แฟรนไชส์น่าลงทุน เดือนมีนาคม 2564
ใกล้เข้าสู่เดือนมีนาคม 2564 ไตรมาสแรกของปีวัวทอง โดยขณะนี้ เศรษฐกิจก็ยังไม่ดี มิหนำซ้ำยังมีภัยพิบัติอย่างเชื้อไวรัส COVID-19 ก็ยังไม่หมดไป แต่ทุกคนก็ยังต้องทำมาหากิน
โดยสำหรับคนที่ ได้รับผลกระทบจากวิกฤตต่าง ๆ ที่กล่าวไป หรือใครที่กำลังมีแนวโน้มว่า อยากเปลี่ยนอาชีพที่ทำอยู่ หรือเบื่องานประจำเต็มที.. แต่มีเงินก้อนเดียวเท่านั้น ที่เก็บออมมาตอนทำงาน ไม่อยากนำไปลงทุนอะไรที่มีมูลค่าสูงและมีความเสี่ยงมาก
ถ้าอย่างนั้น ‘เถ้าแก่คาเฟ่’ ขอแนะนำธุรกิจประเภทแฟรนไชส์ ซึ่งสามารถต่อยอดทำเป็นอาชีพได้จริง และเกี่ยวข้องกับอาหารการกินเป็นหลัก เพราะเป็นสินค้าที่ซื้อง่าย ขายคล่อง ขายได้ทุกวัน อีกทั้งยังคืนทุนไว ขึ้นอยู่กับความขยันของตัวคุณเอง รวมถึงการรักษามาตรฐานสินค้าและบริการให้ดีอย่างต่อเนื่อง รับรองถ้าทำได้ ขายดีมีกำไรตลอดทั้งปีนี้และปีต่อ ๆ ไปอย่างแน่นอน แต่จะมีแฟรนไชส์อะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย
แฟรนไชส์น่าลงทุน มีนาคม 2564
1. LEMONG RAMEN เลอมง ราเมง
มาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ เลยแบรนด์นี้ เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ที่เพิ่งสร้างแบรนด์และทำตลาดมาได้ประมาณ 1 ปีเท่านั้น เป็นธุรกิจแฟรนไชส์อาหารเส้นสไตล์ญี่ปุ่น อย่าง ‘ราเมง’ ที่คนไทยรู้จักและคุ้นเคยอย่างดี หลายคนชื่นชอบอาหารประเภทนี้ แต่หาทานยากตามสถานที่ทั่วไป โดยถ้าอยากจะกินต้องเข้าห้างสรรพสินค้า หรือร้านอาหารญี่ปุ่น ซึ่งราคาเฉลี่ยต่อชาม หรือต่อ SET ของอาหารนั้นก็ค่อนข้างมีราคาแพงเพราะฉะนั้น ตัวเจ้าของธุรกิจ ซึ่งมีประสบการณ์ผลิตและจำหน่ายราเมงเส้นสดป้อนให้กับร้านอาหารญี่ปุ่นดัง ๆ มากมาย จึงเนรมิตแฟรนไชส์ เลอ-มง ราเมง โดยยกราเมงรสชาติแสนอร่อย คุณภาพระดับพรีเมียม เทียบเท่าร้านในห้างฯ นำมาจำหน่ายให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มได้เข้าถึงและสัมผัสง่ายขึ้น กับรูปแบบร้านที่เป็น Kiosk (คีออสก์) ราเมงสตรีทฟู้ดริมทาง ที่เปิดขายที่ไหนก็ได้
โดยมีเมนูราเมงที่เป็น Signature ได้แก่ ราเมงซุปกระดูกหมู, ราเมงต้มยำ, ราเมงโชยุ ไว้คอยเสิร์ฟบริการหน้าร้าน อิ่มเบา ๆ เริ่มต้นแค่ชามละ 55 บาทเท่านั้น
