ปรับตัว 360 องศา “ซีเนริโอ” เปิดทางธุรกิจใหม่ในการ “บริหารศิลปิน”

หากจะกล่าวถึงธุรกิจที่ถูกคลื่นโควิดถาโถมใส่ไม่ยั้งในช่วงที่ผ่านมา เชื่อว่า “ละครเวที” เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ ด้วยเงื่อนไขการสกัดการแพร่ระบาดของโรค โดยลดการรวมตัวของกลุ่มคน ส่งผลให้ “ซีเนริโอ” บริษัทในเครือเดอะวันเอ็นเตอร์ไพรส์ ผู้ผลิตละครเวทีหมายเลข 1 ของเมืองไทย ต้องเร่งปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ด้วยการชูวิสัยทัศน์ “เป็นมากกว่าละครเวที” เพื่อกอบกู้สถานการณ์ ภายใต้การนำทีมของผู้บริหารคนใหม่ “เอ็ดดี้-จิณณวัตร สิริวัฒน์” คีย์แมนที่เข้ามากุมบังเหียนซีเนริโอกว่า 1 ปี ผ่านการรับไม้ต่อจาก “บอย-ถกลเกียรติ วีรวรรณ” แม่ทัพใหญ่กลุ่มเดอะวันฯ
 
“ประชาชาติธุรกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ “จิณณวัตร สิริวัฒน์” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเนริโอ จำกัด ถึงการปรับตัวและแนวทางการดำเนินงานดังนี้
 
กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเนริโอ เริ่มฉายภาพผลกระทบจากวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ว่า ขณะนี้แม้ภาพรวมของประเทศจะเริ่มมีปัจจัยบวก จากการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข้ามาเป็นตัวสนับสนุน และทำให้ผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยมากขึ้น แต่ในแง่ธุรกิจยังคงทำงานหนัก ผ่านการปรับแผนรายสัปดาห์
 
ที่ผ่านมา ซีเนริโอเริ่มมีการปรับตัวมาตั้งแต่ปี 2563 ทั้งการขยับขยายทีมงานรุ่นใหม่ เพิ่มขาธุรกิจใหม่ อาทิ การทำคอนเทนต์ออนไลน์ โซลูชั่นทางการตลาด และโปรดักชั่นรับผลิตรายการ เพื่อกระจายความเสี่ยง และหารายได้เพิ่มในสภาวะที่เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง
 
อย่างไรก็ดี แม้แนวทางของบริษัทจะมุ่งสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ แต่โปรดักต์แชมเปี้ยนจะยังคงเป็นละครเวทีรัชดาลัยฯ ไม่ได้ทิ้ง เพียงแค่รอวันฟ้าเปิดอีกครั้ง ห้วงเวลานี้เป็นเพียงการพักยก และเร่งขยายฐานผู้ชม ผ่านการสร้างคอมมิวนิตี้บนสังคมออนไลน์ โดยการนำละครเวทีเข้าถึงผู้ชมมากขึ้น อาทิ การทำแคมเปญมิวสิคอลออนไลน์ คัดศิลปินต่าง ๆ ไปร้องเพลงให้แก่ผู้ฟัง หรือการนำเพลงไฮไลต์ต่าง ๆ ของละครเวทีสร้างเป็นคอนเทนต์ ตลอดจนทำแคมเปญร่วมกับช่องวัน นำมิวสิคอลเด็ด 4 เรื่องไปออนแอร์ทางทีวี
 
“แผนงานตลอดทั้งปีนี้ ในส่วนของละครเวทีจะนำมิวสิคอลลงแอปพลิเคชั่นสตรีมมิ่งวิดีโอผ่านแพลตฟอร์มทรูไอดี ซึ่งเป็นแผนต่อยอดให้คนรู้จักตัวละครศิลปะละครเวทีมากขึ้น เมื่อวันที่กลับมาคนจะนึกถึงและอยากกลับมาหาเรา”
 
