ผักไฮโดรโปนิกส์ กับกระแสของคนรุ่นใหม่ที่ห่วงใยสุขภาพ
เรื่องของการบริโภคผักนั้นเป็นเรื่องปกติมากสำหรับคนทั่วไป นอกจากบางคนที่จะไม่ชอบความเป็นผักแบบจริงจัง ซึ่งตัวผักเองก็มีหลากหลายชนิด ตามสี ตามรส ตามคุณประโยชน์ แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าจะพูดถึงวิธีการปลูกนั้น จริงๆ ก็มีอยู่ไม่กี่วิธี ปลูกในดินตามธรรมชาติ ปลูกแบบออร์แกนิคหรือการปลูกแบบไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งวันนี้เราจะมาคุยกันถึงวิธีการปลูกในแบบสุดท้าย กับการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์
🥦การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์นั้นมีความแตกต่างจากการปลูกในรูปแบบเก่า ๆ รวมไปถึงการปลูกแบบออแกนิกด้วย ถึงแม้ว่าจะดูฟังเป็นชื่อสมัยใหม่เหมือนกัน หรือมาในช่วงเวลาใกล้ ๆ กัน แต่วิธีการต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยที่การปลูกแบบออร์แกนิค มีการใช้ดินเป็นองค์ประกอบหลักในการปลูก แต่กลับกันไฮโดรโปนิกส์นั้นไม่จำเป็นต้องใช้ดินเลย แล้วใช้อะไรแทนดิน?
สิ่งที่การปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ใช้แทนดินนั้นก็คือ น้ำ น้ำที่มีธาตุอาหารที่พืชต้องการและจำเป็นต่อการเติบโตอยู่ หรืออาจจะเป็นการปลูกพืชในสารละลายธาตุอาหารพืช เรียกได้ว่าเป็นการปลูกผักแบบไร้ดินก็ว่าได้ โดยการปลูกผักแบบนี้จะช่วยประหยัดพื้นที่ในการปลูกอย่างมาก แถมยังไม่ป่นเปื้อนสารเคมีต่าง ๆ ในดิน หรืออาจจะบอกได้ว่าการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์จะได้ผลผลิตที่สะอาดมากกว่า
เพราะสาเหตุนี้เองทำให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์มากยิ่งขึ้น จนเกิดเป็นฟาร์มผักในรูปแบบนี้มากขึ้น ไม่ได้มีแต่ตามต่างจังหวัด หรือคนที่มีพื้นที่เยอะเสมอไปที่จะสามารถปลูกผักไว้เพื่อรับประทาน หรือนำไปขายได้ แม้แต่พื้นที่ในเมือง หรือคนมีพื้นที่จำกัดก็สามารถปลูกผักไว้เพื่อการต่างๆได้เช่นกัน
แล้วอีกหนึ่งปัจจัยของการที่ผักแบบไฮโดรโปนิกส์นั้นมาแรง ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของคุณประโยชน์ของตัวผักแบบนี้เอง โดยประโยชน์ของผักโฮโดรโปนิกส์มีดังนี้
1. ผักไฮโดรโปนิกส์เป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง และไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษต่อร่างกาย
2. มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคสูง เนื่องจากการปลูกผักไร้ดินเป็นการนำสารละลายธาตุอาหารมาละลาย โดยใช้ธาตุอาหารที่เหมาะสมกับความต้องการพืช เช่นเดียวกับการปลูกพืชบนดิน แต่ต่างกันตรงที่ผักที่ปลูกในดินจะต้องอาศัยจุลินทรีย์มาเปลี่ยนเป็นอาหาร ทำให้บางครั้งหากในดินมีธาตุโลหะหนักที่เป็นพิษต่อผู้บริโภค จุลินทรีย์ก็จะเปลี่ยนให้พืชสามารถดูดธาตุที่เป็นพิษเข้าไปได้ ในขณะที่การปลูกพืชไร้ดิน จะสามารถควบคุมแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชได้ ผู้บริโภคจึงได้รับประทานผักสดสะอาดที่มีความปลอดภัยสูง
3. ข้อดีของการบริโภคผักไฮโดรโปนิกส์ คือ การคงคุณประโยชน์ที่โดดเด่นที่สุดของผักเอาไว้ได้อย่างเต็มที่ เช่น กากใยอาหาร ที่เป็นตัวช่วยในการล้างผนังลำไส้และเป็นตัวช่วยในการขับถ่าย
4. มีการรับรองว่าพืชผักไร้ดินจะมีปริมาณแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์เท่ากับพืชผักที่ปลูกบนดินหรือสูงกว่าเล็กน้อย แต่พืชผักไร้ดินจะมีกลิ่นที่มาจากน้ำมันหอมระเหยและมีรสชาติน่าชวนชิมมากกว่าพืชผักที่ปลูกบนดิน
5. ผักไฮโดรโปนิกส์ที่นิยมส่วนใหญ่จะเป็นผักสลัดที่นำมารับประทานสด เช่น ผักกรีนคอส (Green Cos) เป็นผักที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กที่ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง นอกจากจะใช้เป็นส่วนประกอบในสลัดแล้ว ยังนิยมนำไปผัดน้ำมันอีกด้วย, ผักกรีนโอ๊ค (Green Oak) หรือ ผักเรดโอ๊ค (Red Oak) เป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินซี โฟเลท และธาตุเหล็ก, ผักเรดคอรัล (Red Coral) เป็นผักที่อุดมไปด้วยใยอาหาร โฟเลท สารต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงเบต้าแคโรทีน, ผักบัตเตอร์เฮด (Butterhead) เป็นผักที่อุดมไปด้วยโฟเลทและสารต้านอนุมูลอิสระ เป็นต้น
🙇(ขอบคุณข้อมูลทางวิชาการจาก : Medthai.com เอกสารอ้างอิง : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธรรมศักดิ์ ทองเกตุ)
ตามข้อมูลที่มีมาทั้งหมดจึงไม่แปลกใจที่คนรุ่นใหม่หันมาสนใจกับการทำการเกษตรอย่างการปลูกผักมากขึ้น น้องจากช่วยในเรื่องของสุขภาพแล้ว สำหรับตัวผักไฮโดรโปนิกส์ มันยังสามารถต่อยอดไปเป็นธุรกิจได้อีกมากมาย ตามที่ใครจะสามารถคิดขึ้นมาได้