‘ฟู้ดทรัค’ รุกบริการถึงออฟฟิศ ปาดหน้าเดลิเวอรี่
เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจับตามองมาก ๆ สำหรับธุรกิจฟู้ดทรัค ในพื้นที่เขตเมือง และกรุงเทพฯ ที่เปิดกลยุทธ์หนัก บุกประชิดออฟฟิศ สำนักงาน พร้อมเสิร์ฟความอร่อย-บริการ ถึงที่ ปาดหน้าเค้กเดลิเวอรี่ ไปเลย
โควิด -19 คือตัวเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค เปลี่ยนให้บางธุรกิจได้เติบโตในช่วงที่เกิดโรคระบาด หนึ่งในนั้นคือ ธุรกิจรถฟู้ดทรัค ที่เติบโตสวนกระแสโควิด -19 เพราะหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ใหญ่ หรือผู้ประกอบการหน้าใหม่ หันมาทำธุรกิจใหม่ส่งรถฟู้ดทรัคเข้าบุกออฟฟิศที่มีพนักงานจำนวนมาก
ในขณะเดียวกันกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็ยังเดินเร่งผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัคมากขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เนื่องจากธุรกิจฟู้ดทรัคสามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจประเภทกิจการได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคที่ต้องการขยายธุรกิจหรือต้องการเงินลงทุนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงินได้สะดวกและง่ายมากขึ้นขณะเดียวกัน ให้หารือกับผู้ประกอบการแฟรนไชส์ประเภทอาหารและเครื่องดื่มให้เข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัคด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบธุรกิจแบบหน้าร้านพร้อมนั่งทานอาหารในร้านเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามการเข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัคไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีความรู้ขั้นพื้นฐานก่อนเข้าสู่ธุรกิจและมองเห็นลู่ทางของการเติบโต จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องและสถาบันการเงินให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัค ตลอดจนให้คำปรึกษาและเพิ่มพูนความรู้ที่จำเป็นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างจุดแข็งในการประกอบธุรกิจ
ขณะเดียวกัน เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มเบาบางลงให้จัดงานคาราวาน ฟู้ดทรัค มาร์ท ออนทัวร์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าแก่ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจอยู่แล้ว รวมทั้ง เป็นการสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคในภูมิภาคต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจ และพร้อมใช้บริการรถอาหารเคลื่อนที่ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้มีความเข้มแข็ง
โดยนาย ญาณเดช ศิรินุกูลชร ประธานและผู้ก่อตั้ง TBIC Food Truck Thailand เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการฟู้ดทรัคโดยตรง เนื่องจากพื้นที่ขายที่ผู้คนออกมาซื้อสินค้า เกือบทุกพื้นที่ไม่เปิดให้บริการ ทำให้ฟู้ดทรัคต้องปรับตัวด้วยการไปจอดบริเวณหน้าหมู่บ้าน เพื่อให้บริการคนในพื้นที่ที่ไม่ต้องการเดินทางออกนอกพื้นที่ สามารถสั่งอาหาร เครื่องดื่มของฟู้ดทรัค ทั้งแบบส่งเดลิเวอรี่และแบบรับสินค้าจากที่รถ ทำให้ฟู้ดทรัคที่ปรับตัวโดยเฉพาะที่มีการให้บริการแบบฟู้ดเดลิเวอรี่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและมากกว่าสถานการณ์ปกติด้วยซ้ำไป
ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ประมาณ 2,800 คัน แบ่งเป็น ภาคกลาง 60 ภาคเหนือ 14% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9% ภาคตะวันออก 6% ภาคใต้ 6% และภาคตะวันตก 5 % โดยสัดส่วนการจำหน่าย แบ่งเป็น ประเภทอาหารอินเตอร์ 27 % เครื่องดื่ม 26% อาหารไทย 22 % อาหารว่าง-หวาน 15 % และ อาหารว่าง-คาว 10% สำหรับ เงินลงทุน รถใหม่จะเริ่มต้นประมาณ 5 แสน - 1 ล้านบาท รายได้เฉลี่ยต่อคันต่อปีประมาณ 1,056,000 บาท อัตราการเติบโตของธุรกิจเฉลี่ย 20 % ต่อปี
🙇♂️ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : https://www.springnews.co.th/economics/807064
