ขายอาหารออนไลน์ที่บ้าน กับจิตวิทยาในการตั้งราคาให้ลูกค้าอยากซื้อ

วัตถุดิบราคาสูงขึ้นทำให้พ่อค้าแม่ค้าสู้ไม่ไหว จะขึ้นราคาของก็สงสารลูกค้า วิธีหนึ่งคือลดค่าใช้จ่ายในร้านให้ได้มากที่สุด อาจจะไม่ใช่ลดคุณภาพวัตถุดิบ หรือให้น้อยลงคงไม่ใช่ทางออกที่ดีเท่าไร เพราะอาจจะเสียลูกค้าได้ การเปลี่ยนจากเช่าที่ มีหน้าร้านมาขายออนไลน์ที่บ้านก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้เยอะ

การเปิดร้านอาหารออนไลน์ในช่วงเเรก ๆ เชื่อว่าปัญหาในการเปิดร้านอาหารก็ คือ การตั้งราคา ไม่รู้จะตั้งอย่างไรดีให้ลูกค้าเห็นเเล้วน่าสนใจ อยากที่จะซื้อ เพราะคู่แข่งในแพล็ตฟอร์มออนไลน์เยอะมาก ถ้าไม่ใช่ร้านติดเทรนด์ท็อปก็ยากที่จะมีคนเห็น วันนี้มี 4 จิตวิทยาการตั้งราคาให้ลูกค้าอยากซื้อมาแนะนำกันจ้า


1. จัดเซ็ตเมนูอาหาร
การทำสินค้าเป็นเซ็ตเเละคิดในราคาเป็นเซ็ต เเล้วทำให้รวมกันได้น้อยกว่าเเยก เช่น ราเมง 80 บาท หมูทอด 50 บาท นํ้าเปล่า 10 บาท นำมาจัดเป็นเซ็ต ราคาเพียง 130 บาท จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าได้ซื้อในราคาที่ถูกว่า คุ้มกว่าเดิม แต่เราได้กำไรเท่ากับจานเดี่ยว


 2. เรียงราคาโดยเริ่มจากต่ำไปสูง
โดยปกติเเล้วลูกค้าจะชอบดูว่าหน้าเเรกของเมนูก่อนเสมอ เเล้วจะชอบยึดราคาของหน้าเเรกเป็นหลักว่าร้านนี้ราคาของเเพงหรือป่าว เลยต้องเอาเมนูที่ถูก ๆ มาไว้บนๆ ของเมนูในแอปก่อน


3. ซื้อ 1 ฟรี 1
คนส่วนใหญ่ก็ชอบของฟรีกันอยู่เเล้ว เพราะลูกค้าจะรู้สึกว่าตัวเองซื้อสินค้าในราคาที่คุ้มค่า จะช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้เร็วกว่า ทำให้ของในร้านอาหารของคุณออกจากคลังเร็วมากขึ้น และเพื่อช่วยให้อาหารของคุณไม่เน่าเสียข้ามวัน


4. Decoy Pricing
เป็นการตั้งราคาที่ดูไม่เหมาะสม เทียบขนาดของ เพื่อให้ลูกค้าอยากซื้ออาหารในราคาที่เเพงขึ้น เช่น การตั้งราคาพิซซ่า 3 ขนาด 3 ราคา ให้เลือก ไซส์ S 199 บาท ไซส์ M 399 บาท ไซส์ L 499 บาท ปกติเเล้วคนจะเลือกไซส์ L เพราะมีราคาไซส์ M ที่ทำให้ดูว่าไซส์ L คุ้มค่ามากกว่าการซื้อไซส์อื่น ๆ เเต่ถ้าเอาไซส์ M ออกคนก็จะหันไปซื้อไซส์ S กันมากขึ้นทันที


ถึงข้าวของจะแพงขึ้น เเต่ก็ต้องมีวิธีที่ต่างออกไปในการอยู่รอด ไม่ใช่เพียงเพิ่มราคาอย่างเดียว เเต่ต้องมีกลยุทธ์ในการขายเเล้วดูราคาถูกลง แต่ยังได้กำไรเท่าเดิม อย่าลืมนำ 4 จิตวิทยาการตั้งราคาให้ลูกค้าอยากซื้อ ไปปรับใช้กับร้านของคุณนะ