มือใหม่หัดขายของตลาดนัด ต้องอ่าน !! ฝนตก-พายุเข้า-โควิด สู้กลับ !! เปิดประสบการณ์ตรงจากผู้ค้า

ช่วงนี้หน้าฝน แถมยังได้ติดตามข่าวสารก็เป็นอย่างที่หลายคนทราบดีว่า ยังมีพายุเข้าอีกหลายลูก เป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับพ่อค้าแม่ค้า โดยเฉพาะที่เปิดร้านขายของตามตลาดนัด 

เพราะถ้าฝนตกบ่อย ๆ ทุกวันทุกคืน ตกแล้วตกอีก ตกหนักด้วย ไม่มีทีท่าจะหยุดง่าย ๆ การค้าขายก็คงจะขาดสภาพคล่อง ผู้บริโภคไม่เดินจับจ่ายใช้สอย พ่อค้าแม่ค้าหลายคนหากทุนน้อย เบี้ยน้อยหอยน้อยก็คงถอดใจ ปิดร้านบ้าง หยุดขายบ้าง

หลายรายเช่าล็อกจองล็อกตามตลาดนัดอยู่ดี ๆ พอเจอฝนตกทุกวัน ๆ รายรับไม่เข้า แต่รายจ่ายหมุนอยู่ตลอด ก็ต้องพับเก็บร้าน ล้มเลิกกิจการไปก่อนยังไม่ทันขายเอาทุนคืน ก็มีให้เห็นเยอะ
 

แอดมิน มีโอกาสในวันหยุดได้ไปเดินตลาดนัดเปิดใหม่ย่าน ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ชื่อ ตลาดเที่ยงคืน TU NIGHT MARKET ทำเลดีติดถนนใหญ่ที่นั่น เรียกว่า ถนนเชียงราก อยู่ไม่ไกล โดยอยู่ฝั่งที่ติดกับด้านข้างประตู 2 ของมหาวิทยาลัย ซึ่งแอดฯ ได้เดินวนเวียนและแวะซื้อของกินเพลิน ๆ ในตลาดอยู่หลาย ๆ ร้าน (ส่วนใหญ่ก็เป็นร้านขายของกิน)

ก็สังเกตว่า ตลาดยังมีผู้ค้า หรือร้านขายของยังไม่เต็มพื้นที่สักเท่าไหร่ แต่ก็พอมีคนเดินจับจ่ายใช้สอยอยู่บ้าง โดยเฉพาะกลุ่มคนเดินจับจ่ายใช้สอยที่เป็นนักศึกษาแทบจะ 90% เลยก็ว่าได้ เรียกว่า ที่นี่เป็นตลาดของชุมชนและสังคมนักศึกษาธรรมศาสตร์ก็ว่าได้
 
ทั้งนี้ ตลาดเพิ่งเปิดใหม่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้ ก็คงต้องใช้เวลาบวกกับการโปรโมท การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของเจ้าของตลาด กว่าน้อง ๆ นักศึกษารวมถึงบุคคลทั่วไปที่อยู่ในพื้นที่ละแวกใกล้เคียงจะรู้และมีโอกาสได้มาเดินเช็คอินดูบ้าง

แอดมิน ได้มีโอกาสซื้อ ไอติมทอด ที่อยู่ในตลาดแห่งนี้ และได้สังเกตว่า ร้านไอติมทอดร้านนี้ก็ขายได้เรื่อย ๆ เช่นเดียวกับอีกหลายร้านค้า โดยมีลูกค้าวัยรุ่นนักศึกษาเดินผ่านไปมา บ้างก็เดินดูและผ่านไป บางรายก็ย้อนกลับมาสั่งทดลองกิน ดูแล้วแม้ไม่ได้ขายดีเด่นอะไร แต่เขาก็พอขายได้ 

 
ด้วยความที่แอดฯ เป็นคนชอบพูด ชอบสังเกต มีวิญญาณนักข่าวมาก่อน ก็เลยได้แอบสอบถาม สนทนาพูดคุยกับพ่อค้าไอติมทอด ถึงเรื่องราวของการเปิดร้านขายของ ว่า ทำไมถึงเลือกมาขายสินค้าประเภทนี้ และยอดขายเป็นอย่างไรบ้าง ภายใต้ปัจจัยที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น สภาพอากาศ สภาพเศรษฐกิจ สภาพโควิดฯ ที่ยังมีอยู่ และเด็กนักศึกษาก็เพิ่งเปิดเรียน on-site แบบนี้ ซึ่งพ่อค้าไอติมทอดเขาบอกว่า