โควิด -19 คือตัวเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้ เปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค เปลี่ยนให้บางธุรกิจได้เติบโตในช่วงที่เกิดโรคระบาด หนึ่งในนั้นคือ ธุรกิจรถฟู้ดทรัค ที่เติบโตสวนกระแสโควิด -19 เพราะหลายแบรนด์ ทั้งแบรนด์ใหญ่ หรือผู้ประกอบการหน้าใหม่ หันมาทำธุรกิจใหม่ส่งรถฟู้ดทรัคเข้าบุกออฟฟิศที่มีพนักงานจำนวนมาก
ในขณะเดียวกันกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ก็ยังเดินเร่งผลักดันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัคมากขึ้น เป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจและโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เนื่องจากธุรกิจฟู้ดทรัคสามารถนำมาใช้เป็นหลักประกันทางธุรกิจประเภทกิจการได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคที่ต้องการขยายธุรกิจหรือต้องการเงินลงทุนสามารถเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงินได้สะดวกและง่ายมากขึ้นขณะเดียวกัน ให้หารือกับผู้ประกอบการแฟรนไชส์ประเภทอาหารและเครื่องดื่มให้เข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัคด้วยเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะประกอบธุรกิจแบบหน้าร้านพร้อมนั่งทานอาหารในร้านเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามการเข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัคไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีความรู้ขั้นพื้นฐานก่อนเข้าสู่ธุรกิจและมองเห็นลู่ทางของการเติบโต จึงมอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องและสถาบันการเงินให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจฟู้ดทรัค ตลอดจนให้คำปรึกษาและเพิ่มพูนความรู้ที่จำเป็นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างจุดแข็งในการประกอบธุรกิจ
ขณะเดียวกัน เมื่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มเบาบางลงให้จัดงานคาราวาน ฟู้ดทรัค มาร์ท ออนทัวร์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ประกอบการฟู้ดทรัคที่เพิ่งเริ่มต้นเข้าสู่ธุรกิจ และขยายฐานลูกค้าแก่ผู้ประกอบการที่ประกอบธุรกิจอยู่แล้ว รวมทั้ง เป็นการสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภคในภูมิภาคต่างๆ เกี่ยวกับธุรกิจ และพร้อมใช้บริการรถอาหารเคลื่อนที่ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากของประเทศ และสนับสนุนผู้ประกอบการรายย่อยให้มีความเข้มแข็ง
โดยนาย ญาณเดช ศิรินุกูลชร ประธานและผู้ก่อตั้ง TBIC Food Truck Thailand เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการฟู้ดทรัคโดยตรง เนื่องจากพื้นที่ขายที่ผู้คนออกมาซื้อสินค้า เกือบทุกพื้นที่ไม่เปิดให้บริการ ทำให้ฟู้ดทรัคต้องปรับตัวด้วยการไปจอดบริเวณหน้าหมู่บ้าน เพื่อให้บริการคนในพื้นที่ที่ไม่ต้องการเดินทางออกนอกพื้นที่ สามารถสั่งอาหาร เครื่องดื่มของฟู้ดทรัค ทั้งแบบส่งเดลิเวอรี่และแบบรับสินค้าจากที่รถ ทำให้ฟู้ดทรัคที่ปรับตัวโดยเฉพาะที่มีการให้บริการแบบฟู้ดเดลิเวอรี่ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าและมากกว่าสถานการณ์ปกติด้วยซ้ำไป
ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบการฟู้ดทรัค ประมาณ 2,800 คัน แบ่งเป็น ภาคกลาง 60 ภาคเหนือ 14% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9% ภาคตะวันออก 6% ภาคใต้ 6% และภาคตะวันตก 5 % โดยสัดส่วนการจำหน่าย แบ่งเป็น ประเภทอาหารอินเตอร์ 27 % เครื่องดื่ม 26% อาหารไทย 22 % อาหารว่าง-หวาน 15 % และ อาหารว่าง-คาว 10% สำหรับ เงินลงทุน รถใหม่จะเริ่มต้นประมาณ 5 แสน - 1 ล้านบาท รายได้เฉลี่ยต่อคันต่อปีประมาณ 1,056,000 บาท อัตราการเติบโตของธุรกิจเฉลี่ย 20 % ต่อปี
🙇♂️ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : https://www.springnews.co.th/economics/807064
2,028 คน
©2024 TaokaeCafe.com