เดินยุทธศาสตร์เพิ่มกลุ่มอาหารสุขภาพ 2 เท่าตัว “ยูนิลิเวอร์” ตั้งเป้าภายใน 2568
ยูนิลีเวอร์ ส่งแบรนด์ 'คนอร์'ลุยตลาดอาหารเพื่อสุขภาพผ่านแคมเปญ 'Eat Good, Get Good'ตั้งเป้าคนไทยบริโภคอาหารมีประโยชน์มากขึ้น 5 ล้านคนในปีแรก และ 29 ล้านคนในปี 2568 นำ
นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ประเทศไทยและอาเซียน กล่าวว่าจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO เผยว่า ประชากรโลกจำนวน 2 ล้านล้านคนประสบปัญหาการขาดวิตามินและเกลือแร่ ระบบอาหารโลกยังก่อให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม และมากกว่า 20% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกมาจากอุตสาหกรรมอาหารในขณะที่กว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตออกมากลับกลายเป็นขยะอาหาร
จากงานวิจัยของคนอร์และ World Wildlife Fund Inc. (WWF) พบว่า 75% ของการบริโภคของคนทั้งโลก เกิดจากการบริโภคพืชผัก 12 ชนิด และสัตว์ 5 ชนิดเท่านั้น ซึ่งการบริโภคแบบนี้ จะสร้างผลเสียต่อตัวเราและโลกของเรา
โดยผลิตภัณฑ์แบรนด์คนอร์ ต้องการเปลี่ยนแปลงให้สังคมในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้เกิดการบริโภคเพื่อสุขภาพอย่างยั่งยืน ผ่านวัตถุดิบ Future 50 Food (F50 Food) หรือ 50 อาหารเพื่อสุขภาพและโลกที่ดีขึ้นของทุกคน โดยยูนิลิเวอร์ยังเดินหน้าเต็มที่เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารโลก โดยภายในปี 2568 ยูนิลิเวอร์จะเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพเป็นสองเท่าทั่วโลก พร้อมลดปริมาณของแคลอรี่ โซเดียม และน้ำตาลในผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นพันธกิจ “Future Food” เพื่อสังคมและโลกที่ยั่งยืน กินดี ได้ดี เริ่มง่ายๆ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและยั่งยืนไปกับคนอร์
“คนอร์ มุ่งสร้างคุณค่าทางโภชนาการอย่างยั่งยืนเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญหลักของเรา ด้วยโลกกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ของระบบอาหารโลก และในฐานะบริษัทอาหารชั้นนำของโลกซึ่งต้องการที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในประเด็นนี้ และเชื่อว่าทุกคนควรเข้าถึงอาหารที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการได้ ในขณะที่เรารณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น พร้อมให้คำมั่นสัญญาในการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของเราให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น" นายโรเบิร์ต กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2563 ผลิตภัณฑ์คนอร์กว่า 83% ผ่านหลักเกณฑ์โลกในการจำกัดปริมาณเกลือที่ 5 กรัม ต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้น ทีมวิจัยและพัฒนายังทำงานอย่างหนักเพื่อคิดค้นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ โดยมีคำมั่นสัญญาว่าจะเปลี่ยนเป็นบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล 100% ในปี2025
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืนอื่นๆ ทั้งการลดขยะอาหารจากการผลิตโดยตรงของเราจากโรงงานไปสู่ร้านค้าลง 50% ในปี 2568 การลดการใช้พลังงานในด้านอื่นๆ อาทิไฟฟ้า และน้ำรวมไปถึงการสนับสนุนวัตถุดิบทางการเกษตรแบบยั่งยืนจากการคัดสรรวัตถุดิบา โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับชาวนาและผู้ผลิตเพื่อสร้างมาตรฐานให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมในห่วงโซ่อาหาร
