7 กลยุทธ์ขายอาหาร&เครื่องดื่ม ผ่านแอปฯ Food Delivery ให้ยอดขายพุ่ง
ช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้หลายร้านค้าต้องปรับตัว เพิ่มช่องทางการขายผ่านออนไลน์ และนิยมใช้แอปพลิเคชัน Food เดลิเวอรีช่วยในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น จนหลายร้านค้าเองตอนนี้ก็ปั้นยอดขายหรือปรับเปลี่ยนมาเน้นการขายผ่านออนไลน์เป็นช่องทางหลัก
ทำให้ทุกๆ วันนี้ หลายธุรกิจไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านอีกต่อไป แต่ยังสามารถขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการใช้แอปฯ เดลิเวอรีช่วยขายก็ไม่ง่ายเสมอไป เพราะเราต้องรู้จักวางแผน วิเคราะห์เพื่อที่จะทำให้ได้กำไรงดงาม และสร้างฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
📲🛵กลยุทธ์ขายอาหาร&เครื่องดื่ม ผ่านแอปฯ Food Delivery ให้ยอดขายพุ่ง🛵📲
1. คำนวณราคาและต้นทุนให้เหมาะสม
การขายผ่านแอปฯ เดลิเวอรี เหมือนจะไม่ยาก แต่จริงๆ แล้วร้านค้าต้องแบกต้นทุน อีกมากมายเพราะมีทั้งเรื่องค่าแพคเกจจิ้งเสริม และค่า GP เพิ่มเข้าไปด้วย ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้เราขายสินค้าให้ได้กำไรพอๆ กับหน้าร้าน ก็ต้องคิดคำนวณจากค่าใช้จ่ายแฝงทั้งหมด
แอปพลิเคชันเดลิเวอรีในตลาดตอนนี้ มีหลากหลายเจ้าให้เราเลือก โดยจะคิดค่า GP (Gross Profit) หรือค่าบริการที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 30-35% (ไม่รวม Vat) โดยค่าบริการ GP บางเจ้าก็จะมีสิทธิพิเศษให้กับร้านค้าที่เข้าร่วมด้วย เช่น การโปรโมทร้านบนแอปฯ, รับอัตราค่าส่งถูกที่ถูกกว่าเพื่อกระตุ้นที่ลูกค้าซื้อสินค้า
2. เลือกแอปพลิเคชันที่เหมาะกับกลุ่มลูกค้า
ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันฯ หลายเจ้าในตลาดให้เลือก ซึ่งเราอาจจะต้องพิจารณาว่าทำเลหรือละแวกที่เราอยู่นั้นส่วนใหญ่แล้วมีแอปฯ ใดที่มีผู้ให้บริการเยอะ หรือคนนิยมสั่งมากกว่ากัน
3. จัดโปรเด็ดเรียกยอดซื้อ
การจัดโปรโมชันผ่านแอปฯ เดลิเวอรี เป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นความสนใจของลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกับผู้บริโภคที่ต้องการความคุ้มค่า ซึ่งโปรโมชันที่ร้านค้าจัดนั้นอาจจะพิจารณาจากเมนูยอดฮิตที่ขายดีที่สุด หรือพิจารณาจัดโปรโมชันจากช่วงเวลาที่ลูกค้านิยมสั่ง
ซึ่งโปรโมชันที่ร้านค้าจัดต้องพยายามจัดโปรโมชันใหม่ๆ เพื่อสร้างความสนใจให้ลูกค้าไม่เบื่อ และอยากกลับมาซื้อซ้ำบ่อยๆ
4. หาช่องทางโปรโมตตัวเองผ่าน Social Media
นอกจากเปิดร้านในแอปฯ พลิเคชันแล้ว ทางร้านเองก็อาจจะต้องมีกลยุทธ์เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามา ด้วยการทำการตลาดผ่านแอปฯ โซเชียลมีเดียต่าง ๆ ด้วย เช่น