ส่วนตัวเพิ่งออกจากทำงานประจำมาไม่นาน โดยมีความคิดอยากค้าขาย อยากประกอบอาชีพอิสระเล็ก ๆ ตามกำลังของตัวเอง เอาที่พอมีรายได้เพื่อนำไปใช้จ่ายส่วนตัว มีกินมีเก็บนิดหน่อย หรือเป็นเงินหมุนก็ได้ คือพอใจแล้ว เพราะไม่รู้ว่า เรี่ยวแรงจะหมดเมื่อไหร่ และจะวัยกลางคนแล้วด้วย พอคิดว่าได้เวลาที่เหมาะสมสำหรับตัวเองแล้ว จึงตัดสินใจลาออกมาค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ 
 
“ตอนที่คิดจะขายของ ผมก็มีเล็ง ๆ สินค้าไว้ในใจอยู่หลายตัว แต่ยังไม่คิดจะทำเองหรือผลิตเองทั้งหมด เพราะรู้ตัวเองดีว่า เป็นคนไม่ชอบความยุ่งยากมากนัก อีกทั้งผมเป็นคนซึ่งมีเงินทุนน้อย บอกตามตรง ตอนออกจากงานประจำ มีเงินเก็บเพื่อเตรียมใช้ลงทุนค้าขาย 30,000 บาท ทั้งชีวิตตั้งแต่ทำงานมาหลายปี

เพราะฉะนั้น สิ่งเดียวที่คิดได้ทำได้อันดับแรก คือ ขายของกิน และต้องเป็นของกินเล่น เพราะสามารถทำคนเดียวเปิดร้านขายคนเดียวได้ ใช้เงินซื้ออุปกรณ์และวัตถุดิบที่ไม่เยอะ และราคาไม่สูง เต็มที่ตั้งงบเอาไว้ คือ ลงทุนแค่หลักหมื่นต้น ๆ คือพอแล้ว ที่เหลือต้องเผื่อจ่ายค่าเช่าที่ และเป็นทุนหมุนเวียนซื้อของในร้าน อ้อ..ไหนจะค่าน้ำมันรถอีก !!

และต้องมีการจัดการที่ง่าย เตรียมของ ขายของ เก็บของ ต้องคล่องแคล่ว ต้องง่าย ต้องเร็ว เพราะเราเลือกที่จะขายของในตลาดนัด ผมคิดเท่านี้จริง ๆ ไม่มีหลักการหรือทฤษฎีอะไรมาอ้างอิงทั้งสิ้น มองแค่ความน่าจะเป็นแค่นั้น

ส่วนเหตุผลที่มาลงเอยกับการขายไอติมทอด คือ เดิมทีผมพอมีประสบการณ์ขายไอศกรีมมาบ้าง คือ เคยขายออนไลน์ผ่านแอปฯ ฟู้ดเดลิเวอรี่ เหมือนร้านค้าออนไลน์อื่น ๆ นั่นแหละ ก็คิดว่า เราอยากต่อยอดขายสินค้าไลน์เดียวกันหรือกลุ่มเดียวกันไปเลย จะได้ไม่ต้องเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด 

ผมจึงค่อย ๆ หาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติม ก็มาปิ๊งข้อมูล ไอติมทอด จากบริษัทชื่อดังเจ้าหนึ่ง เพราะผมมองว่า ถ้าจะขายของกินเล่นตลาดนัด และต่อยอดของหวาน ของทานเล่น ถ้าไม่ใช่เครื่องดื่ม ไม่ใช่เบเกอรี่ ก็ต้องเป็นไอศกรีมนี่แหละ 

และก็ต้องมีลูกเล่น มีความน่าสนใจด้วย จะมัวมานั่งขายไอติมแท่ง ไอติมถ้วยธรรมดา ๆ ก็คงไม่แปลก ไม่ดึงดูดคนซื้อเท่าไหร่  นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมลงทุนรับไอติมทอดจากบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ มาขายที่ตลาดนัดแห่งนี้”
 
จากนั้น แอดมิน ยิงคำถามต่อไปว่า แล้วคิดยังไง ถึงมาขายของหน้าฝน และโควิดก็ยังไม่หมดไปแบบนี้ ซึ่งคำตอบของพ่อค้าไอติมทอด ตอบกลับมาแบบปลง ๆ แต่แฝงด้วยความ Real ว่า..


