“แฟรนไชส์” ที่พร้อมขาย เขาทำกันอย่างไร ?

ว่าด้วยเรื่องการทำธุรกิจ สำหรับ คนเป็น ‘เถ้าแก่’ หรือเจ้าของ หรือผู้ประกอบการ ซึ่งจะเรียกอะไรก็ตามแต่ โดยเจ้าของธุรกิจทุกคน ย่อมต้องเคยผ่านปัญหาอุปสรรคและใช้ความอดทนอย่างสูง บวกกับความวิริยะอุตสาหะในการปลุกปั้น วางรากฐานให้ธุรกิจของตน ให้เติบโตต่อไปได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

เพราะฉะนั้น การสร้างแบรนด์ และการสร้างชื่อเสียง หรือการสร้างเครดิตให้กับตัวเองนั้น จำเป็นต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าธุรกิจของคุณนั้น เป็นของจริง ❗

ทั้งนี้ก็เพื่อให้แบรนด์คุณเป็นที่รู้จัก ให้ลูกค้าและบุคคลทั่วไปนั้นเกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจในการตัดสินใจเลือกใช้หรือลงทุนกับสินค้าและบริการกับแบรนด์ธุรกิจของคุณได้อย่างสนิทใจไร้ข้อกังขา

สำหรับ แฟรนไชส์คือ อีกหนึ่ง Solution หรือเป็นอีกเครื่องมือที่จะช่วยทำให้แบรนด์ธุรกิจของคุณเติบโตแบบก้าวกระโดดได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการขาย Know How ขายชื่อเสียง ขายระบบ ให้กับคนที่สนใจมาร่วมลงทุนกับคุณ แต่นั่นหมายความว่า แบรนด์ของคุณต้องเป็นที่ยอมรับ และเป็นที่ต้องการลงทุนของบุคคลทั่วไปอย่างแท้จริง

สำหรับผู้ประกอบการที่สร้างแบรนด์ธุรกิจขึ้นมาด้วยประสบการณ์ส่วนตัว ใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองเป็นหลัก โดยมีหลายท่านที่ยังไม่แน่ใจและยังสงสัยอยู่ว่า ธุรกิจของตนเองนั้น ดีพอ… ที่จะขายระบบแฟรนไชส์ ให้กับผู้สนใจทั่วไปได้แล้วหรือยัง ❓

ด้วยเหตุนี้ ‘เถ้าแก่คาเฟ่’ จึงขอสรุป  5 ข้อควรรู้ ธุรกิจที่พร้อมแล้วที่จะเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ และเป็นแบรนด์ที่พร้อมแล้วที่จะสร้างมูลค่าการขายได้ ว่าต้องเป็นอย่างไร ❓

ทั้งนี้ ก็เพื่อมาแนะนำและบอกต่อให้ผู้ประกอบการทุกท่าน เพื่อบอกให้คุณรู้ว่า ธุรกิจคุณควรค่า ดีพอ และถึงเวลาแล้ว ที่จะขายแฟรนไชส์จริง ๆ แล้วหรือยัง ❓


 
1. ต้องเป็นธุรกิจที่มีหน้าร้านของเจ้าของแบรนด์ก่อตั้งเอง อย่างน้อย 3-5 สาขา --- เพราะการมีหน้าร้านจริง หรือร้านต้นแบบ เป็นการสร้างความเชื่อมั่นและยืนยันตัวตนให้กับผู้ที่จะเข้ามาลงทุนซื้อแฟรนไชส์กับคุณ ให้เขาได้มองเห็นภาพและมั่นใจว่า ธุรกิจของคุณมีตัวตนจริง มีหน้าร้าน มีระบบ ให้ผู้ที่จะซื้อแฟรนไชส์คุณนั้น ได้มองเห็นการบริหารจัดการร้านจริง ๆ ก่อนการตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์กับคุณ

 
2. ธุรกิจของคุณ ต้องมีใบเซอร์ (Certificated) ---  หรือเครื่องหมาย หรือรางวัลการันตี เพื่อแสดงให้เห็นว่า คุณคือผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจประเภทนั้น ๆ อย่างแท้จริง เปรียบเหมือนฐานข้อมูลอ้างอิงว่า แบรนด์ของคุณดำเนินธุรกิจมาอย่างยาวนาน และเคยได้รับรางวัลการรับรองมาตรฐานจากการประกวดหรือเวทีมอบรางวัลในด้านต่าง ๆ ยกตัวอย่าง เช่น การเข้าร่วมหลักสูตรผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่ได้มาตรฐานระดับประเทศ กับ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ (DBD) ภายใต้หลักสูตรชื่อ Franchise B2B ซึ่งเปิดรับสมัครและอบรมผู้ประกอบการธุรกิจเตรียมความพร้อมเข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ ซึ่งจัดขึ้นทุกปี เพื่อเป็น Reference ให้กับผู้ที่จะลงทุนซื้อแฟรนไชส์กับคุณมั่นใจว่า คุณมีความรู้ความสามารถและตั้งใจทำธุรกิจนี้จริง ๆ ไม่ใช่ทำตามกระแสหรือฉาบฉวย

