โตสวนกระแส อาหารพร้อมทาน “S&P – เซเว่น” บุกหนักไม่สนโควิด ออกสารพัดเมนูพร้อมเสิร์ฟ

อาหารพร้อมทาน-อาหารแช่แข็ง สวนทางโควิด-19 แนวโน้มสดใส “เอสแอนด์พี” เดินหน้าเพิ่มเมนูใหม่รับลดการทานอาหารนอกบ้าน “สยาม คานาเดี่ยน” เปิดตัวฟู้ดดีฮับ ศูนย์รวมอาหารแช่แข็งพรีเมี่ยม รับตลาดโต ส่วน “พีเอฟพี” เร่งเครื่องเพิ่มช่องทางขายมุ่งเจาะโมเดิร์นเทรด หลังร้านอาหาร-ตลาดสด ตัวเลขลดเพราะพิษไวรัส ขณะที่เซเว่นฯผนึกซีพีแรม ขนสารพัดเมนู ชูแคลอรีต่ำ-ลดเกลือ-ลดน้ำตาล เปิดตัวเมนูแพลนต์เบส รับเทรนด์สุขภาพ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้น แม้จะส่งผลกระทบกับธุรกิจร้านค่อนข้างมากโดยเฉพาะบริการหน้าร้านจากจำนวนลูกค้าที่ลดลง และต้องหันไปให้บริการดีลิเวอรี่เพิ่มขึ้น และอีกด้านหนึ่งกลับพบว่าตลาดผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งและอาหารพร้อมรับประทาน ที่มีมูลค่าตลาดรวมราว ๆ 2 หมื่นล้านบาท มีแนวโน้มการเติบโตที่สดใส

 
โควิดหนุนอาหารแช่แข็งบูม
นายอรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่สายปฏิบัติการธุรกิจเอส แอนด์ พี บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแช่แข็ง เอสแอนด์พี ควิกมีล และไส้กรอก เอสแอนด์พี Premo เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ปัจจุบันตลาดผลิตอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งของบริษัทมีช่องทางจำหน่ายหลัก ทั้งโมเดิร์นเทรด ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยประมาณ 10-15% โดยมีปัจจัยหลักมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ลดการออกไปทานอาหารนอกบ้าน และหันมาเลือกซื้ออาหารแช่แข็งและอาหารพร้อมทานที่เก็บได้นานที่มีความสะดวกในการปรุง
 
โดยยุทธศาสตร์ของบริษัทจากนี้ไปจะยังเน้นการพัฒนาอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง มีเมนูใหม่ ๆ หลากหลายประเภท เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกันไป ทั้งในรูปแบบอาหารไทย คาว-หวาน และทานเล่น ภายใต้กลยุทธ์ที่คำนึงถึงสุขภาพ อร่อย และมีราคาเข้าถึงง่าย โดยเลือกชูจุดขายให้แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด ควบคู่กับการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ทันสมัย เหมาะกับการใช้งานในช่วงที่เร่งรีบ และช่วยในเรื่องเวลาการอุ่นอาหารน้อยลง จากปัจจุบันมีเมนูมากกว่า 30 รายการ
 
นายชัยพัฒน์ คุณาภิวัฒน์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายขายประจำประเทศไทย ฟู้ดดีฮับ ภายใต้กลุ่มบริษัท สยาม คานาเดี่ยน กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและส่งออกอาหารแช่แข็ง กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัจจัยจากการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นเป็นตัวแปรอย่างหนึ่งที่ทำให้ผุู้บริโภคกลุ่มหนึ่งหันมาหาหรือเลือกซื้ออาหารแช่แข็งและอาหารพร้อมทานต่าง ๆ มากขึ้น เนื่องจากเป็นโปรดักต์ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตใหม่ (new normal) โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้อาหารแช่แข็งเติบโตขึ้น เพราะสามารถซื้อเก็บไว้ได้นาน และช่วยลดความเสี่ยงจากการไปซื้อของตามตลาดหรือห้างร้านที่แออัด
 
ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัว ฟู้ดดีฮับ มาร์เก็ตเพลส ศูนย์รวมอาหารแช่แข็ง ที่มีผลิตภัณฑ์อาหารแช่แข็งพร้อมปรุงและพร้อมรับประทานไว้รองรับความต้องการผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น หลัก ๆ เป็นอาหารทะเลสดแช่แข็ง (frozen seafood) แบรนด์ Natural Coast ได้แก่ ปลาแซลมอน หอยเชลล์ยักษ์ กุ้ง ปลาหมึก ปลาดอรี่ เนื้อหอยลายปรุงสุก ปูนิ่ม ฯลฯ, เบเกอรี่แช่แข็ง แบรนด์ Club นอกจากนี้ยังมีการจัดโปรโมชั่นเพื่อจูงใจ
 
“จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น บริษัทเล็งเห็นโอกาสและมีแผนจะขยายธุรกิจในส่วนของอาหารแช่แข็ง (frozen) ไปยังส่วนของการขายตรงสู่ผู้บริโภค (B2C) ด้วย โดยอาศัยจุดแข็งทางด้านระบบโลจิสติกส์ ที่มีคลังเก็บสินค้าและการขนส่งที่มีการควบคุมอุณหภูมิ และส่งตรงถึงทุกบ้านในทุกพื้นที่”
 

