เปิดร้านชานมไข่มุก ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ มีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง
เห็นได้ชัดว่าร้านเครื่องดื่มชานมไข่มุกมีมากมายขึ้น จนทำให้ลูกค้ามีทางเลือกเยอะขึ้น แบรนด์ รสชาติ และราคา จึงเป็นอีกปัจจัยหลักที่ลูกค้านั้นมอง และตัดสินใจในการเลือกซื้อมาบริโภค
ถึงการแข่งขันในตลาดชานมไข่มุกจะสูง แต่ธุรกิจประเภทนี้ก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ในประเทศไทย
ต้นทุนชานมไข่มุกเฉลี่ยต่อแก้ว ต้นทุนประมาณ 12-13 บาท / แก้ว ขายปลีกแก้วละ 30-55 บาท เท่ากับว่าจะมีกำไรมากกว่า 50% จากราคาขายต่อแก้ว หากทำเลดี อาจจะมียอดขายวันละ 200-300 แก้วต่อวัน จะสามารถสร้างรายได้ประมาณ 1.5-2 แสนบาทต่อเดือนทีเดียว แล้วอย่างนี้ใครล่ะจะไม่อยากขาย!
ร้านชานมไข่มุกดูจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่มีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่ามีแฟรนไชส์ให้เลือกลงทุนอยู่มากมายหลายแบรนด์ แต่ถ้าถามว่าการจะเปิดร้านเองจะทำได้หรือไม่ ใช้เงินลงทุนประมาณเท่าไหร่ มาดูกันเลย
ในช่วงเริ่มต้นหากเปิดร้านเอง ขอแนะนำว่าควรจะศึกษาสูตรการชงให้ดีเสียก่อน ซึ่งสามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ต หรือจะเรียนสูตรการชงกับผู้ที่เปิดสอนทั้งแบบในสถานที่ หรือคอร์สสอนออนไลน์ ก็มีให้เลือกอยู่มากมายโดยค่าเรียนก็ไม่แพงมากนัก อยู่ที่ประมาณหลักพันบาท ในส่วนของงบลงทุนร้านขนาดเล็ก - ขนาดกลาง อยู่ที่ประมาณ 50,000 บาท ขึ้นอยู่กับการออกแบบตกแต่งร้านด้วย โดยสามารถจำแนกออกมาได้ ดังนี้
ค่าตกแต่งร้าน ประมาณ 10,000 - 20,000 บาท
- เคาน์เตอร์สแตนเลสหรือเคาร์เตอร์คีออสสำเร็จรูป
- ป้ายเมนู สติ๊กเกอร์
ค่าอุปกรณ์ ประมาณ 25,000 - 30,000 บาท
- อุปกรณ์ชงชา เช่น แก้วตวง ช้อนตวง เครื่องปั่น
- เครื่องซีลฝา
- ฟิล์มปิดฝาแก้ว
- ถังชา
- ถังใส่น้ำแข็ง
- หม้อต้ม
- ช้อนตักน้ำแข็ง
- ขวดบีบพลาสติก
- แก้วพลาสติก
- หลอด
- ถุงหูหิ้ว
- และอื่น ๆ
ค่าวัตถุดิบเริ่มแรก ประมาณ 5,000 บาท
วัตถุดิบ เช่น ใบชา น้ำเชื่อม ครีมเทียม ไข่มุก ท้อปปิ้งต่าง ๆ ผงชงเครื่องดื่ม เป็นต้น ราคาต่อแก้วจะขึ้นหรือลงขึ้นอยู่กับวัตถุดิบ และอุปกรณ์ที่เลือกใช้ในส่วนของการกำหนดราคาขายผู้ลงทุนต้องแบ่งกลุ่มลูกค้าก่อน คือ
- กลุ่ม Mass ลูกค้าสามารถซื้อได้ง่ายราคาสบายกระเป๋า ราคาโดยเฉลียอยู่ที่ 19 - 40 บาท
- กลุ่ม Medium ลูกค้าที่พอจะมีกำลังซื้อ สามารถเลือกเมนูที่มีความหลากหลายแตกต่างออกไป ราคาโดยเฉลียอยู่ที่ 40 - 70 บาท
- กลุ่ม Premium ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง ลูกค้ามองหาความพรีเมี่ยมเน้นคุณภาพ ราคาโดยเฉลียอยู่ที่ 70 - 200 บาทดังนั้นการตั้งราคาจะต้องดูว่าเราจะเน้นขายผู้บริโภคกลุ่มไหน รวมไปถึงวัตถุดิบและรสชาติของเราว่าเข้าถึงลูกค้าในแต่ละกลุ่มด้วยหรือไม่
วิธีคิดต้นทุนชานมไข่มุกต่อแก้ว
ต้นทุนต่อแก้ว = ราคาซื้อ X (ปริมาณที่ใช้จริงต่อแก้ว / ปริมาณน้ำหนักต่อถุง) คิดแยกวัตถุดิบออกมาทีละชนิดแล้วค่อยมาบวกรวมกันการตั้งราคาสินค้านั้นเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการมองคู่แข่ง และสถานการณ์ของตลาดเป็นยังไง ถ้ารู้จักการปรับใช้กลยุทธ์ราคาได้ตรงประเภทสินค้าและกลุ่มลูกค้าของเรา ผลประโยชน์นั้นก็จะเป็นของเราเช่นกัน
ปัญหาของร้านชานมไข่มุก ที่คุณอาจจะต้องเจอ