✅ ทำ Content เรียกกระแสจาก Tiktok หรือเข้าไปประชาสัมพันธ์โปรโมชันใหม่ ๆ
✅ โปรโมตผ่านช่องทางการ LIVE หรือชุมชนใน Facebook ที่เป็นกลุ่มรวมคนที่อยู่ในละแวกเดียวกันกับพิกัดที่เราอยู่ นอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขายได้บ้างแล้ว ยังทำให้ลูกค้ารู้จักแบรนด์สินค้าของเราแบบฟรี ๆ อีกด้วยค่ะ
✅ ทำช่อง YOUTUBE ในเรื่องที่เราสนใจ โดยสามารถ Tie-in สินค้าแบรนด์ของเราเอง หรือ ใครถนัดสายให้ความรู้ เช่น หากขายสินค้าประเภทเครื่องดื่ม ชา กาแฟ ก็สามารถทำ Content เกี่ยวกับการแบ่งปันสูตรกาแฟ หรือสอนชงกาแฟแบบง่าย ๆ นอกจากจะช่วยสร้างการจดจำแบรนด์ได้แล้ว ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดี น่าเชื่อถือกับแบรนด์ได้อีกด้วย
5. การออกแบบดีไซน์และภาพช่วยดึงดูดความสนใจ
ภายในแอปฯ มีร้านค้ากว่าหลายร้อยหลายพันร้านค้า ที่ขายสินค้าประเภทเดียวกันกับเรา เรียกได้ว่าแข่งขันกันดุเดือดสุด ๆ ดังนั้นเราต้องมีวิธีแย่งความสนใจจากลูกค้าให้ได้ สิ่งแรกที่ต้องทำก็คือ ภาพลักษณ์ของร้าน นั่นก็คือรูปภาพของสินค้าที่ดึงดูดใจ วิธีนี้เป็นวิธีที่ได้ผล ถึงแม้ว่าร้านเราจะเป็นร้านเล็กที่เพิ่งเปิดใหม่ก็สามารถสร้างแรงกระตุ้นการคลิกได้อย่างดี
สิ่งสำคัญถัดมาคือ ภาพประกอบที่น่าสนใจ ซึ่งหัวใจหลักของภาพถ่ายคือ ภาพอาหารที่ชัดเจน มองเห็นแล้วสามารถสื่อได้ทันทีว่าร้านเราขายสินค้าอะไร โดยภาพหลักเราควรเลือกสินค้าที่ขายดีหรืออาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของร้าน
6. ให้ความสำคัญกับเรื่องของแพคเกจจิ้ง
แพคเกจจิ้งในการใช้ในการส่งแบบเดลิเวอรีนั้นสำคัญมาก นอกจากเรื่องของความสวยงามซึ่งจะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าแล้วนั้น สิ่งสำคัญมาก ๆ คือ แพ็กเกจที่ทนทาน แน่นหนาในระดับหนึ่ง สามารถรับแรงกระแทกจากผู้ให้บริการขนส่ง หรือ Rider ได้
เช่นหากคุณขายสินค้าประเภทชา กาแฟ ในแอปฯ ก็อาจจะต้องเพิ่มตัวเลือกแพคเกจจิ้งเสริม อย่าง ขวดพลาสติกสำหรับใส่กาแฟ, ถุงสำหรับใส่น้ำแข็ง หรือ กระดาษสำหรับปิดปากแก้วกันน้ำหก เพื่อให้สินค้าส่งถึงมือผู้รับได้อย่างสมบูรณ์แบบ
7. รักษาคุณภาพและรสชาติให้สม่ำเสมอ
สิ่งแรกที่จะสร้างความประทับใจของลูกค้า คือรสชาติอาหารที่อร่อย แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าสั่งซ้ำ คือความสม่ำเสมอของคุณภาพ และรักษารสชาติอาหารให้คงที่ ไม่จำเป็นแค่เพียงช่องทางเดลิเวอรีเท่านั้น การขายหน้าร้านก็จำเป็นจะต้องมาตรฐานไว้ด้วยเช่นกัน เพราะด้วยราคาที่เราขายแอปฯ Food Delivery ที่มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้ลูกค้าคาดหวังกับคุณภาพมากขึ้น ดังนั้นเราจึงต้องใส่ใจในทุกๆ รายละเอียดก่อนส่งถึงมือลูกค้า