“จังหวะชีวิตคนเรา มันก็เป็นแบบนี้นะ ผมว่า.. อย่างที่รู้ว่า ตอนนี้คือฤดูฝน ฝนตกแทบทุกวัน ไหนพายุจะเข้าอีก ไหนจะน้ำท่วม โควิดเอย เศรษฐกิจก็ยังไม่ดีเอย.. แต่ผมแค่คิดคนเดียวว่า เราได้วางแผนและเตรียมใจมาแล้วในหัวพอสมควร ไม่ใช่ว่า ไม่คิดอะไรเลยก่อนตัดสินใจมาขายของแบบนี้ 

เพียงแต่ อะไรที่มันนอกเหนือความคาดหมาย หรือคาดเดาลำบาก ถ้าพอจะมีแนวทางแก้ไข ผมก็จะพยายามผ่อนหนักเป็นเบา แต่ถ้ามันสุดวิสัย หรือเกินแรง เกินกำลังแล้วจริง ๆ คงต้องทำใจ ประมาณนั้นแหละครับ” 
 
คุยกับพ่อค้าไอติมทอดจนออกรส มองดูนาฬิกาคืนนั้น ก็ปาไปเกือบ ๆ 5 ทุ่ม ในขณะที่ก็ยังมีร้านค้า และลูกค้าเดินจับจ่ายอยู่เป็นระยะ ๆ เป็นสังคมกลางคืนที่ไม่หลับใหลจริง ๆ คงเหมือนกับตลาดกลางคืนที่อื่น ๆ 

ก่อนกลับ พ่อค้าไอติมทอด ฝากบอกประชาสัมพันธ์ร้านให้ด้วย เขาบอกว่า รับออกงานนอกสถานที่ (Catering) งานแต่ง งานบวช งานปาร์ตี้ ทำบุญเลี้ยงเด็ก ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ งานวันเกิด งานพิธีกรรมทางศาสนา บริษัทมีจัดประชุม สัมมนา ฯลฯ

พ่อค้าไอติมทอดรับจ๊อบ รับเหมาไปยืนทอดเสิร์ฟในงานให้เลย โทรศัพท์หรือแอด LINE : 0947659494 (รายละเอียด ติดต่อสอบถามพ่อค้าไอติมทอดได้เลยจ้า) อ่ะ Tie-In ให้เรียบร้อย จัดไป !! 

 
แอดมิน มองว่า บทสนทนากับพ่อค้าไอติมทอด ในคืนวันนั้น มันมีประโยชน์นะ ไม่มากก็น้อยล่ะ เป็นเกร็ดความรู้ที่ซ่อนอยู่และกลั่นจากประสบการณ์ตรง เป็นของจริง จากมือใหม่หัดขาย ที่น่าจะนำมาฝากเพื่อน ๆ FC เถ้าแก่คาเฟ่

สำหรับคนที่กำลังเปลี่ยนงาน อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ กำลังคิดจะลาออกจากงาน หรือถ้ายังไม่ออกจากงานประจำ แต่อยากค้าขาย อยากลองสัมผัสชีวิตพ่อค้าแม่ค้าแบบทำเสริมวันหยุด นอกเวลางานหลัก ที่ไม่ได้อยู่แค่ในโลกออนไลน์ แต่มันคือโลกแห่งความเป็นจริงดูบ้าง..
แอดฯ ไม่ห้ามเลยนะ ให้กำลังใจด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ยุยงส่งเสริมนะ เพียงแต่ลองประเมินตัวเองหลาย ๆ ด้านละกันว่า กายพร้อม ใจพร้อม ความรู้พร้อม เงินทุนพร้อม แค่ไหน ? ซึ่งถ้าเพื่อน ๆ ตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเองได้แล้วล่ะก็.. จงทำตามที่ใจตัวเองคิดไว้ ค่อยเป็นค่อยไป ขอเพียงมีสติ และอย่าประมาท
ทำแบบเดิม ผลลัพธ์ = เหมือนเดิม

เปลี่ยนทำสิ่งใหม่ ๆ ผลลัพธ์เป็นได้ทั้ง 3 แบบ = แย่ลง เหมือนเดิม หรือดีขึ้น

จังหวะชีวิตคนเรา ไม่เหมือนกัน.. ยืนอยู่คนละจุด มองกันคนละอย่าง

ตอนขึ้นอย่าหลง ตอนลงอย่าท้อ

ฝากไว้ให้คิด..