ปีทองของแฟรนไชส์ไทย? ฝ่าคลื่นความท้าทาย สู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน
ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยในปี 2567 อยู่ท่ามกลางความคาดหวังและความท้าทายที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะเป็นที่สนใจของนักลงทุน แต่การเติบโตที่คาดการณ์ไว้กลับชะลอตัวลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนและการแข่งขันที่รุนแรงจากแฟรนไชส์ต่างชาติ โดยเฉพาะแฟรนไชส์จากจีนที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว
จับกระแสแฟรนไชส์ไทย ก่อนบ๊ายบายปี 67
ในปีนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนให้ความสนใจ แต่การเติบโตของธุรกิจนี้คาดว่าจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ (FLA) ธุรกิจแฟรนไชส์ในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 5-6% ซึ่งถือว่าลดลงจากปีที่ผ่านมา ที่มีอัตราการขยายตัวมากกว่า 10% สาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและกำลังซื้อที่ลดลง ส่งผลให้นักลงทุนใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้นในการเลือกซื้อแฟรนไชส์
แม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ธุรกิจแฟรนไชส์บางกลุ่มยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เช่น
🟡 กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะแฟรนไชส์ร้านอาหารและร้านกาแฟ ที่ยังคงเป็นที่นิยมของนักลงทุนและผู้บริโภค
🟡 ธุรกิจร้านสะดวกซัก ซึ่งขยายตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากความสะดวกสบายและความต้องการบริการซักผ้าของผู้บริโภค
🟡 ธุรกิจสถาบันการศึกษา ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของผู้บริโภคในการพัฒนาความรู้และทักษะ
ในทางกลับกัน ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ธุรกิจสปา เนื่องจากผู้บริโภคมีการลดการใช้จ่ายในสินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้ธุรกิจสปาหดตัวลงอย่างชัดเจน
ปัญหาที่แฟรนไชส์ไทยต้องเผชิญ
ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยไม่ได้รอดพ้นจากความท้าทายทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เข้มข้น
🟡 เศรษฐกิจชะลอตัวและกำลังซื้อที่ลดลง ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์ได้รับผลกระทบโดยตรง นักลงทุนใช้เวลานานขึ้นในการตัดสินใจลงทุนในแฟรนไชส์ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงเช่นแฟรนไชส์ร้านอาหาร
🟡 การแข่งขันจากแฟรนไชส์ต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจแฟรนไชส์จากจีนได้เข้ามามีบทบาทในตลาดไทยอย่างมาก แบรนด์แฟรนไชส์จากจีนมีจุดเด่นในการตั้งราคาต่ำ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า เช่น ร้านไอศกรีมและเครื่องดื่มของ Mixue ที่ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วในราคาที่เอื้อมถึง ส่งผลให้แฟรนไชส์ไทยต้องเผชิญกับความกดดันจากการแข่งขันด้านราคา
🟡 ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง ด้วยภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคและนักลงทุนบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการลงทุนได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้มีความสามารถในการลงทุนลดลง นอกจากนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ต้องพึ่งพาเงินกู้จากธนาคารอาจเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้การคืนทุนเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
🟡 การขาดประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารแฟรนไชส์ เจ้าของแฟรนไชส์บางรายอาจขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ ทำให้ไม่สามารถให้การสนับสนุนที่เพียงพอแก่ผู้ที่ลงทุนในแฟรนไชส์ ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจไม่ราบรื่นตามที่คาดหวัง
🟡 เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโดยเฉพาะในด้านดิจิทัลและ AI ส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์ต้องปรับตัวเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง นักลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ที่ไม่มีความรู้หรือทรัพยากรในการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ อาจถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
แนวทางแก้ไขสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ไทย
