กระแส ดารา Call Out แบรนด์คิดหนัก! กระทบตลาด Influencer Marketing

“อินฟลูเอนเซอร์” ผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล 🌐 และมีบทบาทต่อการตัดสินใจของประชาชน ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันทำให้ศิลปิน ดารา นักแสดง ไอดอล ประกาศจุดยืนว่าเป็นแนวร่วมมีอุดมการณ์เดียวกันหรืออยู่คนละฝั่ง อย่างที่ทุกคนเรียกกันว่า 📢 Call Out แต่การออกมาแสดงจุดยืนต้องแลกกับอะไรบ้าง แล้วกระทบกับเจ้าของแบรนด์สินค้าอย่างไร น่าคิดตามนะ !
 
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดอินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง มีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยชาวโซเชียลกว่า 47 ล้านรายในไทยมีการติดตามอินฟลูเอนเซอร์อย่างน้อย 1 คน และในปีที่ผ่านมามีการใช้อินฟลูเอนเซอร์เพิ่มขึ้นกว่า 20% ปัจจุบัน คิดเป็น อันดับ 3 ของภาพรวมดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง มีสัดส่วน 10%
 
แต่สำหรับปีนี้ เมื่อเจอกับสถานการณ์โควิดระลอก 3 และ 4 ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า ขณะนี้ภาพของตลาดอินฟลูเอนเซอร์จะเติบโตหรือลดลงจากปีที่แล้วอย่างไร ?
 
ด้วยการทำการตลาดในปัจจุบัน การใช้งานอินฟลูเอนเซอร์ถือว่าตอบโจทย์และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแนบเนียน แน่นอนว่าการที่ ดาราออกมา 📢 Call Out กำลังสร้างความลำบากใจให้กับ แบรนด์ ต่าง ๆ ที่เคยทำหรือมีแผนที่จะทำ อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง ส่งผลให้แบรนด์ส่วนหนึ่งเลิกใช้อินฟลูเอนเซอร์ ทั้งที่ ออกและไม่ออก มา 📢 Call Out เนื่องจากไม่กล้าเสี่ยง
 
อย่างกรณี  นักร้อง นักแสดงและนางแบบ ที่ออกมาแสดงความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย จนเป็นเหตุให้ต้นสังกัดยกเลิกสัญญาจ้าง
 
เมื่อแบรนด์ต้องเลี่ยงใช้อินฟลูเอนเซอร์ในช่วงนี้ ด้วยความละเอียดอ่อนของสถานการณ์ทำให้ไม่มีแบบแผนตายตัวถือเป็นโจทย์ยากอีกเรื่องที่นักการตลาดต้องปรับตัว หาแนวทางใหม่ในการโปรโมทสินค้าและแบรนด์ในรูปแบบอื่น ๆ
 
ในฝั่งของโซเซียลเองก็มีทั้งสองเสียง บางกลุ่มกระตุ้นให้ดาราออกมา 📢  Call Out แสดงจุดยืนของตนเอง เพราะการที่ประชาชน กดติดตาม 👍 ยอดฟอลโลเวอร์ ของคนดัง ก็สามารถนำไปใช้ในการรับงานสินค้าหารายได้เข้ากระเป๋า เมื่อมีเสียงที่ดังกว่า จึงอยากให้ใช้เสียงแทนประชาชนบ้าง
 
ส่วนอีกด้านก็ผุดแคมเปญเปลี่ยนจาก 📢 Call Out ด่าคนอื่น เป็นร่วมมือกันดีกว่ามั้ย? ขณะเดียวกันพบว่าดารา นักแสดง นักร้องชื่อดังหลายคน ออกมาช่วยสมทบทุนจากเพื่อน ๆ ดารา ๆ นักแสดง ร่วมกันมอบสิ่งของจำเป็นให้บุคลากรทางการแพทย์ทั้งชุด PPE รถขนส่งผู้ป่วย และออกมามอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนตามพื้นที่ต่าง ๆ
 
มาถึงตอนนี้อาจจะยังชี้ชัดไม่ได้ว่า ตลาดอินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง จะเป็นอย่างไรต่อไป เพราะดาราบางคนก็ไม่กลัวที่จะถูกแบนจากสินค้าหรือธุรกิจบันเทิง และยังคงยึดมั่นอุดมการณ์พร้อม Call Out ต่อไป แต่ก็มีบางกลุ่มที่ยังคงนิ่งเงียบ และเลี่ยงในการแสดงออกทางการเมืองเช่นกัน ซึ่งล้วนเป็นสิทธิส่วนบุคคล
 
หลังจากนี้ การ 📢 Call Out คงไม่จบง่าย ๆ และไม่ใช่เรื่องใหม่อีกต่อไป เพราะทุกคนสามารถแสดงความคิดเห็นประเด็นต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมได้ ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของการเมืองเพียงอย่างเดียว ขณะที่แบรนด์อาจจะต้องคิดให้ถี่ถ้วนในการเลือกใช้อินฟลูเอนเซอร์ มาร์เก็ตติ้ง ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการ Call Out ได้เช่นกัน แค่รู้จักรับมือกับสถานการณ์ให้เป็น