ทุ่มงบบุกตลาด อาหาร - เครื่องดื่ม SWC เตรียมซื้อแบรนด์เสริมทัพ
‘บมจ.เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น’ หรือ SWC ในเครือ TOA ชูยุทธศาสตร์ Diversification ขับเคลื่อนธุรกิจกลุ่ม Non-Food และ Food ขยายตลาด FMCG เดินหน้า Re-Branding ครั้งใหญ่ปรับภาพลักษณ์สินค้าให้ทันสมัยเข้าถึงไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ เปิดตัว แบรนด์ใหม่ เครื่องดื่มสมุนไพร ซุปเปอร์ไฟต์ บุกเซเว่นฯกระจายช่องทางขาย ตั้งเป้ายอดรายได้รวมปีนี้ที่ 2,500 ล้านบาท
นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SWC ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Diversification สร้างการเติบโตยั่งยืน ภายใต้ 3 แกนหลัก ‘Safety - Wellness – Care’ ที่เน้นผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค ผ่านการขยายกลุ่มธุรกิจ และแบรนด์พอร์ตโฟลิโอ รองรับการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน
SWC ได้ปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ รับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยชู 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.ช่องทางการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ 2.การมีตราสินค้าที่แข็งแกร่ง 3.การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ และ 4.ระบบในการขายที่นำเทคโนโลยีมาใช้ ผ่านโครงสร้างธุรกิจ 2 กลุ่มได้แก่ 1.ธุรกิจ Non-Food กลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ในครัวเรือนและเคมีภัณฑ์ในอุตสาหกรรม และ 2.กลุ่มธุรกิจ Food ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นธุรกิจกลุ่มใหม่
นายธนากร วัฒนวิจารณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SWC กล่าวว่า การขยายเข้าสู่กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของกลุ่ม SWC เนื่องจากมองว่าต้องการที่จะสร้างรายได้ให้เติบโตมากขึ้นจากเดิม จึงมองธุรกิใหม่และเริ่มปรับโครงสร้างการดำเนินงานมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งกลุ่มฟู้ดนี้มีโอกาสเติบโตได้อีกมากและเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพ โดยจะมีทั้งการพัฒนาแบรนด์ขึ้นมาเองและการซื้อแบรนด์ที่มีศักยภาพในตลาดที่มีอยู่แล้วเข้ามาในพอร์๖โฟลิโอสินคา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและจังหวะ จึงไม่สามารถเปิดเผยงบประมาณส่วนนี้ได้
ขณะที่กลุ่มธุรกิจเดิมก็เป็นผู้นำตลาดอยู่แล้วแต่ก็จะมีการขยายธุรกิจอีกเช่นกันทั้งในแง่ของ ไลน์สินค้า และฐานตลาดใหม่ ๆ
บริษัทฯมีรายได้รวมปีที่แล้ว 1,295 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ที่มี 1,457 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากโควิด -19 แต่ปี2564นี้ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 2,500 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจาก กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 15% เพิ่มจากปีที่แล้วที่มี 6%, กลุ่มคลีนนิ่งและอื่นๆ 25% ลดจากปีที่แล้วที่มี 20% และกลุ่มกำจัดแมลง 60% จากปีที่แล้วที่มี 74% แต่ว่าฐานรายได้มากขี้น โดยไตรมาส1 ปี2564 มีรายได้แล้ว 308 ล้านบาท โต 86%
สำหรับ กลุ่มธุรกิจ Non-Food ที่มีผลิตภัณฑ์ป้องกันและจำกัดปลวกและแมลงรบกวนแบรนด์ ‘เชนไดร้ท์’ ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดปีนี้เป็น 35% จากเดิมมี 25% โดยมีหมาก-ปริญ สุภารัตน์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ และผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานแบรนด์ ‘ทีโพล์’ จะดำเนินการ Re-Branding ปรับโฉมภาพลักษณ์สินค้าให้ทันสมัย ใช้พรีเซ็นเตอร์เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ คือ “เบลล่า- ราณี แคมเปน และขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าภายใต้กลยุทธ์ O2O ผสมผสานช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ขยายตลาดจากผู้บริโภครายย่อย (B2C) ไปสู่ลูกค้ากลุ่มองค์กร (B2B)