นายอัลพาน่า ไททัส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดธุรกิจกลุ่มอาหารภูมิภาคเอเชียและประเทศไทย กล่าวว่า คนอร์ได้สร้างสรรค์แคมเปญ “Eat Good, Get Good” หรือ กินดี ได้ดี เพื่อสนับสนุนให้คนไทยหันมาปรับพฤติกรรมการบริโภคเพื่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งผลสำรวจผู้บริโภคแสดงให้เห็นว่าคนไทยทุกคนมีความตั้งใจที่ดีในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันทำได้ให้ต้องบริโภคอะไรที่ไม่ดีต่อร่างกายหรือโลกไปโดยปริยาย ทั้งเหตุผลของการไม่มีเวลา หรือทำอาหารเพื่อสุขภาพไม่เป็น รวมถึงหลายคนยังเชื่อว่าอาหารเพื่อสุขภาพมักมีราคาแพง หรือไม่อร่อย
ทั้งนี้ คนอร์ มีแนวคิดในการเปลี่ยนมุมมองเหล่านี้ ผ่านการสาธิตถึงอาหารที่ดี มีประโยชน์ และอร่อยสามารถอยู่รวมกันในจานเดียวได้อย่างไร ด้วยแคมเปญนำร่อง “Eat Good Wednesday” หรือ #วันพุธกินดี พร้อมชวนคนไทยให้ลองสัมผัสประสบการณ์ว่าอาหารที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์สามารถทำให้ง่ายๆ และประหยัด โดยคนอร์พร้อมสนับสนุนวิถีเพื่อสุขภาพของทุกคน ที่เข้าใจถึงพฤติกรรมการบริโภคในปัจจุบันของคนไทย
พร้อมรณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ โดยเพิ่มสิ่งดี ๆ ลงไปในมื้ออาหารทุกวัน อาทิ แนะนำทางเลือกของอาหารที่ทั้งมีประโยชน์และอร่อย วิธีทำอาหารง่ายๆ สำหรับมือใหม่ หรือเคล็ดลับในการเลือกซื้ออาหารโภชนาการในราคาสบายกระเป๋า ทั้งหมดนี้เพื่อให้คนไทยได้บริโภคเพื่อสุขภาพมากขึ้นจากพฤติกรรมเดิม
สำหรับแคมเปญ “Eat Good Wednesday” หรือ #วันพุธกินดี ที่เชิญชวนให้คนไทยหันมาบริโภคอาหารที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น เริ่มง่ายๆ กำหนด 1 วันใน 1 สัปดาห์นั่นคือวันพุธโดยลองปรับพฤติกรรมการบริโภคจากปกติที่หลายคนอาจไม่ค่อยมีเวลาได้บริโภคผัก ธัญพืชหรืออาหารที่มีประโยชน์เท่าที่ควร เป็นการเพิ่มอาหารที่ดีต่อสุขภาพเหล่านั้นลงไปในมื้อปกติของคุณหรืออาจจะเริ่มจากวัตถุดิบ Future 50 Food (F50 Food) หรือ 50 อาหารเพื่อสุขภาพและโลกที่ดีขึ้นของทุกคน
"โดยสามารถหาได้ง่ายๆ จากตลาดหรือซูปเปอร์มาร์เกตอย่างปวยเล้ง, หัวไช้เท้า, ผักกาดขาวหรือเห็ดเข็มทอง ที่แม้จะปรับเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าทำสม่ำเสมอ ก็อาจจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ เรียกได้ว่าเป็นการ กินดี ได้ดี เพื่อตัวคุณเอง สุขภาพดีเริ่มได้ที่ตัวเรา” นายอัลพานา กล่าวเสริม
ทั้งนี้ จากความร่วมมือเพื่อการเปลี่ยนแปลง “คนไทยสุขภาพดี” เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง คนอร์ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง Lotus’s เพื่อสนับสนุนให้บริโภควัตถุดิบที่สด ใหม่ อย่างผักสดเพื่อสุขภาพ ผ่านกิจกรรมเพื่อคนรักสุขภาพออกมาในอนาคตอันใกล้
นอกจากนี้คนอร์ยังมองหาความร่วมมือเพื่อความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพคนไทย ทั้งในด้านรีเทลและร้านอาหารเพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศทางโภชนาการให้สะดวกสบายต่อการกินดี ได้ดี เข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพได้ง่ายและช่วยให้คนไทยได้ปรับพฤติกรรมการกินที่ถูกต้องจนเป็นนิสัย จากพันธกิจทั้งหมดนี้เพื่อให้คนไทยบริโภคอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น 5 ล้านคนในปีแรก และ 29 ล้านคนภายในปี 2568
