เล่าเรื่องให้เก่ง ! วิธีสร้างมูลค่าให้ Brand ด้วย Storytelling
การเล่าเรื่องแบบ Storytelling สามารถดึงดูดผู้บริโภคและเปลี่ยนให้มาเป็นลูกค้าของแบรนด์คุณได้ ซึ่งเป็นการใส่คำบรรยายแบรนด์ของคุณลงในรูปแบบเรื่องราวเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ กระตุ้นให้ผู้บริโภคเรียนรู้เพิ่มเติมและซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณในท้ายที่สุด
ซึ่ง Storytelling สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แบรนด์ได้นะ ❗️❓
ขออธิบายความสำคัญเกี่ยวกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ‘มูลค่าเพิ่ม’ คือ การทำให้ราคาถูกเพิ่มสูงขึ้นจากปกติ โดยที่เป็นผลมาจากปัจจัยต่าง ๆ ที่นักการตลาดพยายามใส่เข้าไป แล้วโดนใจลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น การทำให้บรรจุภัณฑ์ ให้ดูดีจนทำให้สินค้าข้างในที่ราคาธรรมดา กลายเป็นของราคาแพง อีกหนึ่งวิธีโดยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ที่นำพาให้สินค้าของเราดูดีมีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้
นอกเหนือจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์ หรือการโฆษณาประชาสัมพันธ์ ยังมีอีกวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้สินค้านั้นโดนใจและเข้าถึงผู้บริโภคได้ นั่นก็คือ การสร้าง Story หรือการสร้างเรื่องราวให้กับตัวสินค้า ผู้บริโภคอาจได้เรียนรู้เรื่องราวจากสินค้าบางอย่างในสิ่งที่อาจคาดไม่ถึงก็ได้
ยกกรณีของ 🥛 “น้ำแร่” โดยสร้างเรื่องเล่าเกี่ยวกับคุณค่าระหว่าง “น้ำแร่” กับ “น้ำเปล่าธรรมดา” ต่างกันตรงไหน แบรนด์จะนำเสนอไปที่เรื่องราวของแหล่งน้ำแร่มาจากแหล่งนั้น แหล่งนี้ มีที่มาที่ไปและประโยชน์อย่างไร เช่น มาจากแหล่งภูเขาไฟ แหล่งน้ำพุร้อน น้ำพุเย็น โดยผ่านขั้นตอนการผลิตและบรรจุขวดอย่างไร ล้วนเป็นกลไกที่นักการตลาดนำมาเล่นกับความรู้สึกของผู้บริโภค ที่ทำให้ผู้บริโภคยอมจ่ายแพงกว่า
ทั้งนี้ ข้อควรระวัง ในการสร้าง Story ต้องห้าม Fake หากคุณสร้างตัวตนปลอม ๆ เพื่อขายสินค้า ผู้อ่านจะรู้สึกได้ทันที ลองไปดูพวกโฆษณาหารายได้ทางอินเตอร์เน็ตดูก็ได้ คุณจะเห็นรีวิวที่แปลมาจากภาษาอังกฤษ ชื่อของคนรีวิวก็อ่านแล้วแปลก ๆ เป็นต้น
3 เหตุผลที่แบรนด์ควรทำ Storytelling
1. สามารถเป็นกระบอกเสียงที่ดีในการแสดงตัวตนของแบรนด์สินค้า
2. ทำให้แบรนด์เป็นที่น่าจดจำในใจของกลุ่มลุกค้า
3. การเล่าเรื่องที่ดี จะสร้างพลังในการเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้า
แล้วอะไรควรนำมาเป็นเรื่องเล่า เพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้ากันล่ะ ? พูดง่าย ๆ เรื่องอะไรก็ตามที่น่าสนใจมากพอที่จะก่อให้เกิดเป็นเรื่องเล่าประจำสินค้านั้นได้
เรื่องเล่าจากแหล่งวัตถุดิบ >> ให้ความสำคัญกับที่มาของวัตถุดิบที่นำมาทำเป็นสินค้านั้น ๆ เป็นวัตถุดิบชั้นดี หรือหายาก หรือมาจากแหล่งที่มีชื่อเสียง
เรื่องเล่ากระบวนการผลิต >> จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า สิ่งที่กำลังสัมผัสอยู่นั้น ผ่านการใส่ใจทุกขบวนการ และคุณภาพทุกขั้นตอน แสดงถึงความจริงใจต่อลูกค้า
เรื่องเล่าผู้ผลิต หรือผู้ออกแบบ >> ให้ความสำคัญกับคนทำ หากเป็นคนที่มีชื่อเสียง จะได้ผลดีมาก เพราะลูกค้าจะรู้จักประวัติคร่าวๆ และเชื่อถือในตัวตนคนทำ
เรื่องเล่าความเชื่อ >> เป็นการนำเอาศรัทธาและความเชื่อมาเป็นจุดขายของสินค้า หรือส่อแววอันน่าเชื่อว่าจะมีอภินิหารก็ได้ แต่ไม่ควรเกินจริงเกินไปจนลดความน่าเชื่อถือ
เรื่องเล่าอิงประวัติศาสตร์ >> หยิบหยกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์มาอ้างอิง ทำให้สินค้าดูมีมูลค่าในสายตาคนที่ชอบประวัติศาสตร์ได้เช่นกัน
การสร้าง Storytelling ให้กับสินค้าหรือบริการนั้น สิ่งสำคัญคือการสร้างความแตกต่าง สร้างเอกลักษณ์ ชี้ให้เห็นว่าสินค้าหรือบริการของคุณมีประโยชน์หรือมีลักษณะที่โดดเด่น หากทำให้โดนใจผู้บริโภคได้ เชื่อเถอะว่าพวกเขายอมควักกระเป๋าจ่ายถึงแม้สินค้าของคุณจะมีราคาแพงกว่าสินค้าประเภทเดียวกันก็ตาม