อย่างไรก็ดี ก็ใช่ว่า.. ทุกคนจะประสบความสำเร็จในการลงทุนสร้างแบรนด์หรือเปิดร้านชานมไข่มุกของตัวเองเสมอไป ทั้งนี้ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ที่คุณอาจไม่ได้เตรียมรับมือ หรืออาจคาดไม่ถึงยกตัวอย่างเช่น เจอคู่แข่งที่มีความพร้อมกว่า การตลาดและโปรโมชันที่แข็งแรงกว่า มาเปิดแข่งขันกับร้านคุณแบบใกล้ชิด ติดกันข้าง ๆ จนลูกค้าคุณปันใจไปหาแบรนด์คู่แข่ง หรือพนักงานของคุณลาออก โดยไม่ได้แจ้งให้คุณทราบล่วงหน้า จนคุณหาพนักงานใหม่ไม่ทัน (กรณีที่คุณมีงานประจำทำอยู่ หรือไม่ได้ขายเองตั้งแต่ทีแรก) หรือคุณอาจจะเริ่มประสบปัญหาสภาพคล่องเรื่องเงินทุนหมุนเวียนร้าน เกิดจากยอดขายที่ตกลง เหตุเพราะคุณไม่มีการปรับเปลี่ยนเรื่องการทำตลาด หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ให้ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้อาจทำให้แบรนด์ชานมไข่มุกที่คุณสร้างมากับมือ อาจเกิดอาการสะดุด หรือไม่ได้ไปต่อ เพราะแบรนด์ยังไม่แข็งแรงพอ ตลอดจนคุณไม่มีแนวทางเตรียมรับมือกับปัญหาหลาย ๆ เรื่อง ที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดอย่างรอบด้าน
อีก 1 ทางเลือกในการเปิดร้านชานมไข่มุกกับแฟรนไชส์
ดังนั้นทางออกและทางเลือกที่ดีอีกหนึ่งหนทาง คือ การเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ชานมไข่มุกที่มีชื่อเสียงมานาน มีระบบการบริหารร้านและหลังบ้านที่มีรูปแบบชัดเจน มีมาตรฐาน, มีความเข้มแข็งทั้งฐานลูกค้าที่มีจำนวนมาก, สาขาแฟรนไชส์ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอดจนระยะเวลาของแบรนด์ที่เปิดมานานกว่า 3-5 ปี ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เป็นองค์ประกอบที่ดี ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกลงทุนกับแบรนด์ชานมไข่มุก ที่มีศักยภาพความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ได้ไม่ยาก ซึ่งดีกว่าไปลองผิดลองถูกเอง เสียดายแรง เสียดายเวลา เสียดายเงินทุนของตัวเองโดยใช่เหตุ
สำหรับแฟรนไชส์ชานมไข่มุก ที่มีชื่อเสียง แบรนด์แข็งแรง มีกลุ่มลูกค้าและสาขาแฟรนไชส์จำนวนมากในประเทศไทยขณะนี้ ก็มีอยู่มากมาย น่าสนใจและน่าลงทุนหลายแบรนด์
โดย "เถ้าแก่คาเฟ่" คัดเลือกสรุปมาให้กับแฟน ๆ ได้เลือกพิจารณาดูแต่ละแบรนด์ ให้เหมาะสมงบประมาณการลงทุนของคุณ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันออกไป แต่หากเทียบกับที่คุณต้องลงมือทำเองทุกอย่าง ด้วยศักยภาพและความพร้อมของคุณที่มีอยู่อย่างจำกัด การเลือกลงทุนกับแฟรนไชส์ที่แบรนด์แข็งแรงแล้วนั้น ถือเป็นการช่วยลดความเสี่ยงให้คุณไปได้มาก ลองไปดูกันว่า มีแบรนด์ไหนที่น่าสนใจ น่าลงทุน และเหมาะกับคุณบ้าง
แนะนำแฟรนไชส์ชานมไข่มุก
นูโอะชา Nuochaแฟรนไชส์ชานมไข่มุก ขนมปังปิ้ง คุณภาพเยี่ยม ราคาลงทุนไม่แพง สอดคล้องกับยุคเศรษฐกิจในปัจจุบัน
ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 19,900 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
Me tea
แฟรนไชส์เครื่องดื่มชาจากจีนโดยตรง รสชาติอร่อย ให้ความสดชื่น แตกต่างไม่เหมือนใคร มีทั้งชานมไข่มุก ชาผลไม้ เป็นต้น
ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น: 300,000 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
Hop Chafe ฮ็อป ชาเฟ
แฟรนไชส์ชานมไข่มุกที่มีจุดเด่นในเรื่องของรสชาติที่นุ่มนวล ในราคาเพียง 20 บาทราคาเดียว ฟรีไข่มุก ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น: 39,000 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
มีความสุข ชานมไข่มุกกระบอก Meekhwamsook Bottle Milk Tea
แฟรนไชส์ชานมไข่มุก มาพร้อมภาพลักษณ์สุดน่ารัก สะดุดตาบรรจุภัณฑ์รูปทรงกระบอกแปลกตาไม่เหมือนใคร แถมยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 189,000 บาท พร้อมอุปกรณ์ครบ และของแถมมูลค่ากว่า 30,000 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม Chor Cher Cha ฌอเฌอชา ชานมไข่มุก
แฟรนไชส์ชานมรสชาติเข้มข้น ที่ไม่ได้มีดีแค่รสชาติ เพราะแบรนด์นี้มีการบริหารดูแลผู้ลงทุนได้ดีเยี่ยม ชนิดที่ว่าหากทำเลไม่ดีจริงเจ้าของแบรนด์ไม่ให้เปิดเด็ดขาด ผู้ลงทุนมั่นใจได้เลยว่าเปิดแล้วปังแน่นอน พร้อมวัตถุดิบ และอุปกรณ์ ลงทุนปุ๊ปเปิดขายได้เลย
ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 39,000 บาท
ดูข้อมูลเพิ่มเติม
30,173 คน
©2024 TaokaeCafe.com