7 อาชีพเสริมของคน GEN Z ลงทุนน้อย ทำง่าย แต่รายได้เกินคาด

เดี๋ยวนี้ทำแค่อาชีพเดียวไม่พอซะแล้ว ต้องหางานที่สองทำเสริมระหว่างงานประจำ แน่นอนว่าอาชีพเสริมไม่ได้จำกัดแค่เพียงการขายของ เปิดร้านขายเสื้อผ้า หรือซื้อแฟรนไชส์เท่านั้น แต่ในยุคดิจิตอล โดยเฉพาะยุคของคน GEN Z นี้ยังมีอาชีพใหม่ๆ อีกหลายอย่าง ซึ่งสามารถสร้าง Passive Income ให้เราได้ เผลอๆ ทำรายได้แซงงานประจำอีกด้วย 


 

1. รับหิ้วสินค้า

ชอปปิงในห้างก็สร้างรายได้ให้กับคุณได้ เพราะมีอาชีพที่เรียกว่า “รับหิ้ว” อาชีพนี้เหมาะกับคนที่ชอบช้อปปิง รักการบริการ และที่สำคัญต้องมีเวลาด้วย เพราะอาชีพรับหิ้วของ สิ่งที่ต้องลงทุนคือเรื่องของเวลา ทั้งเวลาในการตอบคำถามและพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดและความต้องการของลูกค้า รวมถึงเวลาในการออกไปซื้อและจัดส่งสินค้า 

ข้อดีของอาชีพรับหิ้วสินค้า 
- จัดสรรเวลาได้ เหมาะกับคนที่ทำงานประจำ หรือฟรีแลนซ์ ทำงานตอนเสาร์-อาทิตย์ได้ 
- ไม่ต้องใช้เงินลงทุน 


 

2. รับจ้างต่อคิว

ถือเป็นอาชีพที่เหมาะกับคนรอเก่ง ไมว่าจะเป็นการรอคิวร้านอาหาร ร้านบุฟเฟ่ต์ ร้านขนม จองบัตรคอนเสิร์ต หรือแม้กระทั่งจองคอนโด ซึ่งอาชีพนี้ต้องเน้นความรวดเร็วสักหน่อย เพราะต้องออกไปรอเป็นคิวแรกๆ ยิ่งร้านไหนดัง หรือสินค้าแบรนด์เนมแล้ว บางทีก็ต้องรอกันข้ามคืนเลยทีเดียว แต่บอกเลยว่าค่าตอบแทนนั้นคุ้มค่ามาก ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดเป็นรายชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการตกลงของลูกค้า เริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพันกันเลยทีเดียว 

ข้อดีของอาชีพรับจ้างต่อคิว  
- เป็นอาชีพอิสระ สามารถรับงานตอนไหนก็ได้ 


 

3. Game Caster

เดี๋ยวนี้เล่นเกมก็สร้างเงินได้ด้วยอาชีพ Game Caster อาชีพนี้บอกเลยว่าไม่ง่าย เพราะนอกจากจะต้องมีสกิลการเล่นเกมที่สนุก น่าสนใจแล้ว ต้องมีเอกลักษณ์ มีการเล่นที่ไม่ซ้ำใคร และนอกจากนั้นยังต้องมีสกิลในการพูดให้ดูสนุก ชวนติดตามอีกด้วย โดยวิธีการสร้างรายได้ของอาชีพนี้จะมาจากยอดเข้าชมใน Youtube หรือ Live สดของ Facebook, TIKTOK หรือ Social Media ช่องทางอื่นๆ  หากมียอดผู้ติดตามเยอะ ก็อาจจะมีรายได้จากสปอนเซอร์ หรือ Tie-In สินค้าได้อีกด้วย 

ข้อดีของอาชีพ Game Caster 
- สร้างโอกาสใหม่ๆ ในการหารายได้ 
- พลิกความชอบให้ทำเงินได้ 
- ไม่จำกัดเวลา สามารถทำได้ 24 ชม.