นายสมศักดิ์ จันทร์ส่อง รองกรรมการผู้จัดการ-สายงานพาณิชย์ SWC กล่าวว่า ตลาดรวมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในไทยมีมูลค่ากว่า 155,000 ล้านบาท เติบโตดี โดยกลุ่มธุรกิจ Food ให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ ‘ซุปเปอร์ไฟต์ (SuperFight)เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสกัด จะขยายช่องทางจำหน่าย เริ่มจากร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่นทั่วประเทศในเดือนมิถุนายนนี้ และจะขยายให้ครอบคลุมในทุกช่องทาง มากกว่า 1 แสนร้านค้าในปีนี้ พร้อมเปิดตัว ‘โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์’ เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ และจะขยายตลาดต่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มประเทศใน CLMV ตะวันออกกลาง จีน ยุโรปและอเมริกา โดยวางเป้าหมายนำแบรนด์ SuperFight ก้าวสู่โกลบอลแบรนด์ในอนาคต ปีนี้ใช้งบตลาด 10ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 400 ล้านบาท
ส่วนนมแบรนด์ฮอกไกโด เป็นนมพาสเจอร์ไรซ์ มีแผนจะออกสินค้ายูเอชที และขายแฟรนไชส์ ซึ่งตลาดนมหรือแดรี่มิลค์นี้มีมูลค่ามากถึง 66,000 ล้านบาท ส่วนสแน็กแบรนด์มารูโจ้ เป็นประเภทถั่ว จะออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง โดยตลาดสแน็กรวมมีมูลค่า 37,000 ล้านบาท
บริษัทฯ ยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา ขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม SuperFight ที่มีส่วนผสมของกัญชา (CBD) ผลิตภัณฑ์ถั่วแบรนด์มารูโจ้ และผลิตภัณฑ์นมและไอศกรีมแบรนด์ฮอกไกโด ก็มีแผนการออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเทอร์ปีนี้
🙇ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : https://mgronline.com/business/detail/9640000059907
นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ประธานกรรมการ บริษัท เชอร์วู้ด คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SWC ผู้ดำเนินธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทวางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยกลยุทธ์ Diversification สร้างการเติบโตยั่งยืน ภายใต้ 3 แกนหลัก ‘Safety - Wellness – Care’ ที่เน้นผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยและเสริมสร้างคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของผู้บริโภค ผ่านการขยายกลุ่มธุรกิจ และแบรนด์พอร์ตโฟลิโอ รองรับการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียน
SWC ได้ปรับตัวให้สอดรับกับสถานการณ์ รับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค โดยชู 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1.ช่องทางการขายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ 2.การมีตราสินค้าที่แข็งแกร่ง 3.การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ และ 4.ระบบในการขายที่นำเทคโนโลยีมาใช้ ผ่านโครงสร้างธุรกิจ 2 กลุ่มได้แก่ 1.ธุรกิจ Non-Food กลุ่มผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ในครัวเรือนและเคมีภัณฑ์ในอุตสาหกรรม และ 2.กลุ่มธุรกิจ Food ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่เป็นธุรกิจกลุ่มใหม่