🙇ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : https://www.posttoday.com/economy/news/657061
นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ประเทศไทยและอาเซียน กล่าวว่าจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO เผยว่า ประชากรโลกจำนวน 2 ล้านล้านคนประสบปัญหาการขาดวิตามินและเกลือแร่ ระบบอาหารโลกยังก่อให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อม และมากกว่า 20% ของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั่วโลกมาจากอุตสาหกรรมอาหารในขณะที่กว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตออกมากลับกลายเป็นขยะอาหาร
จากงานวิจัยของคนอร์และ World Wildlife Fund Inc. (WWF) พบว่า 75% ของการบริโภคของคนทั้งโลก เกิดจากการบริโภคพืชผัก 12 ชนิด และสัตว์ 5 ชนิดเท่านั้น ซึ่งการบริโภคแบบนี้ จะสร้างผลเสียต่อตัวเราและโลกของเรา
โดยผลิตภัณฑ์แบรนด์คนอร์ ต้องการเปลี่ยนแปลงให้สังคมในปัจจุบันและอนาคต เพื่อให้เกิดการบริโภคเพื่อสุขภาพอย่างยั่งยืน ผ่านวัตถุดิบ Future 50 Food (F50 Food) หรือ 50 อาหารเพื่อสุขภาพและโลกที่ดีขึ้นของทุกคน โดยยูนิลิเวอร์ยังเดินหน้าเต็มที่เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงระบบอาหารโลก โดยภายในปี 2568 ยูนิลิเวอร์จะเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพเป็นสองเท่าทั่วโลก พร้อมลดปริมาณของแคลอรี่ โซเดียม และน้ำตาลในผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นพันธกิจ “Future Food” เพื่อสังคมและโลกที่ยั่งยืน กินดี ได้ดี เริ่มง่ายๆ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้นและยั่งยืนไปกับคนอร์
“คนอร์ มุ่งสร้างคุณค่าทางโภชนาการอย่างยั่งยืนเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญหลักของเรา ด้วยโลกกำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ของระบบอาหารโลก และในฐานะบริษัทอาหารชั้นนำของโลกซึ่งต้องการที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในประเด็นนี้ และเชื่อว่าทุกคนควรเข้าถึงอาหารที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการได้ ในขณะที่เรารณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อการบริโภคอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น พร้อมให้คำมั่นสัญญาในการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์ของเราให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น" นายโรเบิร์ต กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วงปลายปี 2563 ผลิตภัณฑ์คนอร์กว่า 83% ผ่านหลักเกณฑ์โลกในการจำกัดปริมาณเกลือที่ 5 กรัม ต่อวัน ยิ่งไปกว่านั้น ทีมวิจัยและพัฒนายังทำงานอย่างหนักเพื่อคิดค้นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ โดยมีคำมั่นสัญญาว่าจะเปลี่ยนเป็นบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล 100% ในปี2025
นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืนอื่นๆ ทั้งการลดขยะอาหารจากการผลิตโดยตรงของเราจากโรงงานไปสู่ร้านค้าลง 50% ในปี 2568 การลดการใช้พลังงานในด้านอื่นๆ อาทิไฟฟ้า และน้ำรวมไปถึงการสนับสนุนวัตถุดิบทางการเกษตรแบบยั่งยืนจากการคัดสรรวัตถุดิบา โดยทำงานอย่างใกล้ชิดกับชาวนาและผู้ผลิตเพื่อสร้างมาตรฐานให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมในห่วงโซ่อาหาร