พีเอฟพีเร่งเจาะโมเดิร์นเทรด

นายทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารทะเลแปรรูปครบวงจร ภายใต้ตราสินค้า PFP อาทิ ปูอัด เต้าหู้ปลา ชุบเกล็ด ลูกชิ้นปลา เป็นต้น เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า โดยส่วนตัวมองว่า สถานการณ์ตลาดอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานมูลค่ากว่า 5,000 ล้านบาท ในปี 2564 แม้บางกลุ่มยังเติบโตได้ แต่อาจจะเป็นการเติบโตที่ไม่หวือหวานัก คาดการณ์ว่าตลาดเติบโตเพียง 2-3% เท่านั้น โดยมีปัจจัยหลักมาจากเรื่องภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่ชะลอตัว
 
ปัจจุบันจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะผลกระทบจากโควิด-19 ส่งผลที่ทำให้ยอดร้านอาหารและตลาดสดหลาย ๆ แห่งต้องปิดบริการ กระทบต่อภาพรวมบริษัท รายได้กลุ่มอาหารแช่แข็งลดลง เนื่องจากลูกค้าหลักมาจากเชนร้านอาหารและตลาดสด จึงเร่งปรับตัวขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมมากขึ้น ทั้งโมเดิร์นเทรด และ HORECA
 
“วันนี้การทำธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งพร้อมทานและอาหารพร้อมปรุง เป็นเรื่องท้าทายของผู้ประกอบการ ที่ต้องคิดใหม่ ทำใหม่ เพราะปัจจัยแวดล้อมรอบด้านรวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงใหม่หมด โจทย์สำคัญในการทำธุรกิจ คือ มุ่งพัฒนาอาหารสำหรับผู้สูงอายุ อาหารเพื่อสุขภาพ ควบคู่กับการมองหาโอกาสของธุรกิจบีทูบี หรือนำวัตถุดิบอาหารสำเร็จรูปแช่แข็งพร้อมทานไปจำหน่ายให้กับคู่ค้าโดยเฉพาะฟู้ดดีลิเวอรี่ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง”

 

7/11 ปูพรมเมนูใหม่รับตลาดโต

รายงานข่าวจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกด (มหาชน) ผู้บริหารร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเผยว่า ปัจจัยจากพฤติกรรมและความต้องการผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงปัจจัยจากสถานการณ์โควิดที่เกิดขึ้น ทำให้อาหารพร้อมทานมีแนวโน้มการเติบโตมากขึ้น และเพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายมากขึ้น บริษัทจะเน้นการสร้างให้ทุกสาขา เป็น Food & Beverage Destination โดยได้มีการพัฒนาสินค้าพร้อมรับประทาน ทั้งอาหารคาว โดยมีรูปแบบอาหารจานเดี่ยวและกับข้าวที่มีความหลากหลายมากขึ้น ขนมหวาน ทั้งเบเกอรี่ และขนมหวานไทย อาหารว่าง ผักผลไม้สดตัดแต่งพร้อมทาน และเครื่องดื่ม เพื่อให้เกิดความหลากหลายและเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า
 
นอกจากรสชาติและราคาที่มีการจัดโปรโมชั่นอย่างต่อเนื่อง เซเว่นฯยังเน้นเมนูที่แตกต่างจากอาหารพร้อมทานทั่ว ๆ ไป อาทิ อาหารแคลอรีต่ำ อาหารที่ลดเกลือ ลดน้ำตาล เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องสุขภาพของผู้บริโภค และจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา ยังได้ร่วมมือกับบริษัท ซีพีแรม จำกัด จัดทำข้าวกล่องที่มีปริมาณมากในราคาพิเศษออกมาทำตลาด และมีแผนจะต่อยอดไปยังผู้ผลิตรายอื่น ๆ ในสินค้าในกลุ่มอื่น ๆ อาทิ เบเกอรี่และเครื่องดื่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านความเคลื่อนไหวของซีพีแรม นอกจากการทยอยเพิ่มอาหารพร้อมรับประทานเมนูใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดเป็นระยะ ๆ แล้ว ที่ผ่านมายังได้เปิดอาหารแบรนด์ใหม่ “VG for Love” เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นการบริโภคพืชเป็นหลัก (plant based) อาทิ เมนูสปาเกตตีพอร์กบอลแพลนต์เบส และข้าวผัดแกงเขียวหวานไก่แพลนต์เบส นอกจากการวางจำหน่ายในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่เป็นช่องทางหลักแล้ว ยังกระจายสินค้าไปสู่ช่องทางอื่น ๆ อาทิ Lotus’s เป็นต้น
 
เช่นเดียวกับเครือเบทาโกร ที่ปัจจุบันได้หันมาให้ความสำคัญกับกลุ่มอาหารแช่เย็นพร้อมรับประทานมากขึ้น รวมทั้งกลุ่มอาหารทานเล่นและสินค้าทอดประเภทหมู ไก่ ข้าวกล่องพร้อมรับประทาน กับข้าวสำเร็จรูป เพื่อรองรับความต้องการผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น จากเดิมที่มีผลิตภัณฑ์หลักเป็นกลุ่มไก่ปรุงสุกแช่แข็ง และไก่สดแช่แข็ง


 
🙇‍ที่มาข้อมูลและรูปภาพ :  https://www.prachachat.net/marketing/news-693498