การที่จะสามารถอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ เจ้าของแฟรนไชส์และนักลงทุนควรพิจารณาแนวทางแก้ไขในด้านต่าง ๆ เหล่านี้
🟡 การสร้างความแตกต่างและคุณค่าให้แก่แบรนด์ เจ้าของแฟรนไชส์ควรมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ที่มีความโดดเด่นและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า การรักษามาตรฐานการบริการและคุณภาพสินค้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าไว้วางใจและกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
🟡 การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาใช้ในธุรกิจแฟรนไชส์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ตัวอย่างเช่น การใช้ระบบการจัดการสินค้าคงคลังหรือการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงการบริการ รวมทั้งการตลาดดิจิทัล
🟡 การสนับสนุนจากเจ้าของแฟรนไชส์ เจ้าของควรให้การสนับสนุนที่เข้มแข็งแก่ผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ไม่ว่าจะเป็นการเทรน การให้คำแนะนำในการดำเนินธุรกิจ หรือการให้คำปรึกษาด้านการตลาด สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์มั่นใจในการทำธุรกิจและประสบความสำเร็จในระยะยาว
🟡 การขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ ธุรกิจแฟรนไชส์ควรขยายการดำเนินงานไปยังพื้นที่ที่มีโอกาสทางธุรกิจสูง เช่น พื้นที่ต่างจังหวัด หรือคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ
🟡 การพัฒนาโพรดักต์และบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ควรติดตามเทรนด์และความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว
แม้เป็นปีแห่งความท้าทาย แต่ก็เป็นโอกาสสำหรับผู้ที่สามารถปรับตัวและพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง การนำเทคโนโลยีมาใช้ และการให้ความสำคัญกับลูกค้า จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในอนาคต
ที่มา:
• สมาคมแฟรนไชส์ฯ คาดลงทุนปีนี้โตแผ่ว 5% https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1139423
• แฟรนไชส์จีน” บุกไทย ชิงแชร์ตลาด 3 แสนล้าน https://www.thansettakij.com/business/marketing/603914
• ทำอย่างไร? เมื่อ “ทุนจีน” บุกไทย ขายทุกอย่าง https://www.thairath.co.th/money/business_marketing/marketing/2808467
• ครึ่งแรกปี 67 ไทยขาดดุลการค้าจีน 7.2 แสนล้าน https://www.jsccib.org/news/detail/ครึ่งแรกปี-67-ไทยขาดดุลการค้าจีน-7-2-แสนล้าน-สินค้าถูก-รุกหนัก-กระทบ-23-อุตสาหกรรม
จับกระแสแฟรนไชส์ไทย ก่อนบ๊ายบายปี 67
ในปีนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่นักลงทุนให้ความสนใจ แต่การเติบโตของธุรกิจนี้คาดว่าจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากสมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ (FLA) ธุรกิจแฟรนไชส์ในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวประมาณ 5-6% ซึ่งถือว่าลดลงจากปีที่ผ่านมา ที่มีอัตราการขยายตัวมากกว่า 10% สาเหตุหลักมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและกำลังซื้อที่ลดลง ส่งผลให้นักลงทุนใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้นในการเลือกซื้อแฟรนไชส์
แม้จะมีความท้าทายทางเศรษฐกิจ แต่ธุรกิจแฟรนไชส์บางกลุ่มยังคงมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี เช่น
🟡 กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม โดยเฉพาะแฟรนไชส์ร้านอาหารและร้านกาแฟ ที่ยังคงเป็นที่นิยมของนักลงทุนและผู้บริโภค
🟡 ธุรกิจร้านสะดวกซัก ซึ่งขยายตัวอย่างรวดเร็วเนื่องจากความสะดวกสบายและความต้องการบริการซักผ้าของผู้บริโภค
🟡 ธุรกิจสถาบันการศึกษา ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามความต้องการของผู้บริโภคในการพัฒนาความรู้และทักษะ
ในทางกลับกัน ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ ธุรกิจสปา เนื่องจากผู้บริโภคมีการลดการใช้จ่ายในสินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้ธุรกิจสปาหดตัวลงอย่างชัดเจน
ปัญหาที่แฟรนไชส์ไทยต้องเผชิญ
ธุรกิจแฟรนไชส์ในประเทศไทยไม่ได้รอดพ้นจากความท้าทายทางเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เข้มข้น
🟡 เศรษฐกิจชะลอตัวและกำลังซื้อที่ลดลง ภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์ได้รับผลกระทบโดยตรง นักลงทุนใช้เวลานานขึ้นในการตัดสินใจลงทุนในแฟรนไชส์ โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงเช่นแฟรนไชส์ร้านอาหาร