นอกจากนี้ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สนใจ ลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ ด้วยงบลงทุนคุ้มค่า แค่ 55,555 บาท (ได้รับคีออสก์ + อุปกรณ์ + วัตถุดิบ + อบรมทำราเมงและการบริหารร้าน จากเจ้าของแฟรนไชส์) พร้อมเปิดร้านขายได้ทันที
2. วาฬ ชานม
เข้ากับกระแสเพลง (อันนั้น วาฬเกยตื้น) เป็นอย่างมาก แต่จริง ๆ แล้ว คือ แบรนด์มีความน่าสนใจจริง ๆ ตั้งแต่แรกพบ กับ วาฬ ชานม แฟรนไชส์ชานมไข่มุก น้องใหม่ล่าสุด ที่อดไม่ได้ต้องขอนำเสนอปัจจุบัน แฟรนไชส์ทั่วประเทศมีประมาณ 50 กว่าสาขา และยังคงแรงอย่างต่อเนื่อง โดยทั้งหน้าตาของโลโก้ วาฬปุ้มปุ้ยน่ารัก ที่ติดอยู่หน้าร้านและข้างแก้ว ตลอดจนรสชาติชานมไข่มุกและเครื่องดื่มประเภทอื่น ๆ ภายในร้าน อีกกว่า 50 รายการ ที่เป็นเอกลักษณ์ และพร้อมเสิร์ฟความสดชื่นให้ทุกท่าน เป็นรสชาติที่บอกได้เลยว่า กลมกล่อม ถูกปากถูกใจ คอชานมบ้านเราอย่างแน่นอน
รวมไปถึงราคาแฟรนไชส์ที่ลงทุนไม่แพง เริ่มต้น 35,000 บาทเท่านั้น ก็สามารถเปิดร้าน วาฬ ชานม ได้ทันที บอกเลยว่า คนที่กำลังคิดอยากจะเปิดร้านเครื่องดื่มชานม แบรนด์นี้ต้องไม่พลาด ! เพราะเจ้าของการันตียอดขาย โดยช่วยวิเคราะห์ทำเลก่อนเปิดร้าน พร้อมสนับสนุนโปรโมทสาขา ผ่านทุกช่องทางให้ด้วย เพื่อให้เปิดร้านขายดีมีกำไร คืนทุนได้ไม่เกิน 2-3 เดือน สนใจติดต่อสอบถามเจ้าของได้เลยจ้า
3. ดูดหมี นมหมีปั่น
เข้ากับเทรนด์คนรักสุขภาพเป็นอย่างดีกับการเอาใจนักดื่มที่ต้องการดื่มเครื่องดื่ม No Alcohol โดยแฟรนไชส์นมหมีปั่นนี้ ได้รับกระแสตอบรับอย่างยอดเยี่ยมบนโลกโซเชียลฯ และตามสื่อต่าง ๆ โดยรูปลักษณ์ของร้านที่เป็นรูปแบบของ Kiosk (คีออสก์) เล็กกะทัดรัด และการเพิ่มมูลค่า ‘นมตราหมี’ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน นำมาเป็นส่วนผสมหลักในการทำเครื่องดื่มขายภายในร้านดูดหมี นมหมีปั่น ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นเพียง 14,900 บาท เท่านั้น (ได้รับคีออสก์ + อุปกรณ์ + วัตถุดิบ + นัดอบรมหรือเรียนการชงออนไลน์ได้จากเจ้าของแฟรนไชส์) ครบครันพร้อมเปิดร้าน
ดูดหมี นมหมีปั่น เป็นธุรกิจเครื่องดื่มที่คู่แข่งยังน้อย ทั้งนี้ แม้จะมีเครื่องดื่มหลัก ๆ เพียงเมนูนมเย็น และนมปั่นก็จริง แต่ก็ยังมีเมนูอีกมากมายในร้านที่สามารถนำเอานมตราหมีไปต่อยอดสร้างสรรค์รสชาติอร่อย ๆ ที่แตกต่างกันออกไปได้อย่างไม่จบสิ้น โดยถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของธุรกิจและอาชีพขายเครื่องดื่มขนาดเล็กที่น่าลงทุนในชั่วโมงนี้เลยทีเดียว