นายธนากร วัฒนวิจารณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SWC กล่าวว่า การขยายเข้าสู่กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของกลุ่ม SWC เนื่องจากมองว่าต้องการที่จะสร้างรายได้ให้เติบโตมากขึ้นจากเดิม จึงมองธุรกิใหม่และเริ่มปรับโครงสร้างการดำเนินงานมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งกลุ่มฟู้ดนี้มีโอกาสเติบโตได้อีกมากและเป็นตลาดใหญ่ที่มีศักยภาพ โดยจะมีทั้งการพัฒนาแบรนด์ขึ้นมาเองและการซื้อแบรนด์ที่มีศักยภาพในตลาดที่มีอยู่แล้วเข้ามาในพอร์๖โฟลิโอสินคา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและจังหวะ จึงไม่สามารถเปิดเผยงบประมาณส่วนนี้ได้
ขณะที่กลุ่มธุรกิจเดิมก็เป็นผู้นำตลาดอยู่แล้วแต่ก็จะมีการขยายธุรกิจอีกเช่นกันทั้งในแง่ของ ไลน์สินค้า และฐานตลาดใหม่ ๆ
บริษัทฯมีรายได้รวมปีที่แล้ว 1,295 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 ที่มี 1,457 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากโควิด -19 แต่ปี2564นี้ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 2,500 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้จะมาจาก กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม 15% เพิ่มจากปีที่แล้วที่มี 6%, กลุ่มคลีนนิ่งและอื่นๆ 25% ลดจากปีที่แล้วที่มี 20% และกลุ่มกำจัดแมลง 60% จากปีที่แล้วที่มี 74% แต่ว่าฐานรายได้มากขี้น โดยไตรมาส1 ปี2564 มีรายได้แล้ว 308 ล้านบาท โต 86%
สำหรับ กลุ่มธุรกิจ Non-Food ที่มีผลิตภัณฑ์ป้องกันและจำกัดปลวกและแมลงรบกวนแบรนด์ ‘เชนไดร้ท์’ ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งตลาดปีนี้เป็น 35% จากเดิมมี 25% โดยมีหมาก-ปริญ สุภารัตน์ เป็นพรีเซ็นเตอร์ และผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานแบรนด์ ‘ทีโพล์’ จะดำเนินการ Re-Branding ปรับโฉมภาพลักษณ์สินค้าให้ทันสมัย ใช้พรีเซ็นเตอร์เพื่อสร้างการรับรู้ผลิตภัณฑ์ คือ “เบลล่า- ราณี แคมเปน และขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าภายใต้กลยุทธ์ O2O ผสมผสานช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน ขยายตลาดจากผู้บริโภครายย่อย (B2C) ไปสู่ลูกค้ากลุ่มองค์กร (B2B)
นายสมศักดิ์ จันทร์ส่อง รองกรรมการผู้จัดการ-สายงานพาณิชย์ SWC กล่าวว่า ตลาดรวมเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในไทยมีมูลค่ากว่า 155,000 ล้านบาท เติบโตดี โดยกลุ่มธุรกิจ Food ให้ความสำคัญกับเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพภายใต้แบรนด์ ‘ซุปเปอร์ไฟต์ (SuperFight)เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรสกัด จะขยายช่องทางจำหน่าย เริ่มจากร้านสะดวกซื้อเซเว่น-อีเลฟเว่นทั่วประเทศในเดือนมิถุนายนนี้ และจะขยายให้ครอบคลุมในทุกช่องทาง มากกว่า 1 แสนร้านค้าในปีนี้ พร้อมเปิดตัว ‘โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์’ เป็นพรีเซ็นเตอร์คนแรกของแบรนด์ และจะขยายตลาดต่างประเทศ ได้แก่ กลุ่มประเทศใน CLMV ตะวันออกกลาง จีน ยุโรปและอเมริกา โดยวางเป้าหมายนำแบรนด์ SuperFight ก้าวสู่โกลบอลแบรนด์ในอนาคต ปีนี้ใช้งบตลาด 10ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 400 ล้านบาท
ส่วนนมแบรนด์ฮอกไกโด เป็นนมพาสเจอร์ไรซ์ มีแผนจะออกสินค้ายูเอชที และขายแฟรนไชส์ ซึ่งตลาดนมหรือแดรี่มิลค์นี้มีมูลค่ามากถึง 66,000 ล้านบาท ส่วนสแน็กแบรนด์มารูโจ้ เป็นประเภทถั่ว จะออกสินค้าใหม่ต่อเนื่อง โดยตลาดสแน็กรวมมีมูลค่า 37,000 ล้านบาท
บริษัทฯ ยังเตรียมออกผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชา ขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องดื่ม SuperFight ที่มีส่วนผสมของกัญชา (CBD) ผลิตภัณฑ์ถั่วแบรนด์มารูโจ้ และผลิตภัณฑ์นมและไอศกรีมแบรนด์ฮอกไกโด ก็มีแผนการออกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเทอร์ปีนี้
🙇ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : https://mgronline.com/business/detail/9640000059907
1,840 คน
©2024 TaokaeCafe.com