 
3. แต่ละสาขา (ต่อจากข้อที่ 1) ของคุณนั้น ต้องเปิดดำเนินธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง และอย่างน้อย ๆ ก็หลัก 1-2 ปีขึ้นไป --- ตลอดจนมีการทำข้อมูลผลประกอบการธุรกิจที่เติบโตขึ้นทุก ๆ ปี (อย่างน้อยก็ไม่ติดลบ) และพร้อมแสดงให้กับผู้ที่คิดจะลงทุนซื้อแฟรนไชส์กับคุณได้ตรวจสอบ ทั้งนี้ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจของคุณมีรากฐานและระบบที่แข็งแรง สามารถยืนหยัดและดำเนินธุรกิจต่อไปได้ท่ามกลางวิกฤตต่าง ๆ ก็ยังมีการเตรียมแผนการรับมือและการแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นและความศรัทธาให้กับผู้ที่คิดจะลงทุนได้อย่างดีเยี่ยม

 
4. ธุรกิจต้องมี Business Plan --- การทำธุรกิจต้องมีแผน ไม่มีไม่ได้ !!  แม้จะเป็นแผนระยะสั้นก็ตาม เช่น 6 เดือน หรือ 1 ปี ซึ่งก็ยังดี เพื่อกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และวางกลยุทธ์การสร้างแบรนด์, การผลิตหรือพัฒนาตัวสินค้า, การปรับเปลี่ยนราคา / แพ็กเกจจิ้ง, การจัดทำโปรโมชั่น, การขยายตลาด, ขยายช่องทางจำหน่าย, การสร้างฐานลูกค้าเพิ่ม ฯลฯ 

สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นโจทย์ที่ในฐานะคนเป็นเจ้าของธุรกิจ จะต้องจัดทำแผนการทำธุรกิจ แล้วลงมือปฏิบัติ และนำพาธุรกิจของคุณเดินตาม Road Map ที่วางเอาไว้ หากเกิดปัญหา ก็ต้องมีแนวทางการแก้ไข เพื่อให้ธุรกิจยังขับเคลื่อนต่อไปได้  และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ที่คิดจะลงทุนซื้อแฟรนไชส์ของคุณมั่นใจได้ว่า คุณมีวิธีการ มีแผนเตรียมรับมือ และจะไม่ทอดทิ้งผู้ลงทุนแฟรนไชส์ของคุณด้วยอย่างแน่นอน

 
5. ต้องมีแหล่งเงินทุนพร้อมสนับสนุน --- การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่ในมุมการทำธุรกิจนั้น การเป็นหนี้ ในบางครั้งจะทำให้ธุรกิจของคุณเกิดการ Cash Flow หมุนเวียนคล่องและเป็นไปได้ด้วยดียิ่งขึ้น
ซึ่งหากผู้ประกอบการธุรกิจ สร้างแบรนด์ขึ้นมา ผ่านเวลามาได้สักระยะหนึ่ง (1-2 ปี) มันพิสูจน์แล้วว่า ธุรกิจคุณไปต่อได้ และมันคือ ‘เครดิต’ เป็นใบเบิกทางให้คุณสามารถยื่นเรื่องของ ‘สินเชื่อธุรกิจ’ ประเภทต่าง ๆ กับแหล่งสถาบันการเงินแต่ละค่ายได้อย่างง่ายดาย ผ่านฉลุยแน่นอน เพราะสถาบันการเงิน แน่นอนว่า จะต้องตรวจสอบแล้วว่า ธุรกิจที่คุณทำอยู่นั้น ยืนระยะมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่แหล่งเงินทุน จะไม่ปล่อยสินเชื่อให้กับคุณอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ที่จะนำเงินก้อนนั้นมาลงทุนต่อยอด พัฒนาธุรกิจของคุณให้เติบโตต่อไปได้ และสเต็ปที่คุณกำหนดเป้าหมายเอาไว้  
 
และนี่คือ 5 ข้อ ที่จะบอกให้คุณรู้ว่า หากคุณทำได้ทุกข้อ หรือปกติก็ทำอยู่แล้วหรือมีอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้แล้วว่า ธุรกิจของคุณ ก็พร้อมที่เข้าสู่ระบบแฟรนไชส์ และพร้อมขายแฟรนไชส์ให้กับคนทั่วไปที่สนใจได้แล้วล่ะ