🟡 การแข่งขันจากแฟรนไชส์ต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจแฟรนไชส์จากจีนได้เข้ามามีบทบาทในตลาดไทยอย่างมาก แบรนด์แฟรนไชส์จากจีนมีจุดเด่นในการตั้งราคาต่ำ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าคุ้มค่า เช่น ร้านไอศกรีมและเครื่องดื่มของ Mixue ที่ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วในราคาที่เอื้อมถึง ส่งผลให้แฟรนไชส์ไทยต้องเผชิญกับความกดดันจากการแข่งขันด้านราคา
🟡 ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่สูง ด้วยภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคและนักลงทุนบางกลุ่มไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการลงทุนได้อย่างง่ายดาย ส่งผลให้มีความสามารถในการลงทุนลดลง นอกจากนี้ ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ต้องพึ่งพาเงินกู้จากธนาคารอาจเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้การคืนทุนเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
🟡 การขาดประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารแฟรนไชส์ เจ้าของแฟรนไชส์บางรายอาจขาดประสบการณ์ในการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ ทำให้ไม่สามารถให้การสนับสนุนที่เพียงพอแก่ผู้ที่ลงทุนในแฟรนไชส์ ส่งผลให้การดำเนินธุรกิจไม่ราบรื่นตามที่คาดหวัง
🟡 เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโดยเฉพาะในด้านดิจิทัลและ AI ส่งผลให้ธุรกิจแฟรนไชส์ต้องปรับตัวเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง นักลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ที่ไม่มีความรู้หรือทรัพยากรในการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ อาจถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
แนวทางแก้ไขสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ไทย
การที่จะสามารถอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ เจ้าของแฟรนไชส์และนักลงทุนควรพิจารณาแนวทางแก้ไขในด้านต่าง ๆ เหล่านี้
🟡 การสร้างความแตกต่างและคุณค่าให้แก่แบรนด์ เจ้าของแฟรนไชส์ควรมุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ที่มีความโดดเด่นและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้า การรักษามาตรฐานการบริการและคุณภาพสินค้าเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าไว้วางใจและกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง
🟡 การลงทุนในเทคโนโลยีและนวัตกรรม การนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาใช้ในธุรกิจแฟรนไชส์จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ ตัวอย่างเช่น การใช้ระบบการจัดการสินค้าคงคลังหรือการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อปรับปรุงการบริการ รวมทั้งการตลาดดิจิทัล
🟡 การสนับสนุนจากเจ้าของแฟรนไชส์ เจ้าของควรให้การสนับสนุนที่เข้มแข็งแก่ผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์ไม่ว่าจะเป็นการเทรน การให้คำแนะนำในการดำเนินธุรกิจ หรือการให้คำปรึกษาด้านการตลาด สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ลงทุนซื้อแฟรนไชส์มั่นใจในการทำธุรกิจและประสบความสำเร็จในระยะยาว
🟡 การขยายธุรกิจไปยังตลาดใหม่ๆ ธุรกิจแฟรนไชส์ควรขยายการดำเนินงานไปยังพื้นที่ที่มีโอกาสทางธุรกิจสูง เช่น พื้นที่ต่างจังหวัด หรือคอมมูนิตี้มอลล์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ
🟡 การพัฒนาโพรดักต์และบริการให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ควรติดตามเทรนด์และความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้อย่างรวดเร็ว
แม้เป็นปีแห่งความท้าทาย แต่ก็เป็นโอกาสสำหรับผู้ที่สามารถปรับตัวและพัฒนาธุรกิจให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง การนำเทคโนโลยีมาใช้ และการให้ความสำคัญกับลูกค้า จะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนในอนาคต
ที่มา:
• สมาคมแฟรนไชส์ฯ คาดลงทุนปีนี้โตแผ่ว 5% https://www.bangkokbiznews.com/business/business/1139423
• แฟรนไชส์จีน” บุกไทย ชิงแชร์ตลาด 3 แสนล้าน https://www.thansettakij.com/business/marketing/603914
• ทำอย่างไร? เมื่อ “ทุนจีน” บุกไทย ขายทุกอย่าง https://www.thairath.co.th/money/business_marketing/marketing/2808467
• ครึ่งแรกปี 67 ไทยขาดดุลการค้าจีน 7.2 แสนล้าน https://www.jsccib.org/news/detail/ครึ่งแรกปี-67-ไทยขาดดุลการค้าจีน-7-2-แสนล้าน-สินค้าถูก-รุกหนัก-กระทบ-23-อุตสาหกรรม
584 คน
ข่าวธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
©2024 TaokaeCafe.com