล้วประมาณ 40-50% ต่อชาม  
         
แต่ถ้ามีค่าเช่าที่, ค่าจ้างพนักงาน กำไรก็ลดทอนลง (เราจะช่วยวิเคราะห์ทำเลก่อนเปิดขายให้ด้วย รวมถึงคำนวณต้นทุนกำไรการคิดยอดขายให้แฟรนไชส์ซีด้วย) ว่า location ที่คุณเปิด ต้องขายวันละกี่ชาม หรือกี่เดือนจึงจะคืนทุน ฯลฯ
           
สำหรับทำเลที่เปิดร้านแล้ว Success จริง ๆ เช่น อยู่ในแหล่งชุมชน, ตลาดขนาดใหญ่ ที่มีคนพลุกพล่าน หรืออาคารพาณิชย์ (ตึกแถว) ก็ได้ โดยราเมง เป็นอาหารที่ขายได้ทุกช่วงเวลา แต่ส่วนใหญ่จะเหมาะกับการขายช่วงเย็น - ดึกมากกว่า ยิ่งถ้าเปิดแถว ๆ ร้านเหล้า ผับ บาร์ นักดื่มออกมา ต้องสั่งทานอย่างแน่นอน ซึ่งก็ถือว่า เป็นทำเลที่ขายดีเช่นกัน
         
สำหรับเป้าหมายในปี 2564 นี้ คุณปรมะ เผยว่า ขอตั้งเป้าขยายสัก 50 สาขาแฟรนไชส์ ก็น่าจะพอใจแล้ว ภายใต้สถานการณ์โควิดฯ เช่นนี้ หรือหากท่านใดที่สนใจอยู่อยากชิมรสชาติราเมง ก็สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ที่โรงงานของเรา ซึ่งเรามี Product ราเมงจัดส่งให้คุณได้ทดลองชิมด้วยตัวคุณเอง
         
“ฝากแบรนด์ เลอ-มง ราเมง สำหรับคนที่มีความฝันอยากเป็นเจ้าของร้านราเมงสไตล์ญี่ปุ่นเอาไว้ด้วยนะครับ ซึ่งแบรนด์ของเราทำมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนที่ชื่นชอบราเมงด้วยงบลงทุนที่ไม่แพงโดยเฉพาะ
         
เราอยากให้คนไทยทุกคน และทุกกลุ่มได้กินราเมงคุณภาพที่ดี เทียบเท่ากับขึ้นห้างฯ ได้ เพราะเราทดสอบมาแล้ว ว่า คุณภาพเทียบเท่าห้างฯ และรสชาติมีกลิ่นอายญี่ปุ่นแต่ถูกปากคนไทยแน่นอน”
 

ช่องทางติดต่อ แฟรนไชส์ LE MONG เลอ-มง ราเมง

Address : บริษัท พี.เอ็ม.เค. นู้ดเดิ้ล แฟมิลี่ จำกัด เลขที่ 1340 ซอยเทียนทะเล 26 แยก 6-1 ถนนบางขุนเทียน – ชายทะเล แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150
Tel : 082 362 4919
Facebook : LE MONG เลอมง ราเมง
Email : lemong.ramen@gmail.com