Super Food ตอบโจทย์อาหารคนยุคใหม่ ลุยอาหารพร้อมทาน จากเครือ พัทยากรุ๊ป
พัทยาฟู้ดกรุ๊ป ลุยอาหารพร้อมทาน แบบ Super Food ตอบโจทย์คนยุคใหม่รักสุขภาพ ตั้งเป้าเติบโต 20% ในปี 2024
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 นางสาวสุดาทิพ เกียรติศรีชาติ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด กรุ๊ป จำกัด หรือ PFG เปิดเผยว่า ยอดขายในกลุ่ม PFG ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8,000 พันล้านบาท โดยมีสัดส่วนยอดขายผลิตและการส่งออกต่างประเทศ หรือ OEM อยู่ที่ 80% ส่วนสินค้าที่ผลิตภายใต้แบรนด์ นอติลุส, มงกุฎทะเล และ ซีคราวน์ มีสัดส่วนขายราว 20%
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันกำลังให้ความสนใจ คุณประโยชน์ของซูเปอร์ฟู้ด หรือ Super Food ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารป้องกันโรคต่างๆ ได้ แต่คนกลุ่มนี้มักใช้ชีวิตเร่งรีบ และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใช้วิธีซื้ออาหารพร้อมทาน หรือ Ready to Eat เราจึงคิดผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกสุขภาพมาตอบโจทย์
ทั้งนี้ หากดูตัวเลขในปี 2563 จะพบว่า ตลาดอาหารเช้าเติบโตประมาณ 4% หรือคิดเป็น 2,700 พันล้าน โดยกลุ่มตลาดอาหารพร้อมทาน RTE โดยเฉพาะกลุ่มซีเรียล หรือ Cereal ในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 3-4% ขณะที่กลุ่มซีเรียลในประเทศจีน มีมูลค่าประมาณ 178,711 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 6%
นางสาวสุดาทิพ กล่าวอีกว่า เราจึงมองเห็นโอกาสนี้ด้วยการนำคุณประโยชน์ ซุปเปอร์ฟู้ด มาผสมผสานกับกลุ่มอาหารทะเล ในรูปแบบอาหารพร้อมทาน ภายใต้ชื่อเอ็กซ์เทน หรือ XTEN เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และตั้งราคาที่สมเหตุสมผล
สำหรับ XTEN เป็นผลิตภัณฑ์มัลติเกรนโอ๊ตมีล พัฒนาด้วยการนำส่วนประกอบซูเปอร์ฟู้ด และนำข้าวโอ๊ต มัลติเกรน มีคอเลสเตอรอลและโซเดียมต่ำ ปรุงสะดวกภายใน 2 นาที ลดโซเดียม 50% มี 4 สูตร 4 รสชาติ ได้แก่ Wild Red Salmon, Triple Mushroom, Dark Choc & Almonds และ Mixed Berries
"แผนการเติบโตของกลุ่ม PFG คาดการณ์ว่า ภายในปี 2024 เราจะมียอดขายรวมของกลุ่มมากกว่า 10,000 ล้านบาท โดย 20% จะมา XTEN และธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต".
🙇ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : https://www.thairath.co.th/business/market/2157676
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.64 นางสาวสุดาทิพ เกียรติศรีชาติ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พัทยาฟู้ด กรุ๊ป จำกัด หรือ PFG เปิดเผยว่า ยอดขายในกลุ่ม PFG ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8,000 พันล้านบาท โดยมีสัดส่วนยอดขายผลิตและการส่งออกต่างประเทศ หรือ OEM อยู่ที่ 80% ส่วนสินค้าที่ผลิตภายใต้แบรนด์ นอติลุส, มงกุฎทะเล และ ซีคราวน์ มีสัดส่วนขายราว 20%
อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้บริโภคในปัจจุบันกำลังให้ความสนใจ คุณประโยชน์ของซูเปอร์ฟู้ด หรือ Super Food ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ และสารอาหารป้องกันโรคต่างๆ ได้ แต่คนกลุ่มนี้มักใช้ชีวิตเร่งรีบ และกลุ่มลูกค้าเป้าหมายใช้วิธีซื้ออาหารพร้อมทาน หรือ Ready to Eat เราจึงคิดผลิตภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกสุขภาพมาตอบโจทย์
ทั้งนี้ หากดูตัวเลขในปี 2563 จะพบว่า ตลาดอาหารเช้าเติบโตประมาณ 4% หรือคิดเป็น 2,700 พันล้าน โดยกลุ่มตลาดอาหารพร้อมทาน RTE โดยเฉพาะกลุ่มซีเรียล หรือ Cereal ในประเทศไทย มีมูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 3-4% ขณะที่กลุ่มซีเรียลในประเทศจีน มีมูลค่าประมาณ 178,711 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 6%
นางสาวสุดาทิพ กล่าวอีกว่า เราจึงมองเห็นโอกาสนี้ด้วยการนำคุณประโยชน์ ซุปเปอร์ฟู้ด มาผสมผสานกับกลุ่มอาหารทะเล ในรูปแบบอาหารพร้อมทาน ภายใต้ชื่อเอ็กซ์เทน หรือ XTEN เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และตั้งราคาที่สมเหตุสมผล
สำหรับ XTEN เป็นผลิตภัณฑ์มัลติเกรนโอ๊ตมีล พัฒนาด้วยการนำส่วนประกอบซูเปอร์ฟู้ด และนำข้าวโอ๊ต มัลติเกรน มีคอเลสเตอรอลและโซเดียมต่ำ ปรุงสะดวกภายใน 2 นาที ลดโซเดียม 50% มี 4 สูตร 4 รสชาติ ได้แก่ Wild Red Salmon, Triple Mushroom, Dark Choc & Almonds และ Mixed Berries
"แผนการเติบโตของกลุ่ม PFG คาดการณ์ว่า ภายในปี 2024 เราจะมียอดขายรวมของกลุ่มมากกว่า 10,000 ล้านบาท โดย 20% จะมา XTEN และธุรกิจใหม่ๆ ในอนาคต".
🙇ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : https://www.thairath.co.th/business/market/2157676
1,813 คน
ข่าวธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
©2024 TaokaeCafe.com