“จะทำอะไรอย่าฝากไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว” คำสอนที่ใช้ได้จริงในยุคที่ธุรกิจต้องปรับตัวสูง

เคยได้ยินที่ผู้ใหญ่เค้าสอนว่า “จะทำอะไรอย่าฝากไข่ไว้ในตะกร้าใบเดียว” 🥚🧺
 
ธุรกิจใดก็ตามที่อยู่ได้โดยการพึ่งพาลูกค้าเพียงกลุ่มเดียว หรือช่องทางการขายเพียงช่องทางเดียว ถือเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงอย่างมากในยุคนี้ หรือแม้แต่การที่เรามีหลายช่องทางการขายแต่มีเพียงธุรกิจเดียวก็ถือมีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะถ้าธุรกิจนั้นของเราคือธุรกิจท่องเที่ยวต่อให้เราจะจับกลุ่มลูกค้ากี่ประเภทก็ล้วนเหนื่อยด้วยกันทั้งสิ้น ยิ่งมีหลายธุรกิจหลายกลุ่มลูกค้าและหลายช่องทางการขายมากเท่าไหร่ก็ถือเป็นการกระจายความเสี่ยงที่ดีมากเท่านั้น
 
สำหรับเจ้าของร้านอาหารอย่างเราที่มีเพียงธุรกิจเดียวนี้ เราจะเห็นได้ชัดเลยว่าร้านที่อยู่ในทำเลท่องเที่ยวที่เน้นแต่นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะต่างชาติอย่าง เช่น ภูเก็ต พัทยา เมื่อถึงวันที่ไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาธุรกิจก็แทบจะต้องปิดกิจการเพราะไม่เคยคิดสนใจนักท่องเที่ยวคนไทยหรือคนท้องถิ่นมาก่อน แต่ก็มีร้านอาหารบางแห่งที่ยังอยู่ได้ด้วยนักท่องเที่ยวในประเทศและคนละท้องที่ รวมถึงบางร้านที่ปรับตัวมาโฟกัสที่ตลาดเดลิเวอรี่

ยกตัวอย่าง เช่น Sukishi ที่ขายวัตถุดิบปิ้งย่างให้ลูกค้าโดยมีบริการส่งตรงถึงหน้าบ้านเลย รวมถึงเริ่มทํานํ้าจิ้มและวัตถุดิบสําเร็จขายในช่องทาง E-Commerce เพื่อให้ลูกค้าซื้อไปทานที่บ้านได้ รวมถึงร้านค้าออนไลน์ที่หันมาขายอาหารจริงจังกันมากขึ้น ทั้งน้ำพริก เครื่องจิ้ม อาหารปรุงสุก น้ำผลไม้คั้นสด และอีกมากมายที่ตอบโจทย์กับสถานการณ์และลูกค้าได้อย่างดี

ฉะนั้น การที่เรามีช่องทางการขายหลายข่องทาง มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลายกลุ่ม และมีสินค้าและบริการหลากหลายรูปแบบจะทำให้เรามีทางเลือกในชีวิตมากขึ้นและเพิ่มโอกาสอยู่่รอดได้มากขึ้น
 
 

‍🙇 ขอบคุณข้อมูลจากเพจคุณ Torpenguin – ผู้ชายขายบริการ