3 เทรนด์การเรียนรู้ยุคใหม่ สู่เทรนด์แฟรนไชส์ธุรกิจการศึกษา

ในวิกฤตโควิด-19 ส่งผลกระทบกับเด็กนักเรียนในประเทศไทยและทั่วโลก ต้องหยุดไปโรงเรียน โดยปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนใหม่ในรูปแบบออนไลน์หรือเรียนที่บ้าน ทำให้เด็กยุคใหม่เริ่มปรับตัวและเข้าใจระบบใหม่มากขึ้น ซึ่งในอนาคตเราจะได้เห็นรูปแบบการเรียนใหม่ ที่พ่อแม่สามารถเลือกให้เข้ากับศักยภาพของลูกได้
 
สำหรับบทความนี้ เราจะมาพูดถึงธุรกิจการศึกษา ที่จะมีรูปแบบใหม่ ๆ เข้ามารองรับการเรียนการสอน ยุคศตวรรษที่ 21 ที่ไม่ใช่แค่สถานศึกษา แต่ต้องการความยืดหยุ่นไร้ข้อจำกัดในการเรียนรู้ และที่น่าสนใจไปกว่านั้น จะเป็นเทรนด์ตลาดแฟรนไชส์การศึกษาใหม่ ๆ ให้ได้เห็นกันมากขึ้น
 
 

👨‍🏫Hybrid Homeschooling

 เป็นโมเดลใหม่ ที่รวมกันระหว่าง HomeSchool และ การเรียนในโรงเรียนปกติ กำลังนิยมในประเทศอเมริกา โดยนักเรียนจะเรียนเองที่บ้าน 2-3 วัน และไปร่วมกิจกรรมกับทางโรงเรียนอีก 2-3 วัน ตามแต่การออกแบบร่วมกันของผู้ปกครอง ข้อดีของไฮบริด โฮมสคูล เป็นการช่วยสนับสนุนพ่อแม่ที่อยากสอนลูกเอง และรู้จักเข้าสังคมไปพร้อมๆ กัน

 

👨‍🏫Online School

 โรงเรียนที่สอนผ่านระบบ online ให้เรียนรู้ด้วยตนเอง โดยไม่มีการเปิดเทอม ปิดเทอม เรียนได้ทุกเมื่อ การสอบวัดผลจะคล้ายกับโรงเรียนทั่วไปเพื่อผ่านระดับชั้น การเรียนอยู่บน Online Platform 100% ข้อดีของ Online School สามารถเรียนจากโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลได้ เช่น เด็กนักเรียนอาศัยอยู่ประเทศไหนก็สามารถเรียนผ่านระบบนี้ได้เหมือนกัน

 

👨‍🏫Digital School

 โรงเรียนยุคใหม่ไม่ต้องมีสถานที่ แต่เน้นเรื่องของ Software และ Platforms สำหรับการเรียนการสอนผ่านช่องทาง online และมีลักษณะการเปิดเทอม ปิดเทอม เข้าเรียนตามคาบเรียน เรียนสดกับครูและเพื่อนๆ ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ด้วยตนเอง ผ่าน PBL (Project Base Learning) และประเมินความคืบหน้าด้วยอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ จะเป็นเทรนด์ที่มาแรงในปีนี้แน่นอน


 
ทำไมธุรกิจแฟรนไชส์การศึกษาน่าลงทุน
 
เพราะผู้ปกครองใส่ใจพัฒนาคุณภาพการศึกษาที่ดีต่อบุตรหลานมากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสความก้าวหน้าของอาชีพการงานในอนาคต โดยตลาดแฟรนไชส์การศึกษามีมูลค่าประมาณ 42,500  ล้านบาท หรือคิดเป็น 17% ของมูลค่าตลาดแฟรนไชส์ของไทย กลุ่มธุรกิจการศึกษามีอัตราการเติบโตมากถึง 23%  โดยผู้ประกอบการสถาบันสอนพิเศษต่าง ๆ เน้นไปที่การขยายสาขาและขายแฟรนไชส์อย่างต่อเนื่อง
 
รูปแบบแฟรนไชส์ไม่ได้จำกัดแค่ด้านวิชาการอย่างโรงเรียนสอนพิเศษหรือสถาบันกวดวิชาเท่านั้น แต่ยังมีแฟรนไชส์ในรูปแบบสถาบันสอนภาษา สถาบันสอนดนตรี สอนร้องเพลง สถาบันสอนเสริมทักษะต่างๆ เช่น ทำอาหาร ศิลปะ ว่ายน้ำ ประดิษฐ์หุ่นยนต์ เป็นต้น
 
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนในธุรกิจการศึกษาต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจลงทุน เลือกสถาบันที่ได้มาตรฐานมีความน่าเชื่อถือ เช่น การให้คำแนะนำเรื่องการจัดการระบบต่าง ๆ เพื่อสามารถดำเนินธุรกิจได้เหมือนร้านต้นแบบด้วยมาตรฐานเดียวกัน มีแผนการตลาดที่ช่วยสนับสนุนทั้งทางออฟไลน์และออนไลน์ ตลอดจนการช่วยเหลืออย่างเหมาะสมในระยะยาว เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยสนับสนุนและผลักดันให้ผู้ลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์การศึกษาประสบความสำเร็จ