4. EAT ME NOW เครปญี่ปุ่น
ถือได้ว่า ย่นย่อ Scale ราคาการลงทุนมาให้แล้ว เริ่มต้นแค่ 27,000 บาทเท่านั้น ก็สามารถเปิดร้านเครปญี่ปุ่นได้แล้ว ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้ว คนที่อยากจะเปิดร้านเครปญี่ปุ่น จะต้องใช้งบการลงทุนไม่ต่ำกว่า 35,000-50,000 บาท โดยประมาณแต่กับแฟรนไชส์ EAT ME NOW นี้ ซึ่งเจ้าของต้องการเปิดโอกาสให้คนที่อยากขายเครปญี่ปุ่น แต่มีงบลงทุนจำกัด ได้เข้าถึง และสามารถลงทุนในราคาย่อมเยา
โดยเครปญี่ปุ่น ถือเป็นอีกหนึ่งอาหารทานเล่นที่น่าลงทุน และตลาดบ้านเรายังไปได้เรื่อย ๆ แม้จะไม่ใช่ของกินเล่นได้ทุกวัน แต่ก็ไม่ใช่ขนมกินเล่นตามกระแส เพราะคนไทยรู้จักเครปญี่ปุ่นมานานหลายสิบปีแล้ว อีกทั้งฐานผู้บริโภคยังกว้าง และสามารถแวะเวียนมาสั่งกินได้อยู่เรื่อย ๆ
เพราะฉะนั้น เครปญี่ปุ่น จึงเป็นทางเลือกต้น ๆ สำหรับอาชีพน่าลงทุนประเภทอาหารที่ไม่ควรมองข้าม โดยสำหรับแฟรนไชส์ EAT ME NOW เจ้าของพร้อมสอนสูตร สอนการทำเครป เช่น การเทแป้ง, หมุนแป้ง, การดูระดับไฟในเตาเครป ฯลฯ ให้กับผู้ลงทุนจนเป็น แล้วออกไปทำขายได้อย่างคล่องแคล่ว ในส่วนอุปกรณ์ และวัตถุดิบสำคัญ เจ้าของแฟรนไชส์เตรียมพร้อมจัดส่งให้ถึงที่ ผู้ลงทุนไม่ต้องเป็นกังวล
5. กินชา คอฟฟี่ Kincha Coffee
แบรนด์เครื่องดื่มชา ที่มีถิ่นกำเนิดจาก ‘เมืองคอน’ เป็นแฟรนไชส์ร้านเครื่องดื่มที่เหมาะกับการลงทุนกับสภาพเศรษฐกิจปัจจุบันนี้ได้เป็นอย่างดี เริ่มต้นเปิดร้าน จ่ายเพียง 13,900 บาทเท่านั้น ไม่มีค่าธรรมเนียม ไม่มีเก็บส่วนแบ่งการตลาด จ่ายครั้งเดียวจบด้วยจุดเด่นเมนูเครื่องดื่มในร้านที่มีให้เลือกความอร่อยอย่างครบวงจร ทั้งชานมไต้หวัน ชาไทยจากปักษ์ใต้ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่าหอมกลมกล่อมมาก ๆ และยังมีเมนูกาแฟ ชาเขียว และเครื่องดื่มสมูทตี้ผลไม้ อื่น ๆ อีกมากมายจำหน่ายภายในร้าน เรียกได้ว่า ลูกค้าอร่อยเลือกได้
ตลอดจนรูปแบบการลงทุนที่เจ้าของเตรียมเอาไว้พร้อมหมดแล้ว ผู้ลงทุนจะได้รับทั้งอุปกรณ์ และวัตถุดิบครบพร้อมเริ่มต้นขายได้ทันที (เคาน์เตอร์ร้านขึ้นอยู่กับรูปแบบการลงทุน) โดยเจ้าของแฟรนไชส์สอนสูตรเอง ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง สอนจนเป็น ไม่มีกั๊ก อย่ารอช้า เลือกทำเลที่ชอบ ตรงความต้องการที่ใช่ และติดต่อ Kincha Coffee (กินชา คอฟฟี่) ได้เลย