🧐ส่องแฟรนไชส์อาหารน่าลงทุน เปิดร้านง่ายขายบนแอปฯ🧐
คาเคาโอ้-โกโก้ [Delivery Cafe]
🍫🍫แฟรนไชส์เครื่องดื่มช็อคโกแลตสด และผลิตภัณฑ์โกโก้ที่ผลิตจากเมล็ดโกโก้จากเกษตรกรไทย 100% ซึ่งนอกจากจะได้สุขภาพที่ดีแล้ว ยังช่วยส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ชาวไทย
ปัจจุบัน คาเคาโอ้-โกโก้ เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจอยากมีธุรกิจเครื่องดื่มเป็นของตัวเอง ได้เข้ามาลงทุนกับทางแบรนด์ในรูปแบบของแฟรนไชส์ ลงทุนไม่สูง คืนทุนได้อย่างรวดเร็ว และยังสามารถขายได้จากที่บ้าน ผ่าน Application Delivery ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านอีกด้วย
💰ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น : 25,900 บาท
⏳ระยะเวลาคืนทุน : 1-2 เดือน (*ขึ้นอยู่กับทำเล กลุ่มลูกค้า และปัจจัยอื่นๆ)
📍จำนวนสาขา : 70
รายละเอียดเพิ่มเติม >> https://www.taokaecafe.com/franchise-detail/1018#pid=7
ต่อเติมกาแฟ
แบรนด์กาแฟคุณภาพ คัดสรรเมล็ดกาแฟเกรดพรีเมียมคั่วใหม่ คุณภาพดี ด้วยโรงคั่วกาแฟมาตรฐานระดับประเทศ รองรับการขายทั้งการขายหน้าร้าน และการขายผ่าน Application Delivery ที่สำคัญคือ ไม่เก็บค่า GP รายเดือนจากยอดขาย ดูแลและสอนโดยบาริสต้ามืออาชีพ เริ่มต้นเปิดร้านเองได้แม้ไม่มีประสบการณ์ พร้อมบริการหลังการขายที่ดี
💰ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น : 99,000 บาท
⏳ระยะเวลาคืนทุน : 2-3 เดือน (*ขึ้นอยู่กับทำเล กลุ่มลูกค้า และปัจจัยอื่นๆ)
📍จำนวนสาขา : 4
รายละเอียดเพิ่มเติม >> https://www.taokaecafe.com/franchise-detail/999
มนุษย์ชา MANOOD CHA
แฟรนไชส์เครื่องดื่มชามุกคุณภาพ ที่ขยายสาขามามากกว่า 100 สาขาภายใน 1 ปี โดยจุดเด่นคือคุณภาพชาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หอมกลิ่นชา
💰ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น : 69,000 บาท
⏳ระยะเวลาคืนทุน : เร็วที่สุด 3 เดือน (*ขึ้นอยู่กับทำเล กลุ่มลูกค้า และปัจจัยอื่นๆ)
📍จำนวนสาขา : 180
รายละเอียดเพิ่มเติม >> https://www.taokaecafe.com/franchise-detail/1001
การขายอาหาร&เครื่องดื่มผ่านช่องทางออนไลน์ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีร้านค้าหน้าใหม่เข้ามามามากมาย แม้ว่าจะเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน แต่ความแตกต่างจะทำให้เราสามารถอยู่ได้ท่ามกลางตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ของผู้ขายไม่ว่าจะมีหน้าร้านหรือขายผ่านแอปฯ คือความใส่ใจ และพัฒนาสินค้าของเราทุกวัน