นายอัลพาน่า ไททัส ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาตลาดธุรกิจกลุ่มอาหารภูมิภาคเอเชียและประเทศไทย กล่าวว่า คนอร์ได้สร้างสรรค์แคมเปญ “Eat Good, Get Good” หรือ กินดี ได้ดี เพื่อสนับสนุนให้คนไทยหันมาปรับพฤติกรรมการบริโภคเพื่อสุขภาพมากขึ้น ซึ่งผลสำรวจผู้บริโภคแสดงให้เห็นว่าคนไทยทุกคนมีความตั้งใจที่ดีในการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันทำได้ให้ต้องบริโภคอะไรที่ไม่ดีต่อร่างกายหรือโลกไปโดยปริยาย ทั้งเหตุผลของการไม่มีเวลา หรือทำอาหารเพื่อสุขภาพไม่เป็น รวมถึงหลายคนยังเชื่อว่าอาหารเพื่อสุขภาพมักมีราคาแพง หรือไม่อร่อย
ทั้งนี้ คนอร์ มีแนวคิดในการเปลี่ยนมุมมองเหล่านี้ ผ่านการสาธิตถึงอาหารที่ดี มีประโยชน์ และอร่อยสามารถอยู่รวมกันในจานเดียวได้อย่างไร ด้วยแคมเปญนำร่อง “Eat Good Wednesday” หรือ #วันพุธกินดี พร้อมชวนคนไทยให้ลองสัมผัสประสบการณ์ว่าอาหารที่ทั้งอร่อยและมีประโยชน์สามารถทำให้ง่ายๆ และประหยัด โดยคนอร์พร้อมสนับสนุนวิถีเพื่อสุขภาพของทุกคน ที่เข้าใจถึงพฤติกรรมการบริโภคในปัจจุบันของคนไทย
พร้อมรณรงค์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงง่ายๆ โดยเพิ่มสิ่งดี ๆ ลงไปในมื้ออาหารทุกวัน อาทิ แนะนำทางเลือกของอาหารที่ทั้งมีประโยชน์และอร่อย วิธีทำอาหารง่ายๆ สำหรับมือใหม่ หรือเคล็ดลับในการเลือกซื้ออาหารโภชนาการในราคาสบายกระเป๋า ทั้งหมดนี้เพื่อให้คนไทยได้บริโภคเพื่อสุขภาพมากขึ้นจากพฤติกรรมเดิม
สำหรับแคมเปญ “Eat Good Wednesday” หรือ #วันพุธกินดี ที่เชิญชวนให้คนไทยหันมาบริโภคอาหารที่เปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น เริ่มง่ายๆ กำหนด 1 วันใน 1 สัปดาห์นั่นคือวันพุธโดยลองปรับพฤติกรรมการบริโภคจากปกติที่หลายคนอาจไม่ค่อยมีเวลาได้บริโภคผัก ธัญพืชหรืออาหารที่มีประโยชน์เท่าที่ควร เป็นการเพิ่มอาหารที่ดีต่อสุขภาพเหล่านั้นลงไปในมื้อปกติของคุณหรืออาจจะเริ่มจากวัตถุดิบ Future 50 Food (F50 Food) หรือ 50 อาหารเพื่อสุขภาพและโลกที่ดีขึ้นของทุกคน
"โดยสามารถหาได้ง่ายๆ จากตลาดหรือซูปเปอร์มาร์เกตอย่างปวยเล้ง, หัวไช้เท้า, ผักกาดขาวหรือเห็ดเข็มทอง ที่แม้จะปรับเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าทำสม่ำเสมอ ก็อาจจะนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ เรียกได้ว่าเป็นการ กินดี ได้ดี เพื่อตัวคุณเอง สุขภาพดีเริ่มได้ที่ตัวเรา” นายอัลพานา กล่าวเสริม
ทั้งนี้ จากความร่วมมือเพื่อการเปลี่ยนแปลง “คนไทยสุขภาพดี” เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง คนอร์ได้จับมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง Lotus’s เพื่อสนับสนุนให้บริโภควัตถุดิบที่สด ใหม่ อย่างผักสดเพื่อสุขภาพ ผ่านกิจกรรมเพื่อคนรักสุขภาพออกมาในอนาคตอันใกล้
นอกจากนี้คนอร์ยังมองหาความร่วมมือเพื่อความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพคนไทย ทั้งในด้านรีเทลและร้านอาหารเพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศทางโภชนาการให้สะดวกสบายต่อการกินดี ได้ดี เข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพได้ง่ายและช่วยให้คนไทยได้ปรับพฤติกรรมการกินที่ถูกต้องจนเป็นนิสัย จากพันธกิจทั้งหมดนี้เพื่อให้คนไทยบริโภคอาหารที่มีประโยชน์มากขึ้น 5 ล้านคนในปีแรก และ 29 ล้านคนภายในปี 2568
🙇ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : https://www.posttoday.com/economy/news/657061
1,582 คน
©2024 TaokaeCafe.com