7 เทคนิคขายของตลาดนัดให้รุ่ง ! มือใหม่หัดขายควรรู้
ปี 2022 นี้ มีตลาดนัดเปิดใหม่หลายแห่ง ที่คอยต้อนรับเหล่าบรรดานักชอปไปเช็คอิน และก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับพ่อค้าแม่ค้าทุกท่านที่สนใจต้องการจับจองเปิดร้านเพื่อค้าขาย เพิ่มยอดขายให้ปัง ๆ !! โดยสามารถเข้าดูข้อมูลทำเลค้าขายในเว็บไซต์ taokaecafe.com ของเราได้เลย
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วงการพ่อค้าแม่ค้า อยากขายของหารายได้เสริมหรืออยากขยายฐานลูกค้าจากเดิมที่ทำการทำตลาดออนไลน์ในหลาย ๆ แพลตฟอร์มโดยก็อยากมีหน้าร้านของตัวเองด้วย ประกอบกับกำลังมองหาที่ทาง พื้นที่เช่าขายของ หรือทำเลเปิดร้านดี ๆ หรือสถานที่เช่าเพื่อเปิดร้านที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณแล้วล่ะก็..
เราขอแนะนำ ‘ตลาดนัด’ ซึ่งเป็นคำตอบของการเริ่มต้นทดลองขายสินค้าของเพื่อน ๆ ได้เป็นอย่างดี เหตุผลง่าย ๆ เพราะ ค่าเช่าตลาดนัดราคาถูกกว่าพื้นที่หรือทำเลเช่ารูปแบบอื่น ๆ , ตลาดนัดมีทางเลือกให้เช่าล็อกได้หลายขนาดตามสินค้าที่จะเอามาตั้งขาย และสามารถเลือกเช่าขายเป็นรายวันหรือรายสัปดาห์ได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินจ่ายค่าเช่าระยะยาว
ทั้งนี้ การขายของตลาดนัดก็มีทั้ง ข้อดีและข้อเสีย ขึ้นอยู่กับเพื่อน ๆ จะตัดสินใจหรืออาจค่อย ๆ ศึกษาและพิจารณาข้อมูลแต่ละสถานที่ ซึ่งย่อมต้องมีจุดดีและจุดด้อยแตกต่างกันออกไปอยู่แล้ว
รวมรายชื่อตลาดนัดเปิดใหม่น่าสนใจ ปี 2022
ตลาดนัดกลางคืน CHILL BOX Market สาย 2 https://www.taokaecafe.com/location-detail/679
ตลาดต้นไทร BTS แบริ่ง https://www.taokaecafe.com/location-detail/663
ตลาดแห่งมิตรภาพ Friendship Market https://www.taokaecafe.com/location-detail/639
Foodie Market Bangna https://www.taokaecafe.com/location-detail/610
ตลาด 89 เซ็นเตอร์ https://www.taokaecafe.com/location-detail/580
ตลาดบางใหญ่ สไมล์ https://www.taokaecafe.com/location-detail/294
ตลาดกิเลน https://www.taokaecafe.com/location-detail/637
แต่ในที่นี้ เราจะขอนำเสนอเทคนิคเบื้องต้น ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ พิจารณาก่อนขายของในตลาดนัดจริง ๆ หรือสามารถนำไปทดลองปรับใช้ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการออกไปเปิดร้านขายของตามตลาดนัดได้อย่างไม่เคอะเขิน หรือลดความประหม่าให้น้อยลง ในการเปิดร้านขายของในตลาดนัดครั้งต่อไปได้อย่างมืออาชีพ
7 เทคนิคขายของตลาดนัดให้รุ่ง
1. ควรไปเดินสำรวจตลาดนัดนั้น ๆ ก่อนจะเปิดร้าน ว่า คนพลุกพล่านหรือไม่ หรือพ่อค้าแม่ค้าเขาขายสินค้าอะไรกันแล้วบ้าง จะได้ไม่เปิดขายซ้ำ
2. สังเกตสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจก่อนมาเปิดขาย เช่น ต้นทุนหรือความคุ้มค่าในการไปเปิดร้านขาย, การเดินทางเข้าออกสะดวกหรือไม่, มีที่จอดรถกว้างขวางไหม, มีห้องน้ำในตัวตลาดหรือตัวโครงการหรือไม่ มีหลังคา หรือพื้นที่โปร่ง มากน้อยแค่ไหน เพื่อให้สะดวกต่อการตั้งร้านขาย
3. เมื่อคุณตัดสินใจที่จะขายของในตลาดนัดได้แล้ว ควรเลือกจองตำแหน่งพื้นที่หรือล็อกเปิดร้านให้เหมาะสมที่สุด โดยให้คุณลองมองในมุมหรือคิดแทนลูกค้าหรือคนซื้อ เช่น ไม่จองล็อกที่อยู่ไกลหรือลึกเกินไป เพราะลูกค้าอาจจะเดินไม่ถึงหรือไม่เห็นร้านของคุณ
4. การตกแต่งร้านเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งจะช่วยสะกดลูกค้า ทำให้สะดุดอยู่ที่ร้านของคุณ เช่น ถ้าเป็นร้านขายอาหารปิ้งย่าง ลูกชิ้น หรือขายยำ ก็ควรจัดวางหรือโชว์วัตถุดิบหรือหน้าตาของอาหารให้เต็มพื้นที่ขายของไปเลย เช่นเดียวกับร้านเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ก็ควรวางโชว์สินค้าเยอะ ๆ หรือเต็มพื้นที่ หรือมีมุมจัดวางสินค้าตัวอย่างที่เป็นเซตหรือ Collection สวย ๆ ก็ให้ตั้งโชว์ในตำแหน่งเด่นที่สุดของร้านเพื่อดึงดูดลูกค้า
5. การสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อร้านค้าเพื่อน ๆ พ่อค้าแม่ค้าด้วยกัน ก็จะช่วยส่งเสริมและเกิดความสัมพันธ์อันดีต่อกันด้วยนะ
6. พยายามเรียกลูกค้า(บ้าง) โดยบางครั้งการเสนอขายสินค้าให้กับลูกค้าแบบ Hard Sale จริงอยู่ว่า มันอาจะทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัดหรือรำคาญเรา แต่ในบางครั้ง ถ้าเป็นสถานที่เช่น ตลาดนัด ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เสียงเอะอะมะเทิ่ง จากพ่อค้าแม่ค้า ในการเรียกลูกค้าก็สามารถช่วยกระตุ้น สร้างความคึกคักและความน่าสนใจให้กับคนที่เดินตลาดได้ดีเลยล่ะ
7. Keep Contact หรือพยายามแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อระหว่างเรากับลูกค้าเอาไว้ ถ้ามีโอกาส เช่น แอดไลน์ (LINE) ขอเฟซบุ๊กร้านค้า, เบอร์โทรศัพท์ หรือ สอบถามว่า จะมาเปิดขายวันไหน หรือลูกค้าปกติมาเดินตลาดวันไหนเป็นประจำบ้าง ฯลฯ
เพราะไม่แน่ว่า โอกาสต่อไป ลูกค้ารายใหม่ของคุณในวันนี้ อาจจะเป็นลูกค้าประจำและอุดหนุนสินค้าและบริการของคุณในออร์เดอร์หรือปริมาณที่มากขึ้นในครั้งต่อไปก็เป็นได้