“จิณณวัตร” บอกด้วยว่า นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการแตกไลน์ธุรกิจมุ่งเน้นการต่อยอดทำคอนเทนต์ออนไลน์ โดยชูจุดแข็งด้านครีเอทีฟและความเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ นอกจากช่วยสร้างรายได้จากกลุ่มสปอนเซอร์ชิป ยังเป็นช่องทางที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย และไม่ใช้เงินลงทุนสูง แต่ผลตอบแทนนับว่าคุ้มค่า เพราะสามารถทำให้ช่องทางโซเชียลมีเดียเติบโตได้มากกว่า 1,100% และมีฐานผู้ชมกว่า 2 ล้านคน โดยปีที่ผ่านมาลอนช์ไป 2 รายการ ได้แก่ เจ๊คิ้มกินรอบวง และคุณหมอขาฉีดยาหนูหน่อย โดยรายการเจ๊คิ้มกินรอบวง ที่ปล่อยออกมาเกิน 40 EP กว่า 70% ยอดวิวทะลุ 1 ล้านทั้งสิ้น
ดังนั้น ช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. 64 ซีเนริโอจึงเตรียมต่อยอดความสำเร็จ ขยายคอนเทนต์ใหม่ ๆ อาทิ ถ้าเธอเคาะฉันเต๊าะนะ นำโดยเต๋า-เศรษฐพงศ์ และมาร์ช-จุฑาวุฒิ, ขอกินข้าวหน่อย มีนุ้ย-สุจิรา, แท่ง-ศักดิ์สิทธิ์ นำทีม
 
โดยแต่ละรายการจะเจาะกลุ่มสปอนเซอร์ต่างกัน เช่น ขอกินข้าวหน่อย จะเป็นกลุ่มสินค้าเครื่องปรุงรสต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งช่องทางดังกล่าวจะช่วยเป็นส่วนเสริมขยายการรับรู้เกี่ยวกับซีเนริโอ และเป็นช่องทางช่วยประชาสัมพันธ์ให้แก่ละครเวที เมื่อมีการเปิดใหม่อีกครั้งได้อีกด้วย
 
ควบคู่กับการขยายงานด้านการทำมาร์เก็ตติ้งโซลูชั่น ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ ร่างโครงงาน ไปจนถึงการผลิตสื่อ เนื่องจากซีเนริโอมีความแข็งแกร่งด้านครีเอทีฟ ความสามารถคิดงาน สร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ ที่เข้าไปจับใจคอนซูเมอร์ ซึ่งถือเป็นหลักที่ดีในการสื่อสารยุคปัจจุบัน ประกอบกับการมีเครือเดอะวันเอ็นเตอร์ไพรส์ ช่วยสนับสนุนช่องทางการลงสื่อ เพื่อเสริมศักยภาพให้แก่ลูกค้า ทั้งช่องวัน 31 วิทยุเอไทม์ ล้วนสามารถนำมาทำแพ็กเกจเสนอแบรนด์ในราคาที่สมเหตุสมผลและเน้นความคุ้มค่าได้
 
“ส่วนก้าวถัดไปของซีเนริโอ สิ่งที่จะได้เห็นคือ การทำธุรกิจการบริหารศิลปิน (artist management) ซึ่งที่ผ่านมารัชดาลัยฯเปรียบเสมือนสถาบัน คอยฝึกฝนเทรนนิ่งคน ไม่ว่าจะเป็นการร้อง การแสดง การเต้น ส่งผลให้เรามีบุคคลที่มากความสามารถในมือจำนวนมากคน เพียงแต่ว่าเดิมเราอาจไม่ได้นำมาทำการตลาดแบบจริงจัง ปีนี้เราจะเริ่มนำคนเหล่านี้มาทำการตลาด ทั้งรูปแบบกลุ่มนักร้อง อินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งเชื่อว่าแผนการต่อยอดทั้งหมดจะช่วยสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้แก่ซีเนริโออย่างแน่นอน” คีย์แมนซีเนริโอย้ำในตอนท้าย



 
🙇‍ที่มาข้อมูลและรูปภาพ :  https://www.prachachat.net/marketing/news-693505