7-Eleven สะเทือนโควิด-19 รายได้ลด 10%

การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้คนไทยระมัดระวังค่าใช้จ่ายได้ส่งผลกระทบต่อ 7-Eleven ยักษ์ใหญ่ร้านสะดวกซื้อของไทยเช่นกัน เพราะทำให้ทั้งรายได้และกำไร ต่างลดลงอย่างถ้วนหน้า
 
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ได้รายงานผลประกอบการประจำปี 2563 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่ามีรายได้รวม 546,590 ล้านบาท ลดลง 4.3% จากปี 2562 โดยมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการ 525,884 ล้านบาท ลดลง 4.5%
 
CPALL ระบุว่าธุรกิจร้านสะดวกซื้อได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญจากปัจจัยลบทางเศรษฐกิจและกําลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง รวมถึงผลกระทบจากมาตรการการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทําให้จํานวนลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยลดน้อยลง
 
CPALL มีต้นทุนในการจัดจําหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร 107,858 ล้านบาท ลดลง 3.3% มีกําไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้จํานวน 19,262 ล้านบาท ลดลง 28.0% จากปีก่อน และมีกําไรสุทธิ 16,102 ล้านบาท ลดลง 27.9%
 
เจาะลึกลงในแต่ละธุรกิจพบว่าในปี 2563 วางแผนขยาย 7-Eleven ทั้งหมด 700 สาขา และทำได้จริง 720 สาขา ทำให้ ณ สิ้นปีมีสาขาทั้งสิ้น 12,432 สาขา แบ่งเป็นร้านบริษัท 5,685 สาขา เพิ่มขึ้น 470 สาขา ร้าน SBP 5,919 สาขา เพิ่มขึ้น 232 สาขา และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 828 สาขา เพิ่มขึ้น 18 สาขา
 
ขณะเดียวกันจากการระบาดทำให้ 7-Eleven ได้ปรับแผนโดยเพิ่มตู้จําหน่ายสินค้าอัตโนมัติ (Vending Machine) รวมไปถึงแพลตฟอร์มบนช่องทางออนไลน์ ได้แก่ ALL Online ผ่าน 7-Eleven.TH Application ShopAt24 พร้อมสั่งและส่งสินค้าผ่านไลน์ หรือแอปพลิเคชัน 7-delivery แม้จะสร้างรายได้เป็นที่น่าพอใจ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะชดเชยรายได้ที่หายไป สรุปแล้วธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีกําไรสุทธิ 14,298 ล้านบาท ลดลง 29.1% จากปีก่อน                                                                      

 
🙇‍♂️ที่มาข้อมูลและรูปภาพ: https://thestandard.co/7-eleven-coronavirus-effect-income/