7 ข้อควรรู้ก่อนเปิดคาเฟ่แมว ไม่งั้นเจ๊ง!
🐱🐈🐈ธุรกิจคาเฟ่แมวถือเป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมมานานในประเทศไทย ธุรกิจคาเฟ่แมวถือว่าเป็นร้านที่เหมาะกับคนที่ชื่นชอบและหลงใหลในตัวน้องแมวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
ต้นกำเนิดของคาเฟ่แมว
🐱“คาเฟ่ แมว (Cat Café)” มีต้นกำเนิดที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน ชื่อว่า Cat Flower Garden จากนั้นจึงลุกลามไปยังประเทศญี่ปุ่น แต่ร้านที่ทำให้เเป็นกระแส และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของคาเฟ่แมวไปทั่วประเทศญี่ปุ่น คือ “Neko no Mise”
สาเหตุที่คนญี่ปุ่นชอบคาเฟ่แมว เนื่องจากคนญี่ปุ่นมีความเครียดสูง การเล่นกับแมวที่คาเฟ่ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่จะช่วยผ่อนคลาย คล้ายกับการบำบัดความเครียดของคนรักแมว ตอบโจทย์ชีวิตที่เร่งรีบ ซึ่งทำให้ธุรกิจนี้ได้ขยายตัวไปในประเทศต่างๆ ได้แก่ เกาหลีฮ่องกง สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา ออสเตรีย ฝรั่งเศส รวมถึงประเทศไทย
แน่นอนว่าคนรักแมวอาจจะคิดว่าแค่การที่เรามีแมวอยู่แล้วก็สามารถเริ่มต้นธุรกิจได้เลย แต่ลืมมองรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ วันนี้เรามีข้อควรรู้สำหรับคนที่กำลังวางแพลนเปิดธุรกิจคาเฟ่แมวมาฝากกัน
7 ข้อที่คนอยากเปิดคาเฟ่แมวไม่ควรมองข้าม
● พื้นฐานความรู้เรื่องแมวต้องแน่น
การเปิดคาเฟ่แมวเป็นธุรกิจที่รวบรวมสายพันธ์แมวที่ค่อนข้างหลากหลายไว้ในห้อง ซึ่งโดยส่วนมากเป็นระบบปิดซึ่งขนาดไม่ได้ใหญ่มาก และปกติแมวแต่ละสายพันธ์นั้นล้วนมีโรคภัยไข้เจ็บที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะแมวแปลกๆ หรือมีสายพันธ์พิเศษเฉพาะ ดังนั้นเจ้าของร้านจะต้องมีความเข้าใจอย่างละเอียด รวมถึงพนักงานในร้านก็จะต้องเข้าใจและคอยระวังในเรื่องของปัญหาสุขภาพของน้องแมวอย่างละเอียดรอบคอบ
● ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของลูกค้า
การสร้างประสบการณ์ในการเข้ามาใช้บริการในคาเฟ่แมวเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้น การดูแลสัตว์เลี้ยงของเราให้พร้อม โดยเฉพาะในเรื่องของสภาพจิตใจ การพักผ่อนของน้องๆ เป็นเรื่องสำคัญ เพราะจะทำให้น้องแมวดูร่าเริง สมบูรณ์ ไม่แสดงอาการหงุดหงิด โดยอาจจะต้องบริหารจัดการเวลาที่พอเหมาะสม เช่น จำกัดเวลาในการใกลชิดกับลูกค้า เพื่อไม่ทำให้น้องแมวเครียดจนเกินไป
● เมนูอาหารและเครื่องดื่ม เรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
อาหารและเครื่องดื่มในคาเฟ่สัตว์ เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่แพ้กับบรรยากาศหรือความน่ารักของบรรดาน้องๆ เพราะนอกจากจะต้องให้ความสำคัญกับความสะอาด แล้วเรื่องรสชาติก็ต้องได้มาตรฐาน ห้ามมองข้ามเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลูกค้าอยากกลับมาอีกครั้ง โดยเมนูนั้นสามารถเริ่มต้นได้จาก เครื่องดื่ม เช่น ชา, โกโก้, เมนูโซดาต่างๆ รวมไปถึงกาแฟสด หรือหากต้องการมีอาหารคาวก็ควรเป็นเมนูที่ทานง่าย เข้าถึงได้ทุกคน
● ให้ความสำคัญกับความสะอาดเป็นที่หนึ่ง
ต้องบอกเลยว่าไม่มีใครชอบอยู่ในที่ที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ โดยเฉพาะในห้องแบบปิด ซึ่งเต็มไปด้วยน้องแมวหลายสิบตัว ดังนั้นทางที่ดีควรมีวิธีการจัดการ เรื่องความสะอาดตลอดทุกวัน ที่สำคัญควรแยกบริเวณปรุงอาหาร ให้ห่างจากตัวคาเฟ่อย่างเป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันเชื้อโรคและฝุ่นละอองจากน้องแมวปนเปื้อนมากับอาหารที่เราต้องเสิร์ฟ
● ทำธุรกิจตามกระแสยังไงก็เจ๊ง
การเปิดคาเฟ่สัตว์ คาเฟ่แมว คาเฟ่หมานั้น เป็นธุรกิจที่ต้องอาศัยความอดทน มีใจรักสัตว์ และมีแพชชันอย่างสูง เพราะสัตว์เป็นอะไรที่ควบคุมไม่ได้ ทั้งเรื่องนิสัยของแต่ละตัว , อาหารการกินเฉพาะ ฯลฯ
● สเปซน้องแมวเป็นเรื่องสำคัญ
น้องแมวเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวค่อนข้างสูง ไม่เหมือนกับน้องหมา ดังนั้นควรจัดพื้นที่ภายในคาเฟ่ให้เพียงพอกับจำนวนของน้องแมว รวมถึงจัดโซนหลายๆ โซน ทั้ง คอนโดแมวระดับต่างๆ, มุมสงบสำหรับพักผ่อน
● อย่าลืมที่จะมี SERVICE MILD
การบริการด้วยใจ เป็นสิ่งที่จะสร้างความประทับใจให้ลูกค้าจดจำตั้งแต่แรกๆ ที่ก้าวเข้าร้าน ซึ่งต้องบอกเลยว่า การบริการไม่ต่างจากคาเฟ่อื่นๆ ยิ่งเป็นคาเฟ่แมวแล้ว ความคาดหวังที่มีต่อร้านเราค่อนข้างจะสูง ทั้งเรื่องของน้องแมว และการถูกบริการ เพราะลูกค้าบางคนต้องการเข้ามาฮีลใจในวันที่เหนื่อยๆ เจ้าของร้าน หรือพนักงานเองก็ต้องบริการด้วยใจ สีหน้ายิ้มแย้ม แจ่มใส คอยใส่ใจลูกค้า เช่น ช่วยถ่ายรูปให้ หรือพาน้องแมวตัวท็อปมาให้ลูกค้าเล่นใกล้ๆ ก็จะยิ่งทำให้ลูกค้ามีรอยยิ้ม และอยากกลับมาอีกครั้ง
สำหรับใครที่มีแพลนเปิดธุรกิจคาเฟ่แมวหรือคาเฟ่สัตว์เลี้ยง ต้องบอกเลยว่าไม่ง่าย อาศัยแค่ใจรักไม่เพียงพอ เพราะมีหลายเรื่องที่ต้องจัดการทั้งเรื่องของเมนู การจัดการ บริการ การรักษาสุขภาพของน้องๆ ยามเจ็บป่วย และอีกข้อสำคัญคือการสร้างประสบการณ์ระหว่างลูกค้าและร้านนั่นเอง