 

4. อินฟลูเอนเซอร์

เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่กำลังได้รับความนิยม และถือว่าเป็นอาชีพในฝันของเด็ก GEN Z หลายๆ คนเลยก็ว่าได้ เพราะตอนนี้แบรนด์ต่างๆ ก็นิยมเลือกทำการตลาดฟลูเอนเซอร์ ซึ่งสินค้าก็มีมีหลากหลายมาก ทั้ง สายบิวตี้, สายไอที, สายท่องเที่ยว, สายเทคโนโลยี ฯลฯ

อาชีพอินฟลูเอนเซอร์ต้องค้นหาความชอบและความถนัดของตัวเองให้เจอ โดยค่าตอบแทนนั้นก็ถือว่าสูงมากเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดตามอีกด้วย ยิ่งผู้ติดตามมาก เงินก็ยิ่งมาก 

✔ Nano Influencer (ผู้ติดตาม 1,000-10,000 คน)
✔ Micro Influencer (ผู้ติดตาม 10,000-100,000 คน)
✔ Macro Influencer (ผู้ติดตาม 100,000-1,000,000 คน)
✔ Mega Influencer (ผู้ติดตาม 1,000,000 คนขึ้นไป)

ข้อดีของอาชีพ Influencer 
- เป็นอาชีพอิสระ ทำได้ตลอด 24 ชม.
- ค่าตอบแทนสูง 


 

5. YOUTUBER

อีกหนึ่งอาชีพที่ยังคงทำรายได้ดีเสมอมาสำหรับ Youtuber ช่องทางหารายได้เสริมน่าสนใจและยังไม่เคยตกยุค การทำยูทูปอาจจะเป็นเรื่องยากในตอนเริ่มต้น แต่ถ้าหากว่าเราได้ลองทำไปสักพัก และหาแนวทางของช่องตัวเองเจอ ทำอย่างสม่ำเสมอ มั่นใจได้เลยว่าคุณจะมี subscriber เยอะขึ้น สิ่งที่ตามมาคือยอดการชมวิวซึ่งหมายถึงเงินที่จะเข้ากระเป๋าแบบง่ายๆ  เผลอๆ อาจจะทำเงินให้มากกว่างานประจำไปเลยก็ได้ ซึ่งรายได้ของ Youtuber นั้นขึ้นอยู่กับ 

✔  จำนวนยอดวิวของวิดีโอ
✔  จำนวนคลิกโฆษณา
✔  คุณภาพของโฆษณา
✔  ความยาวของวิดีโอ
 
ข้อดีของอาชีพ Youtuber 
- มีความอิสระ ยืดหยุ่น
- รายได้ดี


 

6. Affiliate Marketing

สำหรับใครที่ไม่ถนัดทำคอนเทนต์บน Youtube หรือ TIKTOK การทำ Affiliate ถือเป็นอะไรที่น่าสนใจ เหมาะกับสายชอปปิง เพียงแค่คุณรีวิวนิดๆ หน่อยๆ ให้มีความน่าสนใจเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ โดยในคอนเทนต์นั้นนั้นคุณก็แปะลิงก์ของสินค้าเอาไว้ หากมีคนคลิกไปที่ลิงก์นั้นคุณก็จะได้ส่วนแบ่งไปแบบง่ายๆ ไม่มีข้อผูกมัด 

ข้อดีของการทำ Affiliate Marketing 
- อิสระ ทำได้ทุกสินค้า 
- ไม่ต้องอาศัยความชำนาญ เพียงแค่บอกเล่าความน่าสนใจของสินค้าได้ 


 

7. ปล่อยเช่ามือถือในงานคอนเสิร์ต

สำหรับใครที่มีสมาร์ตโฟนเรือธง หรือรุ่นท็อปๆ หลายเครื่อง การปล่อยเช่ามือถือเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ เพราะสมัยนี้คนนิยมหาเช่ามือถือคุณภาพสูง เพื่อไปใช้ในกิจกรรมต่างๆ เช่น ไปชมคอนเสิร์ต, ส่องไอดอลคนโปรด,นอกจากนั้นก็ยังมีคนที่เช่าเพื่อไปออกงานอีเวนท์, นำเสนองานกับลูกค้า เทสเกมส์หรือแอปพลิเคชัน ซึ่งถือเป็นโอกาสของคนรุ่นใหม่ที่อยากหารายได้เสริมอีกทาง โดยอัตราการใช้บริการ จะเริ่มต้น 1,000 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่นของโทรศัพท์

สำหรับกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ ที่จะมาใช้ปล่อยเช่ามือถือจะมาจาก Twitter เป็นหลัก นอกจากนั้นหากทำเป็นกิจลักษณะก็อาจจะสร้างเว็บไซต์ออนไลน์เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านของเราได้อีกด้วย 

ข้อดีของการปล่อยเช่ามือถือ 
- เป็นธุรกิจที่มีความต้องการสูง 
- คืนทุนไว



อาชีพเสริมในยุคนี้คุณเองก็ทำได้ เพียงแค่ต้องมองหาโอกาส ต้องอาศัยความรวดเร็ว ทันโลก บวกกับความชอบส่วนตัว ที่สำคัญคือต้องรู้จักปรับตัวให้เข้ากับความชอบของกลุ่มลูกค้าของเรา