เจี้ยนชา ชาผลไม้ กระแสแรงในไทย ยุคทองของเครื่องดื่มสุขภาพ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กระแสการดื่ม ‘ชาผลไม้’🍇🍊🍎 ในประเทศไทยได้รับความนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่หันมานิยมเครื่องดื่มที่มีรสชาติหลากหลาย และดีต่อสุขภาพ ชาผลไม้จึงกลายเป็นทางเลือกที่ไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย แต่ยังเติมเต็มความต้องการในการบริโภค สิ่งที่สดใหม่และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ด้วยเมนูที่เต็มไปด้วยผลไม้สดและสีสันที่ดึงดูดใจ ทำให้ชาผลไม้กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยม ที่สามารถตอบโจทย์การไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างดี

หนึ่งในแบรนด์กระแสแรงในขณะนี้คือ ‘JIAN CHA’ (เจี้ยนชา) ชาผลไม้พรีเมียม โดยเริ่มต้นจากการเปิดสาขาแรกในสยามพารากอน และขยายไปยังหลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2567 ทางแบรนด์ได้เปิดสาขามากถึง 20 แห่ง และทำยอดขายกว่า 1 แสนแก้วต่อเดือน


🍉🍃ความโดดเด่นของ ‘JIAN CHA ’

สิ่งที่ทำให้ JIAN CHA  แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด คือการให้ความสำคัญกับการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง และการพัฒนาสูตรชาที่ตอบโจทย์รสชาติของคนไทย โดยเฉพาะการใช้ ใบชาสด จากไร่ชาคุณภาพสูง ที่มีการต้มชาใหม่ทุก 4 ชั่วโมง ซึ่งช่วยให้รสชาติชาในแต่ละแก้วมีความสดชื่นและไม่เหมือนใคร

นอกจากนี้ JIAN CHA ยังเน้นการใช้ ผลไม้สด ที่ส่งตรงจากเกษตรกร ทั้งส้ม มะม่วง สับปะรด และผลไม้อื่นๆ ซึ่งทั้งหมดได้รับการคัดสรรมาอย่างดี เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรสชาติที่เป็นธรรมชาติ สดชื่น และหอมหวาน ไม่เพียงแต่เน้นคุณภาพในด้านของชาและผลไม้เท่านั้น แต่ยังมี ท็อปปิ้งหลากหลาย ที่สามารถเลือกได้ตามความชอบ เช่น ชีสครีม หรือน้ำแข็งก้อนพิเศษ ที่ช่วยเพิ่มความสนุกสนานในการดื่มชา

4 จุดเด่นที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ JIAN CHA แตกต่างจากแบรนด์ชาทั่วไป ด้วยการเน้นวัตถุดิบคุณภาพสูงและกระบวนการชงที่พิถีพิถัน โดยมีจุดเด่นสำคัญ 

🍃“ชาสดแท้” จากไร่ชาคุณภาพสูง – ทุกแก้วของ JIAN CHA คัดเลือกจากใบชาที่มีมาตรฐาน ไม่ใช้ชาผงสำเร็จรูป 

🍃“ผลไม้สดแท้” – ทุกเมนูใช้ผลไม้สดคัดพิเศษ เพื่อให้ได้รสชาติที่หอม สดชื่น และเป็นธรรมชาติที่สุด 

🍃“เมนูที่แตกต่างและสร้างสรรค์” – ตั้งแต่ ชาเข้มข้น ไปจนถึง ชาผลไม้สุดสดชื่น JIAN CHA มีตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งสายชานมและคนรักสุขภาพ 

🍃“มาตรฐานพรีเมียมทุกแก้ว” – ทุกกระบวนการผลิตถูกควบคุมอย่างเข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้รับคุณภาพที่ดีที่สุด

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ JIAN CHA เป็นที่นิยม คือ ราคาเข้าถึงง่าย โดยเริ่มต้นที่แก้วละ 80 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสมสำหรับการดื่มชาในคุณภาพระดับพรีเมียม หากเลือกเป็นชาผลไม้สดจะมีราคาที่เริ่มต้นที่ 120 บาท และถ้าหากต้องการเพิ่มท็อปปิ้ง ก็จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 15 บาท ไปจนถึง 35 บาท



✨จุดแข็งที่ผลักดันความสำเร็จ

การขยายตัวอย่างรวดเร็วของJIAN CHA ในตลาดไทยไม่ใช่แค่เพียงแค่การเปิดสาขา หรือการสร้างเมนูใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังเกิดจากการสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้า ด้วยการทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ เนื่องจากคุณภาพที่คงที่และรสชาติที่โดดเด่น ซึ่งทำให้แบรนด์นี้มี ฐานลูกค้าประจำที่แข็งแกร่ง 

ขณะเดียวกัน JIAN CHA ยังสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มคนที่ชื่นชอบชาแบบต้นตำรับไปจนถึงกลุ่มคนรักสุขภาพที่ต้องการเครื่องดื่มที่สดชื่นและมีประโยชน์

ไม่เพียงแต่มีร้านหน้าร้านที่ตั้งอยู่ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำ แต่ยังขยายการขายผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ธุรกิจ และการทำแคมเปญตลาดที่ทำให้แบรนด์สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด



💪การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและแตกต่าง

สิ่งที่ทำให้ JIAN CHA ประสบความสำเร็จในตลาดชาไทยคือการสร้าง แบรนด์ที่ไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่ยังเป็น ไลฟ์สไตล์และแฟชั่น ที่สะท้อนถึงความทันสมัยและสุขภาพดี ทั้งในด้านของการออกแบบร้านที่ทันสมัย และการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพสูง ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเครื่องดื่มของ JIAN CHA ไม่ใช่แค่การเติมเต็มความกระหาย แต่เป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่สะท้อนตัวตนของผู้บริโภค



🏁เป้าหมายในอนาคต
หลังจากที่ JIAN CHA สามารถเปิดสาขาได้ 20 แห่งในช่วงปีแรก และทำยอดขายกว่า 1 แสนแก้วต่อเดือน แบรนด์ได้ตั้งเป้าหมายการขยายสาขาให้ได้ 100 แห่ง และสร้างรายได้ให้ได้กว่า 1,000 ล้านบาทภายในปี 2568 ซึ่งเป้าหมายนี้ไม่เพียงแค่หมายถึงการเติบโตในตลาดไทย แต่ยังสะท้อนถึงความตั้งใจในการขยายแบรนด์ ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก


ในยุคที่กระแสเครื่องดื่มสุขภาพกำลังได้รับความนิยมอย่างสูง JIAN CHAถือเป็นตัวอย่างของแบรนด์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน ทั้งในด้านรสชาติที่อร่อย สดชื่น และสุขภาพดี นอกจากนี้ยังเป็นแบรนด์ ที่มีความตั้งใจในการยกระดับอุตสาหกรรมชาในประเทศไทยไปอีกขั้น